ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมผาสุก สำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 4 หมู่ 4 ตำบลบ้านด่าน อ.เมืองอุตรดิตถ์ นายเสริมชัย เซียวศิริถาวร ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ กรมชลประทาน ร่วมประชุมติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานก่อสร้างในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบของสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 4 พร้อมรับฟังการบรรยายสรุปผลการดำเนินงานก่อสร้างโครงการเขื่อนทดน้ำผาจุก จังหวัดอุตรดิตถ์ จากนายวชิระ เอี่ยมละออ ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 4 ภายหลังการประชุมได้ลงพื้นที่ดูหน้างานความก้าวหน้าระบบส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งขวา พร้อมอาคารประกอบ ส่วนที่ 1 และ ระบบส่งน้ำของสถานีสูบน้ำตำบลงิ้วงาม อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ โดยมีนายฐิติปพัฒน์ สาลีฒพันธ์ หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรม สำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 4 นายกมล บุญล้อม วิศวกรควบคุมงานบริษัท สี่แสงการโยธา (1979 ) จำกัด และ เจ้าหน้าที่ในสังกัดกรมชลประทาน ร่วมให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น
นายวชิระ เอี่ยมละออ ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 4 กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ดำเนินการโครงการเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2552 ระยะเวลาการดำเนินการ 9 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 ถึงปี พ.ศ. 2561 โดยมีวัตถุประสงค์ของโครงการ ดังนี้ 1. เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำน่านตอนล่างเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ครอบคลุมพื้นที่ในเขตจังหวัดอุตรดิตถ์ จำนวน 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอลับแล อำเภอตรอน และ อำเภอพิชัย เขตจังหวัดสุโขทัย จำนวน 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอศรีสัชนาลัย และ อำเภอศรีนคร และเขตจังหวัดพิษณุโลก จำนวน 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพรหมพิราม และ อำเภอวัดโบสถ์ 2. เพื่อพัฒนาระบบชลประทาน ประมาณ 481,400ไร่ (พัฒนาพื้นที่เกษตรน้ำฝนที่มีศักยภาพให้เป็นพื้นที่ชลประทาน ประมาณ 304,000 ไร่ และ ส่งน้ำสนับสนุนและปรับเปลี่ยนระบบส่งน้ำจากเดิมโดยการสูบน้ำด้วยไฟฟ้าเป็นระบบส่งน้ำด้วยแรงโน้มถ่วง ประมาณ 134,800 ไร่ และ พื้นที่โครงการชลประทานน้ำริด จังหวัดอุตรดิตถ์ ประมาณ 42,600 ไร่ )
“ โครงการเขื่อนทดน้ำผาจุก จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ สำหรับใช้ประโยชน์ในด้านการเกษตรกรรม การอุปโภค-บริโภค และ ประโยชน์อย่างอื่น ในเขตพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์และจังหวัดใกล้เคียง ประกอบด้วยพื้นที่หัวงานอาคารประกอบ งานคลองระบบส่งน้ำ ระบบระบายน้ำและงานอย่างอื่นที่เกี่ยวข้อง ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของจังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดสุโขทัย และ จังหวัดพิษณุโลก ลักษณะโครงการแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักกล่าว คือ ส่วนที่ 1 เป็นการก่อสร้างเขื่อนทดน้ำและอาคารประกอบหัวงาน ส่วนที่ 2 เป็นการก่อสร้างระบบส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งขวา สัญญาจ้างกับบริษัท สี่แสงการโยธา (1979) จำกัด (ผู้รับเหมาก่อสร้างระบบส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งขวา) และ ส่วนที่ 3 เป็นการก่อสร้างระบบส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย “
ดังนั้น กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้จัดสรรงบประมาณในปี พ.ศ. 2558 ทำการศึกษา สำรวจภูมิประเทศและออกแบบเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม คลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งขวาผ่านตำบลน้ำริด ช่วงกม.18+000 ถึง กม.19+500 โดยประมาณ และ ช่วงผ่านตำบลท่าเสาถึง กม.20+000 รวมความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร คันคลองส่งน้ำสูงจากดินเดิมประมาณ 2.60 เมตร พื้นที่บริเวณดังกล่าวมีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในแต่ละปี การระบายน้ำออกจากพื้นที่ลงสู่แม่น้ำน่านไม่สะดวก เนื่องจากคลองธรรมชาติตื้นเขินและ มีปัญหาการบุกรุกเขตคลอง อีกทั้งทางหลวงสาย 1045 ที่เชื่อมจากจังหวัดอุตรดิตถ์-สี่แยกวังสีสูบ-เขื่อนสิริกิติ ระดับผิวจราจรสูงกว่าดินเดิมประมาณเมตรเศษขวางทางน้ำ
การก่อสร้างคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งขวา ประกอบด้วย งานขุดลอกคลองน้ำริด , งานขุดลอกคลองผึ้ง , งานดาดคอนกรีตคลองส่งน้ำน้ำริด ช่วงที่ 1 และ 2 , งานขุดลอกหน้าฝายน้ำริด , เพิ่มจุดจ่ายน้ำคลองส่งน้ำสายใหญ่ลงคลอง Mc2 (น้ำริดช่วงที่ 2) , งานปรับปรุงท่อลอดให้เป็นสะพานเหนืออาคารบังคับน้ำน้ำริดใต้ , เพิ่มทางผันน้ำจากอ่างแม่เฉยลงคลองน้ำริด , เพิ่มอาคารท่อลอดคลองส่งน้ำสายใหญ่ผ่านคลองผึ้ง คลองน้ำริด และ ถนน , เพิ่มการระบายน้ำข้างคลองส่งน้ำเพื่อไม่ให้เกิดภาวะน้ำท่วมขัง , ปรับปรุงคลองส่งน้ำเดิมของชลประทานน้ำริด 1R,1L 1R และ 2R นายวชิระ กล่าว.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี