สมุนไพรไม่ใช่ผู้ร้าย! “เภสัชอภัยภูเบศร”ชี้เป็นเพราะใช้ผิดวิธี ระบุผู้ป่วยตับไตไม่ควรกิน ด้านแพทย์ รพ.นเรศวร แนะ 6 กฎเหล็ก ห่างไกลตับไตเสื่อม
8 ก.พ.62 กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ร่วมกับ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี พร้อมด้วยภาคีเครือข่าย ร่วมถอดบทเรียนสมุนไพร “หนานเฉาเหว่ย” จากกรณีที่ประชาชนบางส่วนนำไปรับประทานอย่างไม่ถูกวิธี แล้วมีผลข้างเคียงตามมา
นายแพทย์มรุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า จากกรณีที่ประชาชนได้รับข้อมูลจากช่องทางต่างๆ เช่น การได้รับข้อมูลผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย การบอกต่อจากคนรอบข้าง ข้อมูลจากไลน์ เฟสบุ๊ค และยูทูป เกี่ยวกับประโยชน์ของสมุนไพร “หนานเฉาเหว่ย” ว่าสามารถรักษาโรคเบาหวาน ความดันโลหิตและไขมันในเลือดให้หายขาดได้ โดยไม่ต้องรับประทานยาแผนปัจจุบัน ซึ่งความเชื่อดังกล่าวได้รับข้อมูลโดยไม่ได้พิจารณารายละเอียด รวมถึงวิธีการใช้ ข้อควรระวังที่ถูกต้อง ซึ่งถ้ารับประทานไม่ถูกต้องก็จะมีผลเสียต่อร่างกายได้
นายแพทย์มรุต กล่าวอีกว่า ประโยชน์ของหนานเฉาเหว่ย ตามศาสตร์การแพทย์พื้นบ้าน คือ ช่วยลดความดันโลหิต ลดน้ำตาล และลดไขมันในเลือด แก้ไข้ แก้ไอ รักษาฝี แผล อาการปวดศีรษะ บำรุงร่างกาย เป็นยาแก้พิษ ขนาดการใช้ วันละ 1-3 ใบ ไม่กินทุกวัน 2-3 วันกินที อาจลวกก่อนใช้ เพื่อลดความขมและฤทธิ์ยา มักกินไม่เกินวันละ 5 ใบ
“จากการวิเคราะห์สาเหตุที่ทำให้หนานเฉาเหว่ย มีผลเสียต่อร่างกาย คือ การใช้ในปริมาณที่สูง เกินมากกว่า 5 ใบ กินติดต่อกันทุกวัน ค่าไตไม่ดีก่อนใช้สมุนไพร และผู้ป่วยหยุดใช้ยาโรคประจำตัวที่เป็นยาแผนปัจจุบัน แล้วใช้สมุนไพรหนานเฉาเหว่ยเพียงอย่างเดียว และที่พบบ่อยคือกินผิดชนิด เนื่องจากสมุนไพรหลายชนิดที่มีลักษณะที่เหมือนกันจนแยกไม่ออก” นายแพทย์มรุต กล่าว
ด้านแพทย์หญิงสุภินดา ศิริลักษณ์ หัวหน้าภาคอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นแพทย์รักษาผู้ป่วยไต ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง หรือไตเสื่อม ถึง 8 ล้านคน ที่น่าตกใจคือประชาชน 98% ไม่รู้ตัวว่าเป็นโรคไตเสื่อม จนกระทั่งมันเข้าสู่ระยะที่ 5 ซึ่งเป็นเกือบระยะสุดท้ายที่ออกอาการ และยากที่จะรักษาแล้ว โดยกลุ่มเสี่ยงโรคไตเสื่อม คือ กลุ่มคนไข้ความดันสูง เบาหวาน จึงอยากให้คนกลุ่มนี้เช็คเลือดอย่างน้อยปีละครั้ง ข้อบ่งชี้อีกอย่างให้สังเกตจากการปัสสาวะกลางคืนบ่อย เป็นภาวะเสี่ยงได้เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ผู้ป่วยที่มีพฤติกรรมที่ชอบหาซื้อยาแก้ปวดมารับประทานเอง ทั้งร้านขายยาและยาชุด โดยเฉพาะยากลุ่มที่ออกฤทธิ์เร็ว หากรับประทานต่อเนื่องจะมีผลกระทบทั้งไตและตับ อย่างไรก็ตามมีรายงานจากประเทศเบลเยียมของกลุ่มผู้ที่ใช้สมุนไพรลดน้ำหนักว่ามีภาวะไตเสื่อม เนื่องจากใช้สมุนไพรผิดตัว
“หมออยากแนะนำว่าการจะดูแลตับไตให้อยู่กับเราไปนานมี 6 ข้อที่อยากฝากไว้คือ 1.อย่าซื้อยามารับประทานเอง 2.ไม่แนะนำให้ใช้สมุนไพรกับผู้ป่วยโรคไต เพราะผลการวิจัยส่วนใหญ่จะส่งผลดีกับคนปกติ แต่สำหรับผู้ป่วยยังไม่มีงานวิจัยที่รองรับการรักษา 3. งดรับประทานเค็ม และอาหารที่ใส่ผงชูรสมาก 4. ควบคุมน้ำหนักอย่าให้อ้วน เพราะคนอ้วนจะเสี่ยงกับโรคไตสูงกว่าคนผอม 5.หยุดบุหรี่ และ 6.ควบคุมเบาหวานและความดัน หากสามารถทำได้ทั้ง 6 ข้อ โอกาสที่จะเป็นโรคไตเป็นไปได้ยาก” แพทย์หญิงสุภินดา กล่าว
ส่วน ภญ.ผกากรอง ขวัญข้าว หัวหน้าศูนย์หลักฐานเชิงประจักษ์ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า การจัดเสวนาวันนี้อยากชวนคิดว่ามีระบบอะไรที่จะช่วยประชาชนในการใช้สมุนไพรอย่างปลอดภัยและประเทศไทยสามารถใช้ภูมิปัญญาปู่ย่าตายายมาต่อยอด
ทั้งนี้ หนานเฉาเหว่ย มีชื่อเรียกหลายอย่าง ทั้งป่าเฮ่วหมอง ที่หมอไทยใหญ่เรียกขาน ป่าช้าเหงา ป่าช้าร้าง ป่าช้าหมอง ซึ่งโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรได้เก็บข้อมูลและศึกษามานานนับสิบปีแล้ว กับแพทย์พื้นบ้าน ซึ่งพบว่ามีการกินใช้กันมาอย่างยาวนานโดยเฉพาะในชนกลุ่มน้อย ไทยใหญ่ ที่ยังมีภาวะสงครามอยู่ก็ใช้กันอยู่แต่ไม่ได้แพร่หลาย
“ผู้ป่วยที่รับประทานหนานเฉาเหว่ย เชื่อว่า ช่วยรักษาโรคเรื้อรัง เบาหวาน ความดัน ไขมัน และสามารถทำให้เป็นโรคหายขาด ช่วยคุมโรคได้ดีขึ้น ไม่ต้องกินยาแผนปัจจุบันเยอะในบางรายลดยาและหยุดยาเอง นอกจากนี้ เรามักเจอคำว่า เขาเล่าว่า สมุนไพรนี้รักษาได้สารพัดโรค เช่น แก้ปวด รักษามะเร็ง รวมทั้งรับประทานเพื่อบำรุงร่างกายให้แข็งแรง ไม่มีโรคอาการแต่ต้องการใช้ โดยหวังผลการเป็นยาอายุวัฒนะ อย่างไรก็ตามสาเหตุที่ทำให้หนานเฉาเหว่ยมีผลเสียต่อร่างกายคือ ใช้ขนาดสูงต่อเนื่อง ค่าไตไม่ดีก่อนใช้สมุนไพร รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ เช่น การหยุดใช้ยาแผนปัจจุบันในโรคที่เป็นอยู่ นอกจากนี้ยังพบการใช้ในต่างประเทศอย่างแอฟริกา เพื่อรักษาหลายโรค อาทิ โรคมาลาเรีย โรคกระเพาะ ดีซ่าน มีบุตรยาก โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ริดสีดวง ฯลฯ” ภญ.ผกากรอง กล่าว
ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่า ผู้ป่วยแต่ละรายมีปัจจัยแวดล้อมอื่นๆที่อาจส่งผลต่อการดำเนินโรคนอกเหนือจากการใช้สมุนไพรหนานเฉาเหว่ย เช่น การละเลยการควบคุมพฤติกรรมร่วมกับการใช้ยา โรคแทรกซ้อนของผู้ป่วย เช่น การติดเชื้อ ค่าการทำงานของตับและตเดิมของผู้ป่วย การใช้ยาอื่นๆร่วมในขณะเดียวกัน รวมถึงการปนเปื้อนที่อาจเกิดในกระบวนการผลิตหรือตัวสมุนไพร เป็นต้น
ด้านนายพีรพล อนุตรโสตถิ์ พิธีกรรายการชัวร์ก่อนแชร์ กล่าวว่า จากการดำเนินรายการชัวร์ก่อนแชร์ มาเป็นพันตอน ได้รับข้อมูลที่ผ่านการแชร์เยอะมาก แต่เมื่อได้สืบค้นข้อมูลย้อนกลับไปยังต้นตอ ส่วนใหญ่ก็จะไม่เป็นความจริง และยิ่งในสังคมยุคปัจจุบันการส่งต่อข้อมูลเป็นไปได้ง่ายและรวดเร็ว การทำข้อมูลเท็จทำได้ง่ายทั้งแบบภาพนิ่งและวีดีโอ จึงอยากให้ประชาชนช่วยกันตรวจสอบ และทวนข้อมูลที่แท้จริงก่อนจะแชร์ต่อไป เพราะบางครั้งการแชร์กันจนถูกเชื่อและนำไปใช้กันแบบผิดๆ ไปแล้ว เกิดผลเสียหายแล้ว นอกจากนี้ยังพบว่าหลายครั้งมีการแชร์เพื่อหวังผลกับสินค้า เช่นต้องการขายอาหารเสริม สมุนไพรของตัวเอง
ขณะที่นางอำมร บรรจง ผู้จัดการส่วนผลิตรายการ เอฟ.เอ็ม 96.5 ในฐานะ ผู้ดำเนินรายการ ได้แชร์ประสบการณ์ที่คลุกคลีกับผู้ฟังทีใช้สมุนไพร ส่วนหนึ่งเป็นเพราะศัพท์ทางการแพทย์ และข้อบ่งใช้ของสมุนไพร สื่อสารด้วยภาษาที่ยากในทางวิชาการ โอกาสในการเข้าถึงข้อมูลจากการบอกต่อ เมื่อได้รับข้อมูลการแชร์ในภาษาง่ายอาจทำให้มีการหลงเชื่อและใช้กันอย่างผิดๆทั้งๆที่สมุนไพรมีประโยชน์ถ้าใช้เป็น และส่วนตัวแล้วสามีก็รับประทานหนานเฉาเหว่ยในการควบคุมน้ำตาลวันละ 1 ใบเท่านั้น และจะมีการตรวจร่างกาย เพื่อติดตามผลย่างเป็นระบบ
สำหรับท่านที่สนใจต้องการเรียนรู้ข้อมูลการใช้สมุนไพรอย่างถูกต้อง สามารถร่วมเรียนรู้กันต่อได้ที่ งานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 16 วันที่ 6 ถึง 10 มีนาคม 2562 ศูนย์การแสดงสินค้า อิมแพคเมืองทองธานี ฮอลล์ 10-12
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี