12 ธ.ค.61 เมื่อเวลา 14.00 น.ที่กองบังคับการปราบปราม พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบก.ป.พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1บก.ป. , พ.ต.ต.พลปพัฒน์ ภู่พูลทรัพย์ สว.กก.1บก.ป. , ร.ต.อ.หญิง กัญจิรา นรสาร รองสว.กก.3บก.ป. , ร.ต.อ.ฉัตรชัย เหมวิลัย รองสว.กก.1บก.ป.และเจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ศปจร.ก.) ร่วมกันแถลงข่าวผลการตรวจยึดรถยนต์ ยี่ห้อเมอร์เซเดส เบนซ์ รุ่น อี 250 ซีดีไอคูเป้ หมายเลขทะเบียน ญว 65 กทม.หมายเลขตัวถังรถ WDD2073472F134325 ซึ่งเป็นรถแฝดผิดกฎหมายที่สวมทะเบียน และนำไปใช้ในการกระทำความผิดกฎหมายจราจร สร้างความเสียหายให้แก่เจ้าของทะเบียนและรถยนต์ตัวจริง
พ.ต.อ.จรูญเกียรติ กล่าวว่า สืบเนื่องจาก น.ส.ช่อทิพย์ สักกวาที ผู้เสียหาย พร้อมด้วย นายชลิษฐ์ สักกวาที เดินทางเข้าร้องทุกข์กับทาง พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป.ให้ช่วยดำเนินการตรวจสอบ กรณีมีใบสั่งการกระทำความผิดกฎหมายจราจร จำนวน 4 ใบ ส่งมาที่บ้านของตน โดยใบสั่งระบุรุ่นรถ สี และทะเบียนตรงกัน ซึ่งเชื่อว่ามีการเอาแผ่นป้ายทะเบียนของตนไปสวมรถยนต์รุ่นเดียวกัน สีเดียวกัน ทำให้ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งทาง พล.ต.ต.จิรภพ ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน กก.1บก.ป.สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ ศปจร.ก.ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ต่อมาชุดสืบสวนได้สืบทราบว่า รถดังกล่าวได้ไปจอดอยู่ที่บริเวณลานจอดรถหน้าร้านเรือนพระยา ถ.เลียบทางด่วน-รามอินทรา ซ.ประดิษฐ์มนูธรรม 19 แขวงและเขตลาดพร้าว จึงได้นำกำลังไปตรวจสอบ ระหว่างนั้นก็พบ นายวัฒน์ แซ่อู๋ อายุ 29 ปี แสดงตนเป็นเจ้าของรถดังกล่าว
จากการสอบถามเบื้องต้น นายวัฒน์ ให้การว่า รถคันดังกล่าวเป็นของเพื่อนตน ซื้อมาจากเพจขายรถยนต์แห่งหนึ่ง ในราคา 4 แสนบาท ซึ่งได้ยืมมาขับเป็นการชั่วคราว โดยเบื้องต้นทางนายวัฒน์ไม่สามารถนำเอกสาร สำเนาคู่มือการจดทะเบียนรถมาแสดงความเป็นเจ้าของได้ ตำรวจกองปราบปรามจึงได้ทำการยึดอายัดรถคันดังกล่าวมาทำการตรวจสอบ
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า แผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีประจำปี มีการดัดแปลงเลขตัวถังรถ โดยมีร่องรอยของการขูดขีด อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะทำการส่งรถที่ตรวจยึดมาได้ให้ทางกองพิสูจน์หลักฐานเพื่อทำการตรวจสอบ รวมทั้งขยายผลว่ารถคันดังกล่าวมีที่มาที่ไปอย่างไร ก่อนดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในเบื้องต้นหากพบว่ามีการปลอมแปลงแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีประจำปี ผู้ครอบครองรถต้องถูกดำเนินคดี ในฐานปลอมแปลงหรือใช้เอกสารราชการปลอม มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 5 ปี ปรับสูงสุด 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนขยายผลหากพบว่ามีข้าราชการในสังกัดใดเข้าไปเกี่ยวข้องก็จะดำเนินคดีโดยไม่มีข้อยกเว้น
พ.ต.ต.พลปพัฒน์ กล่าวว่า ฝากเตือนประชาชนที่มีความต้องการในการซื้อรถยนต์ ทั้งจากเต็นท์รถมือสอง หรือทางอินเตอร์เน็ต จะต้องมีการตรวจสอบตัวรถจริง โดยเฉพาะเลขตัวรถ เลขเครื่องยนต์ ว่ามีการดัดแปลงขูดลบแก้ไขหรือไม่ พร้อมทั้งนำไปตรวจสอบข้อมูลการจดทะเบียนเบื้องต้นกับกรมขนส่งทางบกด้วยว่าตรงกันหรือไม่ ก่อนจะตกลงซื้อขายกัน ซึ่งการที่รถที่ซื้อมานั้น หากไม่สามารถจดทะเบียนหรือต่อภาษีผ่านตามระเบียบขั้นตอนของทางราชการที่ถูกต้องได้ด้วยตนเอง ก็ขอให้พึงระวัง อยากให้ประชาชนตระหนักถึงความน่าจะเป็นว่าของดี ของถูก ไม่มีในโลก
ขณะที่ นายชลิษฐ์ ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนซื้อรถคันนี้ จดทะเบียนในชื่อ น.ส.ช่อทิพย์ สักกวาที บุตรสาวของตน เมื่อ 7 ปีที่แล้ว ในราคา 4 ล้านบาท ไม่เคยมีปัญหาอะไร กระทั่งวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้รับใบสั่งจากเจ้าหน้าที่ว่ามีการขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งวันเวลาดังกล่าวไม่ได้ไปที่เกิดเหตุที่โดนใบสั่ง จึงได้ไปแจ้งความไว้ที่ สน.สามเสน พร้อมระบุให้เจ้าหน้าที่ทราบชัดเจนว่ารถคันดังกล่าวที่กระทำความผิดไม่ใช่ของตน ซึ่งความแตกต่าง แม้จะรถยี่ห้อเดียวกัน หรือสีเดียวกัน ป้ายทะเบียนเดียวกัน แต่ความแตกต่างจะอยู่ตรงป้ายทะเบียน ที่รถของตนจะมีกรอบป้ายสีเงิน แต่อีกคันของผู้ต้องหาจะมีสีดำ
นอกจากนี้ ลักษณะบางอย่างยังไม่ตรงกัน เช่น ไฟเดย์ไลท์ หรือเบาะคนขับ ซึ่งน่าจะเป็นการตั้งใจสวมทะเบียนและนำไปกระทำความผิด ตนจึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ แต่แล้วต่อมาตนก็ได้รับใบสั่งอีก ในวันที่ 3 ก.ย.ว่าตนขับรถทับเส้น และยังมีใบสั่งส่งมาอีก 2 ใบ ในวันที่ 27 ต.ค.ซึ่งตนได้ลงบันทึกประจำวันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกครั้งเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ และเกรงว่าจะถูกนำไปใช้ในการกระทำความผิดกฎหมาย จึงได้มาร้องทุกข์ต่อกองปราบปราม อย่างไรก็ตาม หลังทราบว่าตำรวจกองปราบปรามได้ดำเนินการยึดรถฝาแฝดของตนได้ ก็รู้สึกโล่งใจ และขอขอบคุณที่ช่วยคลี่คลายคดีนี้
ทั้งนี้ มีรายงานว่า สำหรับ นายชลิษฐ์ สักกวาที เป็นอดีตข้าราชการสังกัดกองทัพเรือ ยศ พล.ร.อ.โดยจบการศึกษาเตรียมทหารรุ่น 14 นักเรียนนายเรือรุ่น 71 ซึ่งมีเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร อย่าง "บิ๊กแจ๊ด" พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีต ผบช.น.เป็นต้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี