คำถาม ผมอยากจะเลี้ยงไส้เดือนดินครับขอทราบประโยชน์และวิธีเลี้ยงด้วยครับ
วิโรจน์ โรจน์พานิชย์
อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี
คำตอบ
ไส้เดือน เป็นสองเพศในตัวเดียว ลักษณะของลำตัวเป็นข้อปล้องอ่อนนิ่ม สามารถยืดและหดได้ตามต้องการ มีสีดำบ้างแดงบ้างแล้วแต่พื้นที่ ลำตัวของไส้เดือนต้องมีความชื้นเคลือบอยู่ตลอดเวลา ความร้อนแห้งเหือดจะทำให้ไส้เดือนตาย จึงพบได้ในบริเวณที่มีความชื้นแฉะและอุดมสมบูรณ์ ไส้เดือนจะทำให้ดินร่วนซุยดี และมูลของไส้เดือนยังเป็นปุ๋ยชั้นเลิศที่มีคุณค่ามหาศาลอีกด้วย
ปุ๋ยมูลไส้เดือน จัดเป็นปุ๋ยอินทรีย์ชนิดปุ๋ยคอก แต่คุณประโยชน์มากกว่าปุ๋ยคอกปุ๋ยมูลไส้เดือนจะมีสิ่งมีชีวิตอยู่จำนวนมาก เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของพืชมีองค์ประกอบของกรดฮิวมิค ที่เป็นเหมือนแหล่งเก็บสะสมสารอาหาร ที่เกิดจากการย่อยสลายของอินทรียวัตถุ ฮิวมิคจะเก็บรวบรวมอาหารพืชไว้ และปล่อยออกมาเมื่อพืชต้องการใช้งาน เมื่อใช้มูลไส้เดือนกับดินบริเวณไหน จะเป็นเหมือนการสร้างโอเอซิสในชั้นดินนั้น ทำให้ดินมีความชื้นที่เหมาะสมกับการทำงานของจุลินทรีย์ในดินอยู่ตลอดเวลา ไม่ทำให้ดินแข็งตัวแม้จะใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน ทำให้ดินร่วนซุย น้ำและอากาศระบายได้ดี และช่วยเสริมให้ระบบรากของต้นไม้กระจายได้ดี และไม่เป็นอันตรายทั้งต่อมนุษย์ สัตว์ และสิ่งแวดล้อม
การเลี้ยงไส้เดือนดิน เพื่อผลิตปุ๋ยมูลไส้เดือน มีดังนี้
1. คัดเลือกสายพันธุ์ของไส้เดือนที่จะเลี้ยง พันธุ์ที่หาได้ง่าย และนิยมเลี้ยงกันมากในขณะนี้คือ พันธุ์แอฟริกัน และพันธุ์อาร์เซน่า ไส้เดือนพันธุ์แอฟริกันจะเป็นไส้เดือนตัวใหญ่ที่มีลำตัวออกไปทางสีน้ำเงิน ส่วนไส้เดือนพันธุ์อาร์เซน่าจะเป็นไส้เดือนตัวเล็กสีแดง การเลือกพันธุ์ไส้เดือนมีผลต่อการดูแลที่ยากง่ายต่างกัน ก็ให้เลือกเอาตามความเหมาะสมและต้นทุนที่มีอยู่
2. เตรียมพื้นที่สำหรับเลี้ยงไส้เดือน อาจเลี้ยงได้หลายวิธีคือ การเลี้ยงไส้เดือนในบ่อซีเมนต์ เลี้ยงบนพื้นปูน เลี้ยงในกะละมัง หรือภาชนะพลาสติกอื่นๆ แล้วแต่ความเหมาะสมของพื้นที่ที่มีอยู่ แต่ต้องสร้างโรงเรือนเพื่อกันแดดและฝน ถ้าจะใช้วงคอนกรีตที่เป็นท่อขนาดใหญ่ หรือจะก่อบ่อคอนกรีตขึ้นมา จะต้องไม่ลึกมากนัก เพื่อที่จะสะดวกในการดูแลไส้เดือนได้อย่างทั่วถึง และให้ใช้ฟางแห้งและขี้เลื่อยเป็นวัสดุรองก้นบ่อ โดยนำวัสดุทั้งสองอย่างมาผสมคลุกเคล้าให้เข้าด้วยกันก่อน แล้วพรมน้ำจนติดกันเป็นก้อน วางเรียงให้เป็นระเบียบ แล้วทับด้วยกระสอบป่านชุ่มน้ำอีกครั้งปล่อยทิ้งไว้ 7 วัน ก่อนที่จะปล่อยไส้เดือนลงไป ไม่จำเป็นต้องปล่อยไส้เดือนจนเต็มพื้นที่ เพราะไส้เดือนใช้เวลาในการขยายพันธุ์ไม่นานนัก จะออกไข่มาทุกๆ 10 วัน ก็จะได้ปริมาณไส้เดือนเพิ่มขึ้นมาเอง
3. การเตรียมอาหาร ให้เตรียมอินทรียวัตถุต่างๆ ที่จะเป็นอาหารของไส้เดือน มี 2 วิธีคือ
1) อาจใช้ขยะสดที่เป็นผักหรือผลไม้ โดยต้องแยกขยะมีพิษ และสิ่งที่ไม่ย่อยสลายออกให้หมด แล้วนำมาหมักให้เริ่มบูด ก่อนเทลงในบ่อไส้เดือน ให้เทแบบกระจายทั่วๆ และเป็นชั้นบางๆ
2) อาจใช้ปุ๋ยคอกชนิดปุ๋ยมูลวัวนมเพียงอย่างเดียว โดยนำมาแช่น้ำ 3 วัน เพื่อคลายความร้อน และเจือจางความเค็มให้ลดลงบ้าง
4. การให้อาหาร เมื่อปล่อยไส้เดือนไปแล้ว ควรให้อาหารที่ความถี่ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ และจะต้องควบคุมโรงเรือนไม่ให้ร้อนเกินไป และระวังเรื่องฝนสาด เพราะน้ำจะเข้าไปทำให้เน่าได้ จากนั้นรอเวลาจนไส้เดือนรุ่นแรกโตเต็มวัย มีลูกหลานออกมา เราจึงคัดแยกแม่พันธุ์เดิมออกไป ทิ้งไว้เพียงรุ่นลูกเพื่อเลี้ยงต่อ
5. การเก็บมูลไส้เดือน ไส้เดือนจะถ่ายมูลออกมาอยู่บริเวณด้านบน มีลักษณะคล้ายดินที่ร่วนซุยดี ใช้เวลาประมาณ 30 วัน ก็สามารถเก็บมูลได้แล้ว ให้ใช้มือกวาดเอาผิวด้านบนออกมา หากมีไส้เดือนติดมาด้วยให้คัดออกไป แล้วเอามูลไส้เดือนที่ได้ไปตากแดดจนกว่าจะแห้งสนิทดี ประมาณ 30 นาที แล้วจึงบรรจุใส่ถุงที่มิดชิดเก็บไว้ได้ นำไปใช้ประโยชน์ในการบำรุงพื้นที่เกษตรกรรม หรือรอจำหน่ายต่อไป
การเลี้ยงไส้เดือน เพื่อผลิตปุ๋ยมูลไส้เดือนสามารถสร้างรายได้ให้กับผู้เลี้ยงเป็นเงินมหาศาลต่อปี ขณะที่ต้นทุนนั้นต่ำมากๆ อีกทั้งรูปแบบของการนำปุ๋ยมูลไส้เดือนไปใช้นั้น ก็ไม่ยุ่งยาก จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ปุ๋ยไส้เดือนนั้น กลายเป็นปุ๋ยที่มีมูลค่ามาก ช่วยสร้างรายได้แบบเป็นกอบเป็นกำให้แก่ผู้ผลิต เกษตรกรที่สะดวกจะทำไว้ใช้เอง ก็จะลดต้นทุนไปได้มาก และหากได้มูลไส้เดือนเกินกว่าปริมาณที่ต้องใช้ก็ยังสามารถนำออกจำหน่ายเป็นรายได้อีกทางหนึ่งได้ด้วย
นาย รัตวิ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี