"สำนักงานตำรวจแห่งชาติ"ย้ำผู้ประกอบการ พนักงานรักษาความปลอดภัยที่ยังไม่ได้รับใบอนุญาต เร่งดำเนินการก่อน3มี.ค.62 หากพ้นกำหนดมีความผิด
11 ม.ค.62 ตามพระราชบัญญัติธุรกิจรักษาความปลอดภัย พุทธศักราช 2558 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ วันที่ 4 มีนาคม 2559 เป็นต้นมา และตามประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 67/2559 ลงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2559 ที่ให้ผู้ประกอบการธุรกิจบริษัทรักษาความปลอดภัย, ผู้ประกอบอาชีพพนักงานรักษาความปลอดภัยและสถานฝึกอบรม ดำเนินการลงทะเบียนเพื่อขอรับใบอนุญาต นับตั้งแต่พระราชบัญญัติได้มีผลบังคับใช้จนถึงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมานั้น และได้มีการขยายระยะเวลาการฝึกอบรมหลักสูตรการรักษาความปลอดภัยให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 3 มีนาคม 2562 ปรากฏว่ายังคงมีบริษัทรักษาความปลอดภัยบางบริษัท และพนักงานรักษาความปลอดภัยบางรายยังไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน รวมทั้งยังไม่ผ่านการฝึกอบรมในภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ระยะเวลา รวม 40 ชั่วโมง จากสถานฝึกอบรมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติทุกจังหวัด ที่มีทั้งสิ้นจำนวน 123 แห่งทั่วประเทศ นั้น
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบธุรกิจรักษาความปลอดภัยและพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ยังไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน ให้รีบดำเนินการตามระยะเวลาที่กำหนด หากฝ่าฝืนหรือพ้นกำหนดจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติธุรกิจรักษาความปลอดภัย พ.ศ.2558 ซึ่งมีความผิดตามกฎหมาย พนักงานรักษาความปลอดภัยมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ประกอบธุรกิจรักษาความปลอดภัยมีโทษจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ www.saranitet.police.co.th
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี