คิกออฟ8.8หมื่นหมู่บ้าน ผุดถนนดินซีเมนท์ผสมยางพารา

คิกออฟ8.8หมื่นหมู่บ้าน ผุดถนนดินซีเมนท์ผสมยางพารา

วันอาทิตย์ ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561, 12.43 น.

“กฤษฏา”คิกออฟทุกหมู่บ้านกว่า 8.8 หมื่นแห่ง ทำถนนดินซีเมนท์ผสมยางพาราทั่วประเทศ  สั่งปลัด กษ.เร่งกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท ปูพรมซื้อน้ำยางสดจากเกษตรกร

25 พ.ย.61 นายกฤษฏา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ล่าสุดได้รับรายงานจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) หลายจังหวัด ได้ดำเนินการทำถนนดินซีเมนท์ผสมยางพารา ซึ่งมีจังหวัดที่เป็นต้นแบบ คือ หนองบัวลำภู สงขลา อุทัยธานี สุราษฏร์ธานี ตรัง และชุมพร กำลังเริ่มดำเนินการ ตนขอชื่นชมในความร่วมมือของหน่วยงาน หากใช้น้ำยางทำถนน ทำทุกหมู่บ้าน-ชุมชนทั่วประเทศกว่า 8.8 หมื่นแห่งๆละ 1 กิโลเมตร จะสามารถยกระดับราคายางได้ และเป็นกำลังใจข้าราชการทุกคนทุ่มเทช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชนที่ประสบความความเดือดร้อนได้อย่างรวดเร็วทั่วถึงทุกพื้นที่


รมว.เกษตรฯ กล่าวอีกว่า พร้อมกันนี้ตนได้สั่งการด่วนที่สุดให้ปลัดกระทรวงเกษตรฯ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ผู้ตรวจราชการกระทรวง ผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทย(กยท.) ผู้บริหารหน่วยงานกระทรวงเกษตรฯทุกพื้นที่ เรื่องการตรวจสอบติดตามปัญหาการใช้ยางพาราในหน่วยงานภาครัฐ โดยแจ้งผู้รับทราบ ปลัดกระทรวงมหาดไทย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอทุกจังหวัด ว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนให้หน่วยงานภาครัฐใช้ยางพารา และขณะนี้ อปท.หลายแห่งได้เริ่มสนองนโยบายดังกล่าว โดยได้ใช้งบประมาณของ อปท.ไปจัดทำโครงการทำถนนด้วยยางพารา ขณะเดียวกันมีรายงานว่าการใช้เงินประมาณของ อปท.บางแห่งยังมีปัญหาการอนุมัติหรือการใช้จ่ายตามระเบียบว่าด้วยการงบประมาณของ อปท.นั้น

ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลดังกล่าวข้างต้น เป็นไปด้วยความเรียนร้อยและมีประสิทธิภาพ จึงให้ปลัดกระทรวงเกษตรฯและผู้เกี่ยวข้อง ดำเนินการให้เกษตรจังหวัด และ ผอ.กยท.จังหวัด ไปประสานงานกับท้องถิ่นจังหวัดเพื่อสอบถามผู้บริหาร อปท.หรือเจ้าหน้าที่ อปท.ในพื้นที่ว่าการจัดทำโครงการใช้ยางพาราของ อปท.ที่กำลังจะเริ่มดำเนินการหรือดำเนินการไปแล้วนั้น มีปัญหา อุปสรรคเรื่องการอนุมัติ การใช้งบประมาณตามระเบียบกฎหมายในประเด็นเรื่องใดหรือไม่ เช่น การใช้งบประมาณเหลือจ่าย การใช้งบประมาณเงินสะสมหรืองบประมาณอื่นๆของ อปท.หรือเงื่อนไขตามประกาศกำหนดราคากลาง ฯลฯ

พร้อมทั้งให้ลงไปตรวจสอบติดตามการทำถนน หรือโครงการใช้ยางพาราในโครงการอื่นๆในพื้นที่ว่ามีปัญหาในการจัดซื้อน้ำยางจากเกษตรกรหรือไม่รวมทั้งมีความก้าวหน้าอย่างไร พร้อมทั้งให้รายงานปัญหา อุปสรรค และความก้าวหน้าให้ กษ.ส่วนกลางทราบทุกระยะด้วย เมื่อกระทรวงเกษตรฯได้รับรายงานเรื่องปัญหาอุปสรรค ให้ปลัดกระทรวงเกษตรฯ และ รก.ผู้ว่า กยท.ได้ประสานกับปลัดกระทรวงมหาดไทย และ/หรืออธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และอธิบดีกรมบัญชีกลาง เพื่อหารือในแนวทางการแก้ไขปัญหาให้หน่วยปฎิบัติในพื้นที่โดยเร็วอย่าชักช้าอย่างเด็ดขาด

“ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ยังต้องเร่งประสานงานกับปลัดกระทรวงคมนาคม อธิบดีกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทหรือหน่วยรัฐอื่นๆเพื่อหารือให้พิจารณาสนับสนุนการใช้ยางพาราในถนนสายรองต่างๆทั่วประเทศ โดยใช้งบประมาณเหลือจ่ายปี 2561 หรือปี2562 หรืองบประมาณกลางปี(หากมี) ด้วย รวมทั้งเกษตรและสหกรณ์จังหวัดประสานงานกับหัวหน้าสำนักงานเกษตรจังหวัด เพื่อขอให้พิจารณาเสนอผวจ.และคณะกรรมการพัฒนาเกษตรและสหกรณ์จังหวัด สนับสนุนให้ใช้เงินงบประมาณเหลือจ่ายจากงบประมาณพัฒนาจังหวัดหรือกลุ่มจังหวัดมาใช้ในโครงการการใช้ยางพาราในหน่วยงานภาครัฐตามนโยบายของรัฐบาลอีกทางหนึ่งด้วย” นายกฤษฏา กล่าว

นอกจากนี้ผู้ตรวจราชการกระทรวงฯทุกเขตได้ออกไปตรวจติดตามการดำเนินงานตามโครงการใช้ยางพาราในหน่วยงานรัฐในพื้นที่จังหวัดตามรายละเอียดดังกล่าวโดยใกล้ชิดทั้งนี้ให้ถือว่าการตรวจราชการตามโครงการนี้เป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วนที่ต้องให้ความสำคัญเป็นกรณีพิเศษด้วย จึงขอให้ปลัดกระทรวงเกษตรฯวางระบบการตรวจและติดตามผลการตรวจราชการครั้งนี้ให้เป็นระบบเพื่อให้รัฐบาลและรมว.เกษตรฯ ได้ทราบความก้าวหน้าหรือปัญหาอุปสรรคต่างๆ และสามารถสั่งการแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพเกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรและประชาชนมากที่สุด

นายกฤษฎา กล่าวอีกว่า ได้รับรายงานจากเกษตรและสหกรณ์(กษ.) จังหวัดหนองบัวลำภูว่า ได้ประสานงานกับองค์การบริหารงานส่วนจังหวัด(อบจ.) ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดี ทางอบจ. อนุมัติงบประมาณสร้างถนนงานดินซีเมนต์ผสมยางพาราเป็นแห่งแรก เป็นถนนสาธิต ตามนโยบายส่งเสริมการใช้ยางพาราในหน่วยงานรัฐ โดย อบจ.หนองบัวลำภู ซื้อน้ำยางสดจากกลุ่มเกษตรกรห้วยเดื่อ 1,200 กิโลกรัมและจากสหกรณ์กองทุนสวนยางโนนทันยางทอง จำกัด 1,200 กิโลกรัม มาทำถนนยางพาราที่หมู่ 4 บ้านหินลับ ตำบลหนองสวรรค์ อ. เมืองหนองบัวลำภูแล้ว

ทั้งนี้ ตามรายงานระบุว่า จากราคาซื้อขายที่กรุงเทพฯ อยู่ที่กิโลกรัมละ 36 บาทนั้น กลุ่มเกษตรกรต้องมีค่าใช้จ่ายในการนำแอมโมเนียและสารกันกอกเพื่อป้องกันยางจับตัวเป็นก้อนมาใส่ในน้ำยางสด รวมทั้งค่าขนส่งเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 10.23 บาทต่อกิโลกรัม แต่ทางอบจ. รับซื้อน้ำยางสดในพื้นที่โดยเกษตรกรไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายส่วนดังกล่าวที่กิโลกรัมละ 26.67 บาท

ด้านนายแพทย์ศราวุธ สันตินันตะรักษ์ นายกอบจ. หนองบัวลำภู กล่าวว่า ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือจัดอบรมเชิงปฏิบัติการการก่อสร้างถนนงานดินซีเมนต์ผสมยางพาราแก่ผู้บริหารอบต. เทศบาล และพนักงานด้านช่างถึงการนำน้ำยางพาราสดและน้ำยางพาราข้นมาทำถนนตามมาตรฐานงานดินซีเมนต์ของกรมทางหลวงชนบทตามนโยบายของรัฐบาลเพื่อผลักดันราคายางพาราที่ตกต่ำให้มีราคาสูงขึ้น ซึ่งได้ทำถนนสาธิตไว้ที่สาย นภ. ถ. 10009 สายบ้านเก๋าโกใต้-บ้านโนนงาม ตำบลหนองสวรรค์ อำเภอ​เมืองหนองบัวลำภูสำหรับถนนสายแรกนี้ยาว 200 เมตร ผิวการจราจรกว้าง 6 เมตร คิดเป็น 1,200 ตารางเมตร  ใช้ซีเมนต์ 240 ถุงผสมดินลูกรัง คลุกเคล้าให้เข้ากัน ต่อมาใช้น้ำยางพาราสดพ่นให้ทั่วผิวถนน แล้วใช้เครื่องจักรกลเกลี่ยและคลุกเคล้าถึง 4 รอบ แล้วจึงบดอัดให้แน่น

นายกอบจ. หนองบัวลำภู กล่าวอีกว่า ยังมีอบต. 43 แห่งและเทศบาล 24 แห่งแสดงความจำนงที่จะร่วมโครงการเพื่อช่วยเหลือชาวสวนยางในจังหวัด ทั้งนี้ถนนงานดินซีเมนต์ผสมยางพาราความยาว 1 กิโลเมตร ผิวการจราจรกว้าง 6 เมตร คิดเป็น 6,000 ตารางเมตร ใช้น้ำยางสด 12,000 กิโลกรัม กิโลกรัมละ 26.67 บาท คิดเป็นค่าน้ำยางสด 320,040 บาท ทั้งนี้เมื่อรวมค่าวัสดุอื่นๆ จะใช้งบประมาณ 1,130,040 บาทในการสร้างถนนงานดินซีเมนต์ยางพาราความยาว 1 กิโลเมตร โดยทางจังหวัดหนองบัวลำภูจะรับซื้อน้ำยางสดจากสถาบันเกษตรกรในท้องถิ่นเพื่อให้เกษตรกรมีรายได้และช่วยยกระดับราคายางให้สูงขึ้นตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาล

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top