จากกรณีพายุโซนร้อนปาบึกพัดถล่มพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะจังหวัดนครศรีธรรมราชได้รับความเสียหายอย่างหนัก และเกิดน้ำท่วมซ้ำทำให้ราษฏรได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส ต้นไม้ เสาไฟฟ้าหักโค่นล้มระเนระนาด ไฟฟ้าดับเกือบทั้งเมือง เมื่อวันที่ 4 ม.ค.62 ที่ผ่านมา แลล่าสุดเมื่อวานนี้ (7 ม.ค.) พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.เดินทางลงตรวจเยี่ยมในพื้นที่ ต.คลองน้อย ต.บางพระ ต.แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง อ.เมือง และพื้นที่ ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมกำลังให้ทุกฝ่ายเร่งฟื้นฟูสภาพความเสียหายโดยเร่งด่วน
8 ม.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่หอประชุมประชารัฐ บ้านวังรัก หมู่ 5 ต.ไชยมนตรี อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา พร้อมคณะกรรมการบริหารพรรคได้เดินทางมาเปิดศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยพายุโซนร้อนปาบึก โดยมีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาติพัฒนา และชาวบ้านในพื้นที่มาให้การต้อนรับจำนวนกว่า 300 คน นอกจากนี้ได้มีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่ภาคใต้หลายจังหวัดเดินทางนำน้ำดื่ม อาหารแห้ง มาบริจาคช่วยเหลือเพื่อให้ทางศูนย์ ฯประสานงานนำไปมอบให้กับทางราชการนำออกแจกจ่ายช่วยเหลือผู้ประสบภัยในแต่ละพื้นที่ต่อไป
จากนั้นนายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ได้เดินทางเข้าไปสำรวจความเสียหายในพื้นที่ ต.กำแพงเซา อ.เมือง โดยพบว่าเกือบทุกหมู่บ้าน อาทิ หมู่ 2 หมู่ 7 ต.กำแพงเซา มีต้นไม้น้อยใหญ่ รวมทั้งเสาไฟฟ้าหักโค่นล่มขวางถนนและทับบ้านเรือนของประชาชนเสียหายนับร้อยหลังคาเรือนทั้งเสียหายทั้งหลังโดยการระดมกำลังชาวบ้านจิตอาสาเข้ามาช่วยตัดหัน รื้อต้นไม้ ที่ล้มขวางถนนจนรถสามารถสัญจรไปมาได้ แต่ในส่วนที่ต้นไม้ล้มพาดสายไฟฟ้าชาวบ้านยังไม่กล้าเข้าไปตัดฟันต้นไม้ เพราะเกรงจะได้รับอันตรายจากกระแสไฟฟ้าซ็อตได้ แม้ว่าในข้อเท็จจริงไฟฟ้ายังดับเป็นวันที่ 5 และส่วนใหญ่ยังไม่มีหน่วยงานราชการใด ๆ ที่เข้าไปเยี่ยวยาช่วยเหลือในพื้นที่เลย ยกเว้นรถจากการไฟฟ้าที่เข้ามาวันแรกโดยมีการบรรทุกเสาไฟฟ้าเพื่อเข้าไปเปลี่ยนเสาที่หักในพื้นที่ แต่การทำงานเป็นไปอย่างล่าช้า และเมื่อมีรถจากต่างพื้นที่วิ่งผ่านเข้าไปในพื้นที่ชาวบ้านจะวิ่งมาขอความช่วยเหลือเรื่องน้ำดื่มและอาหาร ทางคณะของนายเทวัญ จึงได้มอบน้ำดื่มและอาหารแห้งที่ใส่ติดมาในรถแจกจ่ายให้กับชาวบ้านเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นไปพลาง ๆ ก่อน
นายเทวัญ ลิปตพัลลภ กล่าวว่าเท่าที่ติดตามข่าวทราบว่า ความเสียหายจากพายุโซนร้อนปาบึกสร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง แม้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนจะระดมกำลังลงพื้นที่เยียวยาช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องแต่พื้นที่ได้รับความเสียหายมนเป็นพื้นที่กว้างขวางหลายอำเภอของจังหวัดนครศรีธรรมราช กำลังเจ้าหน้าที่เท่าที่มีอยู่จึงไม่เพียงพอ ทางว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาติพัฒนา ได้ติดต่อสอบถามว่าทางพรรค จะมีส่วนเยียวยาช่วยเหลือผู้ประสบภัยในจังหวัดนครศรีธรรมราชอย่างไรได้บ้าง แค่น้ำดื่มและอาหารแห้งก็ยังดีจะได้ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นการเบื้องต้นไปก่อน
"ตนจึงตัดสินใจเปิดศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยพายุโซฯร้อนปาบึกขึ้นในหมู่ 5 บ้านวังรัก ริมถนนสายเบญจมาราชูทิศ - นาพรุ ต.ไชยมนตรี อ.เมืองนครศรีธรรมราช เป็นศูนย์ประสานงานรับบริจาคน้ำดื่ม ข้าวสาร อาหารแห้ว เครื่องอุปโภคบริโภคทุกชนิดและจะประสานงานกับผู้ใจบุญจากส่วนกลาง และทั่วประเทศเพื่อระดมธารน้ำใจช่วยบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยพายุปาบึกอย่างต่อเนื่อง"
สำหรับเรื่องการเมืองโดยเฉพาะการส่งผู้สมัครทั่วประเทศ ทางพรรคชาติพัฒนาพร้อม 80 เปอร์เซ็นต์จะทางพรรคกำลังจัดเตรียมทุกอย่างคาดว่าภายในวันนี้ตัวผู้สมัครทั่วประเทศจะนิ่ง หลังจากนั้นจะเริ่มประชุมกำหนดยุทธศาสตร์และนโยบายของพรรคเพื่อใช้ในการหาเสียงต่อไป ในมีนโยบายที่จะแก้ปัญหาในของภาคใต้หลายนโยบายโดยเฉพาะนโยบายเซาร์เทิร์นซีบรอด์ที่ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ท่านทำไว้แต่ไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์เราก็อาจจะต่อยอดโครงการนี้ อย่างไรก็ตามตอนนี้ในทางการเมืองคงต้องหยุดเอาไว้ก่อน ขอทำในเรื่องการประสานงานช่วยเหลือเยียวยาประชาขนชาวนครศรีธรรมราชและจังหวัดอื่น ๆ ในภาคใต้ให้เสร็จสิ้นเสียก่อน เพราะเท่าที่ตนลงพื้นที่ตรวจสอบความเสี่ยหายมันมีมากเกินกว่าที่คาดคิดประชาชนผู้ประสบภัยอยู่ในสภาพน่าสงสารมากจริงๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี