วันจันทร์ ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
รายงานพิเศษ : อีก3ปีเมืองนครศรีธรรมราชน้ำไม่ท่วม!  กรมชลฯทุ่มงบ9.5พันล.ดันโครงการบรรเทาอุทกภัย

รายงานพิเศษ : อีก3ปีเมืองนครศรีธรรมราชน้ำไม่ท่วม! กรมชลฯทุ่มงบ9.5พันล.ดันโครงการบรรเทาอุทกภัย

วันจันทร์ ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2561, 06.00 น.
Tag :
  •  

จากเหตุการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้โดยเฉพาะในจ.นครศรีธรรมราช ทำให้ระดับน้ำในคลองท่าดี เอ่อล้นเข้าท่วมเมืองเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กรมชลประทานซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบเรื่องน้ำของประเทศได้บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระบายน้ำออกจากคลองสายหลักจนน้ำในคลองต่ำกว่าตลิ่งทุกสาย พร้อมทั้งสูบน้ำออกจากตัวเมืองจนเข้าสู่สภาวะปกติในขณะนี้

ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า การระบายน้ำออกจากตัวเมืองครั้งนี้ต้องปิดประตูระบายน้ำคลองท่าดี เพราะถ้าเปิดประตูระบายน้ำคลองท่าดี จะทำให้น้ำไหลทะลักเข้าไปในคลองสายใหญ่ฝั่งซ้ายของ
ฝายคลองท่าดี ซึ่งจุดนี้เป็นจุดของคลองส่งน้ำ ไม่ใช่คลองระบายน้ำ คลองมีลักษณะต้นคลองใหญ่ ปลายคลองเล็ก ระบายน้ำออกได้เพียง 1.7 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยเฉพาะตรงช่วงกลางคลองจะมีอาคารอัดน้ำเป็นช่วงๆที่ไม่ได้ช่วยให้ระบายน้ำได้ดี ดังนั้น ถ้าเปิดรับน้ำปริมาณมากเข้าไปจะทำให้น้ำล้นคันคลอง ก่อความเสียหายต่ออาคารชลประทานและพื้นที่โดยรอบ และไม่ช่วยเรื่องการระบายน้ำหลากในภาพรวมแต่อย่างใด


 

 

สำหรับสิ่งกีดขวางทางน้ำที่เป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำ จากการเข้าไปแก้ไขพบว่า ส่วนใหญ่เป็นกิ่งไม้ท่อนไม้ กรมได้กำจัดออกไปเพื่อให้น้ำไหลลงสู่ปลายคลองได้สะดวกขึ้น

ส่วนการแก้ปัญหาในระยะยาวนั้น กรมชลประทานน้อมนำพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 มาดำเนินโครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.นครศรีธรรมราช

รองอธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ม.จ.จักรพันธ์เพ็ญศิริ จักรพันธุ์ องคมนตรี พล.ท.เทียนชัย จั่นมุกดา รองสมุหราชองครักษ์ นายจริย์ ตุลยานนท์ อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมเจ้าหน้าที่กรมชลประทาน และดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ผู้อำนวยการสำนักงานเลขานุการ กปร. พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานเลขานุการ กปร.ในขณะนั้น เข้าเฝ้าฯ ณ อาคารชัยพัฒนา สวนจิตรลดา พระราชทานพระราชดำริเกี่ยวกับการบรรเทาอุทกภัยพื้นที่ในเขตจังหวัดภาคใต้ ดังความตอนหนึ่งว่า...

“เนื่องจากน้ำจำนวนมากจากคลองท่าดีมักจะรวมกับน้ำหลากจากคลองเสาธง ซึ่งมีพื้นที่ลุ่มน้ำอยู่เคียงข้าง เมื่อไหลบ่าลงสู่ทะเลพร้อมๆ กัน จะทำให้เกิดน้ำท่วมตัวจังหวัดนครศรีธรรมราชอย่างรุนแรง ดังเช่นอุทกภัยที่เกิดกับตัวเมืองเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2531 ที่ผ่านมา สมควรพิจารณาขุดลอกลำน้ำที่ผ่านตัวเมืองให้ลึกพร้อมกับขยายลำน้ำเหล่านั้นให้มีความกว้างมากขึ้น รวมทั้งการพิจารณาขุดทางระบายน้ำใหม่เพิ่มอีกตามความเหมาะสม ก็จะช่วยระบายน้ำที่ไหลลงมายังตัวเมืองให้ผ่านลงสู่อ่าวไทยได้รวดเร็วยิ่งขึ้น...”

อย่างไรก็ตามเนื่องจากพื้นที่เศรษฐกิจของ จ.นครศรีธรรมราช เป็นชุมชนเมืองที่มีราษฎรอาศัยหนาแน่น และมีลักษณะพื้นที่ทอดยาวขวางทิศทางการไหลในแนวทิศเหนือ–ใต้ เมื่อเกิดฝนตกหนักบริเวณเทือกเขานครศรีธรรมราชจะมีปริมาณน้ำไหลผ่านเข้าตัวเมืองมาก ประกอบกับชุมชนเมืองมีการพัฒนาพื้นที่ ทำให้เกิดการบุกรุกแนวเขตคลองธรรมชาติ ส่งผลให้คลองธรรมชาติมีขนาดเล็กลงและตื้นเขิน ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการระบายน้ำออกสู่ทะเล ทำให้เขตเทศบาลนครศรีธรรมราชและบริเวณใกล้เคียงเกิดปัญหาอุทกภัยเป็นประจำทุกปี

 

ทั้งนี้ จากการศึกษาทางอุทกวิทยาพบว่า น้ำที่ท่วมตัวเมืองนครศรีธรรมราชมาจากคลองท่าดี ซึ่งคลองท่าดีจะไหลไปลงคลองต่างๆและออกทะเลที่คลองท่าซัก และคลองปากนคร ซึ่งทั้ง 2 คลองนี้ มีความสามารถระบายน้ำรวมกันได้ 268 ลบ.ม./วินาที ทั้งนี้ น้ำในคลองท่าดีที่รอบปีการเกิดซ้ำ 25 ปี มีปริมาณน้ำ 750 ลบ.ม./วินาที ซึ่งมากกว่าความสามารถของคลองท่าดีที่ระบายน้ำได้เพียง 100 ลบ.ม./วินาที จึงทำให้เกิดอุทกภัยขึ้นทุกปี ดังนั้น จึงต้องเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำโดยขุดคลองระบายน้ำสายใหม่ เพื่อผันน้ำเลี่ยงตัวเมืองนครศรีธรรมราช ให้สามารถเร่งการระบายน้ำออกทะเลให้ได้ในอัตรา 650 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

การดำเนินงานที่ผ่านมา กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้หารือกันและมีมติเห็นควรใช้ระบบคลองส่งน้ำควบคู่กับการระบายน้ำเพื่อผันน้ำไม่ให้เข้าเมืองขุดขยายคลอง–ขุดลอกคลองเดิม ตามแผนที่เคยศึกษาไว้เดิม และให้ศึกษาทบทวนแนวทางแก้ปัญหาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราชอย่างเป็นระบบ ซึ่งกรมชลประทานเริ่มดำเนินการทบทวนรายงานการศึกษาและแบบรายละเอียดในปี 2555 เพื่อพิจารณาแนวทางเลือกก่อสร้างคลองในรูปแบบต่างๆให้ระบายน้ำได้ 750 ลบ.ม.ต่อวินาที โดยการศึกษาวางโครงการแล้วเสร็จเมื่อเดือนกันยายน 2559 และการสำรวจ–ออกแบบแล้วเสร็จในปี 2560

 

ทั้งนี้ โครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จะประกอบด้วยงานสำคัญๆคือ การขุดคลองระบายน้ำสายใหม่ 3 สายระบายน้ำได้ 650-750 ลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.)ต่อวินาที ความยาวรวม 18.64 กิโลเมตร การปรับปรุงคลองระบายน้ำเดิม 2 สาย คือ คลองวังวัว ยาว 5.9 กิโลเมตร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการระบายน้ำเป็น 850 ลบ.ม.ต่อวินาที และคลองท่าเรือ-หัวตรุด ยาว 11.9 กิโลเมตร ให้ระบายน้ำได้ 100 ลบ.ม.ต่อวินาที พร้อมก่อสร้างประตูระบายน้ำ 7 แห่ง เมื่อแล้วเสร็จจะบรรเทาอุทกภัยในเขตเมืองนครศรีธรรมราชและลดพื้นที่น้ำท่วมได้ประมาณร้อยละ 90 ครอบคลุม 12 ตำบล มีประชาชนได้รับประโยชน์ 32,253 ครัวเรือน และยังกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งได้ประมาณ 5.5 ล้าน ลบ.ม. มีพื้นที่ได้รับประโยชน์ 17,400 ไร่

“ขณะนี้กรมชลประทานเร่งรัดดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จภายใน 3 ปี (ปี 2561-2563) ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม2560 วงเงินงบประมาณโครงการ 9,580 ล้านบาท” ดร.ทวีศักดิ์กล่าว

สำหรับความคืบหน้าการดำเนิน โครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราชฯ ขณะนี้เริ่มดำเนินการขุดคลองระบายน้ำสายใหม่ทั้ง 3 สาย ตั้งแต่ปลายปี 2560 เป็นต้นมา ส่วนงานต่อก่อสร้างประตูระบายน้ำได้เริ่มดำเนินการที่ ประตูระบายน้ำคลองท่าเรือ-หัวตรุดแล้ว รวมทั้งงานปรับปรุงคลองเดิมก็เริ่มดำเนินการแล้วเช่นกัน ซึ่งกรมชลประทานจะเร่งรัดงานทุกงานให้แล้วเสร็จตามเป้าหมายคือ ภายในปี 2563

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • กรมประมงจับลักลอบนำเข้าปลากระพงกว่า7ตัน กรมประมงจับลักลอบนำเข้าปลากระพงกว่า7ตัน
  • \'นฤมล\'ต้อนรับ รมต.ทรัพยากรน้ำฯ เนเธอร์แลนด์ ผนึกกำลังเสริมแกร่งระบบจัดการน้ำให้ยั่งยืน 'นฤมล'ต้อนรับ รมต.ทรัพยากรน้ำฯ เนเธอร์แลนด์ ผนึกกำลังเสริมแกร่งระบบจัดการน้ำให้ยั่งยืน
  • เปิด 4 พิกัด‘น้ำปลา ตราหับเผย’ พลังความร่วมมือ สร้างโอกาสจากปลาหมอคางดำ เปิด 4 พิกัด‘น้ำปลา ตราหับเผย’ พลังความร่วมมือ สร้างโอกาสจากปลาหมอคางดำ
  • พลิกโฉมเมืองด้วยการจัดรูปที่ดิน ความร่วมมือรัฐ – ท้องถิ่น - ประชาชนขับเคลื่อนโครงการพัฒนาเมืองน่านสู่อนาคต พลิกโฉมเมืองด้วยการจัดรูปที่ดิน ความร่วมมือรัฐ – ท้องถิ่น - ประชาชนขับเคลื่อนโครงการพัฒนาเมืองน่านสู่อนาคต
  • \'ธนาคารที่ดิน\'มอบสิทธิ มอบสุขที่ดินทำกินเกษตรกร เชียงใหม่-ลำพูน 'ธนาคารที่ดิน'มอบสิทธิ มอบสุขที่ดินทำกินเกษตรกร เชียงใหม่-ลำพูน
  • เกษตรฯร่วมงานJapan-ASEAN Startup Business Meeting Fair 2025 เกษตรฯร่วมงานJapan-ASEAN Startup Business Meeting Fair 2025
  •  

Breaking News

'ชิน-ลิลลี่'อยากอุ้มลูกร่วมงานวิวาห์ ฝ่ายชายฟาดยับป้องภรรยา ดราม่าร้องไห้ถ่ายคอนเทนต์

‘สอน.’ขับเคลื่อนพลาสติกชีวภาพ จัดกิจกรรม OCSB GREEN SWITCH TO BIG IMPACT

'หมอฟรัง นรีกุล'เตือน! กินผิดชีวิตพัง ล้วงคอนับแคลจนเครียด กว่าจะเข้าใจคำว่ากินดี

‘พรรคส้ม’อ้างหลายเหตุผล ชี้ยังไม่เหมาะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved