22 พ.ย.61 จากกรณีมีผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งโพสต์ภาพและข้อความว่า "ช่วยแชร์ด้วยครับลูกอยู่ร.ร........กินนอนที่โรงเรียนลูกผมเป็นไข้อยู่สามวันแต่ครูไม่พาไปโรงพยาบาลจนลูกผมตายทิ้งลูกผมให้นอนตายมา 6 ชั่วโมง จึงพาไปโรงพยาบาลทำไมไม่พาไปตอนลูกผมเป็นไข้วันแรกหมอบอกว่าน้องตายมา 6-8 ชั่วโมง แล้วช่วยไม่ได้แล้ว ( เอาคนผิดมาลงโทษให้ได้ )" หลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ชาวเน็ต แสดงความคิดเป็นเป็นจำนวนมาก ตรวจสอบพบว่าเจ้าของเฟสบุ๊คทราบชื่อ นายประพันธ์ นิลเศษ อายุ 36 ปี เปิดเผยว่า เป็นคนโพสต์ภาพดังกล่าว เพราะต้องการให้คนผิดมารับผิดชอบหลังจากที่ลูกชายของตนเสียชีวิต เนื่องจากแพทย์แจ้งว่าลูกชายของตนเสียชีวิตก่อนจะมาถึงโรงพยาบาล และลูกชายของตน เรียนที่โรงเรียนเด็กพิเศษแห่งหนึ่ง ใน อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เป็นเวลา 4 ปีแล้ว กระทั้งเมื่อวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา ประมาณช่วงบ่ายครูที่โรงเรียนโทรมาว่าลูกชายป่วยอาการหนัก จึงรีบเดินทางไปหาที่โรงเรียน แต่พบว่าครูนำลูกชายของตนส่งโรงพยาบาลแล้ว จึงได้ไปที่โรงพยาบาล แต่แพทย์แจ้งว่าลูกชายของตนเสียชีวิตแล้ว ส่วนสาเหตุเด็กเสียชีวิตเนื่องจากอาการขาดน้ำ และติดเชื้อที่ปอด ซึ่งตนติดใจว่าทำไมโรงเรียนถึงปล่อยให้เด็กนอนป่วยไข้นานถึง 3 วันไม่พาไปโรงพยาบาล
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 21 พ.ย.61 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่โรงเรียนปัญญานุกูล ต.หนองหงส์ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช พบนางเพียงใข หงษ์ทอง ผู้อำนวยการโรงเรียน เปิดเผยและชี้แจงพร้อมกับนำหลักฐานมาให้ผู้สื่อข่าวดู โดยชี้แจงว่า ด.ช.วงศธร เป็นพิเศษ เริ่มมีอาการไข้หวัดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจาก ด.ช.วงศธร ป่วยด้วยไข้หวัด ทางโรงเรียนจัดยาแก้หวัดที่มีอยู่ในเรือนยาของโรงเรียนให้กินพร้อมจัดคนดูแลและเช็ดตัวให้ ขณะนั้น ด.ช.วงศธร มีอาการตัวร้อนเล็กน้อย ต่อมาวันเสาร์ ทางโรงเรียนได้โทรฯ ไปแจ้งนายประพันธุ์ ผู้เป็นพ่อให้ทราบว่า ด.ช.วงศธร ป่วยไข้หวัด แต่ปรากฏว่าไม่รับสาย และวันอาทิตย์ ทางโรงเรียนได้โทรฯ ไปอีก แต่ก็ติดต่อไม่ได้ จนกระทั้งช่วงเช้าวันจันทร์ โรงเรียนได้โทรฯ ไปบอกให้นายประพันธุ์ ทราบอีก ซึ่งนายประพันธ์ รับสายและเดินทางจาก จ.สุราษฏร์ธานี และทางโรงเรียนได้นำ ด.ช.วงศธร พร้อมนักเรียนอีก 8 คน รวมเป็น 9 คน ไปให้แพทย์ตรวจที่สภากาชาดสิรินธรณ์ ซึ่งนักเรียนที่พาไปตรวจมีอาการป่วยไข้หวัดเล็กน้อย ส่วนสาเหตุที่พาไปสภากาชาดแทนที่จะพาไปโรงพยาบาลทุ่งสง เนื่องจากทุกวันจันทร์ จะมีแพทย์โรงพยาบาลทุ่งสง มาร่วมกับแพทย์ที่สภากาชาดตรวจคนไข้ และที่สภากาชาดอยู่ใกล้โรงเรียน เพราะหากว่าพานักเรียนไปโรงพยาบาลทุ่งสง อาจจะล่าช้า เพราะมีคนไข้มาก โดยมีครู 2 คน คอยดูแลขณะที่พานักเรียนไปตรวจ และระหว่างพาไปตรวจ ด.ช.วงศธร ยังเดินได้ปกติพูดคุยได้ และหลังจากแพทย์ตรวจ ได้จัดยาให้นักเรียนทั้งหมด โดยการตรวจนักเรียนทางสภากาชาด ได้ออกเอกสารรับรองในการตรวจนักเรียนให้ด้วย
นางเพียงใจ กล่าวว่า หลังจากที่ครูนำนักเรียนกลับมาโรงเรียน ก็ให้นอนพักที่เรือนคนไข้ในโรงเรียน จากนั้นครูนำข้าวมื้อเที่ยงให้นักเรียนที่ป่วยรวมทั้ง ด.ช.วงศธร ด้วย แต่ ด.ช.วงศธร กินข้าวไปไม่มาก 2 - 3 คำ แล้วบอกว่าไม่อยากกินแล้ว ครูจึงจัดยาให้กิน ซึ่งขณะนั้น ด.ช.วงศธร มีอาการตัวร้อน จึงเช็ดตัวให้ ด.ช.วงศธร ตลอดเวลา ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. ด.ช.วงศธร ไม่ยอมให้เช็ดตัว ผู้ดูแลจึงแจ้งครูทราบและครูประจำหอก็มาดูแล ซึ่งขณะนั้น ด.ช.วงศธร ยังรับรู้ทุกอย่าง กระทั่ง 16.00น.ครูจึงมาให้เด็กนักเรียนที่นอนอยู่ในเรือนคนไข้ขึ้นหอนอน แต่ปรากฏว่า ด.ช.วงศธร มีอาการช็อก ครูจึงรีบนำรถของโรงเรียนพาไปโรงพยาบาลทุ่งสง ในระหว่างที่อยู่บนรถครูได้ทำการช่วยปั้มหัวใจอยู่ตลอดเวลา กระทั่งถึงโรงพยาบาลทุ่งสง เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล รีบนำส่งเข้าห้องฉุกเฉิน ซึ่งเมื่อแพทย์เวรมาตรวจแล้วพูดเสียงดังว่า เด็กเสียชีวิตมาก่อนแล้ว 6 - 8 ชั่วโมง ซึ่งจากคำพูดของแพทย์เวร ทำให้บรรดาครูและคนอื่น รวมทั้งนายประพันธ์และภรรยา ซึ่งเดินทางมาถึงได้ยินคำพูดของแพทย์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี