ศาลอาญายกฟ้อง“ทศพล แก้วทิมา”อดีตแกนนำ คปท.ชุมนุมเรียกร้องปฏิรูปพลังงาน ปิดล้อมหน้ากระทรวงพลังงาน อาคารเอนเนอร์ยี่ฯเมื่อปี 2557 ศาลชี้เป็นชุมนุมโดยสงบ ปราศจากการใช้กำลังประทุษร้าย
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 21 กุมภาพันธ์ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพมหานคร ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.2546/2560ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ฟ้อง นายทศพล แก้วทิมา โฆษกพรรคพลังธรรมใหม่และอดีตแกนนกองทัพประชาชน และเครือข่ายปฏิรูปพลังงานไทย(คปท.)เป็นจำเลย ในความผิดฐานมั่วสุม ก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ
กรณีเหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2557 เวลากลางวัน จำเลยกับพวกได้มั่วสุมกันตั้งแต่10ขึ้นไป โดยมีผู้ชุมนุมประมาณ 250 คนเดินทางด้วยรถยนต์บรรทุกหกล้อ ติดเครื่องกระจายเสียง 1 คัน และรถยนต์กระบะกับรถจักรยานยนต์หลายคัน ภายใต้การควบคุมสั่งการของจำเลยกับพวกอีก 2 คน แล้วทำการปิดล้อมบริเวณหน้าอาคารสำนักงานใหญ่ที่ทำการของบริษัท เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์จำกัด ถนนวิภาวดีฯ
โดยจำเลยกับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ได้ทำหน้าที่แกนนำ เป็นหัวหน้าและมีหน้าที่สั่งการสลับกันขึ้นปราศรัยบนรถติดเครื่องกระจายเสียงมีเนื้อหาว่าจะเข้ายึดพื้นที่บริเวณด้านหน้ากระทรวงพลังงาน แต่จะไม่เข้าไปในตัวอาคารและจะใช้สถานที่และห้องน้ำของอาคารจอดรถ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อต้องการให้มีการปฏิรูปพลังงานเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม
และได้ทำให้สิ่งของเสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าและทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งแผ่นแบริเออร์คอนกรีตจำนวน 1 แผ่น ราคา1,700บาท แบริเออร์พลาสติกสีส้มจำนวน 4แผ่น ราคา 2,000บาท กระจกที่ติดป้อมรักษาความปลอดภัย จำนวน 3 บาน ราคา 5,000 บาท ฐานปูนติดตั้งแผ่นบอกทางเข้า จำนวน1อัน ราคา 800 บาท ผ้าใบปิดรั้ว จำนวน1แผ่น ราคา 50,000 บาท รวมราคาทั้งสิ้น59,500บาท ซึ่งเป็นทรัพย์ของบริษัท เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์จำกัดผู้เสียหาย เหตุเกิดที่แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 215,358จำเลยให้การปฏิเสธซึ่งในวันนี้นายทศพล จำเลยซึ่งได้รับการประกันตัวได้เดินทางมาศาล
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานที่ทั้งสองฝ่ายนำสืบแล้วเห็นว่าจำเลยกับผู้ชุมนุมได้ปราศรัยเรียกร้องให้มีการปฏิรูปพลังงาน โดยไม่ปรากฏว่าจำเลยกับผู้ชุมนุมมีพฤติกรรมใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย ในการปิดล้อมบริษัทฯก็ได้ความว่ากลุ่มผู้ชุมนุมอยู่ที่ประตู8เพียงประตูเดียวโดยที่ประชาชนยังสามารถเข้าออกประตูอื่นได้ ถือเป็นการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากการใช้กำลังประทุษร้าย
ส่วนความเสียหายของทรัพย์สินนั้น มาจากผู้ชุมนุมขยับแท่งแบริเออร์ ล้มลงไปกระแทกทรัพย์สินเสียหายอันเกิดจากความประมาทของผู้ชุมนุมเองโดยขาดเจตนาอันจะทำให้ทรัพย์สินเสียหายดังนั้นการกระทำของจำเลย จึงไม่มีความผิดตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง
ภายหลังฟังคำพิพากษา นายทศพล กล่าวว่ารู้สึกดีใจที่ศาลให้ความเป็นธรรม ขอยืนยันการชุมนุมที่ผ่านมามีเจตนาชัดเจน ต้องการให้รัฐแก้ปัญหาพลังงานเท่านั้น เพื่อประโยชน์ของคนไทยทั้งประเทศ ดังนั้นตนขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรี ควรหันมาดูแลปากท้องประชาชนมากกว่าเรื่องความมั่นคงและในยุคนี้ไม่มีใครมากล้าทำลายประเทศอย่างแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี