ปชช.พอใจปิดทองหลังพระฯ  ผลงาน9ปีแก้จนสร้างอาชีพยั่งยืน  เดินหน้าสืบสานแนวพระราชดำริ

ปชช.พอใจปิดทองหลังพระฯ ผลงาน9ปีแก้จนสร้างอาชีพยั่งยืน เดินหน้าสืบสานแนวพระราชดำริ

วันพุธ ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2562, 06.00 น.
Tag :

ปชช.พอใจปิดทองหลังพระฯ

ผลงาน9ปีแก้จนสร้างอาชีพยั่งยืน


เดินหน้าสืบสานแนวพระราชดำริ

ใช้พัฒนาพื้นที่มีปัญหาความมั่นคง

หม่อมราชวงศ์ดิศนัดดา ดิศกุล ประธานกรรมการสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริแถลงผลการดำเนินงาน “ก้าวปีก้าวหน้า” ว่า นับจากการก่อตั้งปิดทองหลังพระฯ ในปี 2553 และเริ่มดำเนินการพื้นที่ต้นแบบในจ.น่านเป็นแห่งแรก ปัจจุบันพื้นที่ต้นแบบขยายไปทุกภาค ได้แก่ อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ อุทัยธานี เพชรบุรี และสามจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งตลอดการดำเนินงาน 9 ปีที่ผ่านมา และกำลังย่างเข้าสู่ปีที่ 10 พบว่ารากเหง้าของปัญหาการพัฒนาทั้งหมดคล้ายคลึงกันทุกพื้นที่คือ ปัญหาความยากจนและขาดโอกาส และหากเริ่มต้นแก้ปัญหาด้วยการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมองผลลัพธ์เป็นตัวตั้งจะช่วยแก้ปัญหาได้เกือบทุกอย่าง

หม่อมราชวงศ์ดิศนัดดาเปิดเผยรายงานประเมินผลการทำงานด้านต่างๆ ประกอบด้วย ด้านแหล่งน้ำ -มีประชาชนได้รับน้ำ 79,022 ครัวเรือน ครอบคลุมพื้นที่ 275,107 ไร่ ด้านอาชีพ - มีประชาชนเข้าร่วมโครงการพัฒนาอาชีพ 4,536 ครัวเรือน ในช่วงเวลา 9 ปี ปิดทองหลังพระฯ ใช้งบประมาณด้านระบบน้ำและส่งเสริมอาชีพรวม 961.6 ล้านบาท ทำให้เกิดรายได้ทางตรง 2,308 ล้านบาท คิดเป็น 2.4 เท่าของเงินลงทุน และเท่ากับเฉลี่ยครัวเรือนละ 508,818 บาท

นอกจากนี้ ปิดทองหลังพระฯยังให้ความสำคัญกับการสร้างความยั่งยืนในการพัฒนา โดยให้ประชาชนในพื้นที่เป็นศูนย์กลาง ส่งเสริมให้ประชาชนทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มตามบริบทของพื้นที่ให้เกิดความเข้มแข็ง ซึ่งปัจจุบันทุกพื้นที่เกิดกองทุน วิสาหกิจชุมชนและสหกรณ์รวม 70 กลุ่ม มีเงินทุนหมุนเวียน ทรัพย์สินรวมมูลค่า 15.78 ล้านบาท

ผลจากการส่งเสริมความรู้ ทำให้เกิดอาชีพทางการเกษตรใหม่ๆ และประชาชนจำนวนมากสามารถต่อยอดพัฒนาการทำเกษตร ไปเป็นพืชและสัตว์เศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูงได้ เช่น ทุเรียนคุณภาพและแพะพันธุ์พระราชทานในสามจังหวัดชายแดนใต้ ผักปลอดภัยในจ.กาฬสินธุ์ การแปรรูปผลผลิตภายใต้ตราสินค้า “ภูธารา” ที่จ.อุดรธานี ขณะที่มีพื้นที่พัฒนาไปสู่การท่องเที่ยวชุมชนเชิงวัฒนธรรม เช่น เพชรบุรี และอุทัยธานี

หม่อมราชวงศ์ดิศนัดดากล่าวต่อว่า น่ายินดีที่ผลการศึกษาการรับรู้และความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ต้นแบบ 5 จังหวัด โดยคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่าค่าเฉลี่ยความพึงพอใจต่อผลที่เกิดขึ้นในระดับสูงมากทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และการทำงานของปิดทองหลังพระฯ

“…จุดเด่นสำคัญในปีที่ผ่านมาเทียบกับช่วงต้นๆ คือ ตอนเริ่มต้นเราทำงานใกล้ชิดกับส่วนราชการ เพื่อแก้ปัญหาเรื่องน้ำและผลผลิต แต่ปีที่ผ่านมาเกิดกระแสร่วมงานกับเอกชนที่ชัดเจน มีภาคธุรกิจสนใจเข้ามาร่วมกับปิดทองหลังพระฯเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับแนวพระราโชบาย สืบสาน รักษา ต่อยอด เป็นอย่างยิ่ง…”

สำหรับการดำเนินงานในช่วงปี 2561 นั้น พบว่าครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2561 ปิดทองหลังพระฯ ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายทั้งสถาบัน การศึกษา ภาครัฐและเอกชน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้นแบบปิดทองหลังพระฯ ทั้ง 7 พื้นที่ 9 จังหวัด มีรายได้เพิ่มขึ้นรวม 113.7 ล้านบาท

สำหรับแนวทางในอนาคต หม่อมราชวงศ์ดิศนัดดา กล่าวว่า นอกจากเพิ่มความเข้มแข็งให้พื้นที่ต้นแบบต่างๆ นี้แล้ว จะเพิ่มบทบาทในการนำแนวพระราชดำริไปพัฒนาชีวิตประชาชนในพื้นที่ซึ่งมีปัญหาความมั่นคง เช่น ในสามจังหวัดชายแดนใต้ จังหวัดชายแดนเหนือ นอกจากนี้ กำลังพิจารณาแผนจัดตั้งศูนย์จัดการและส่งเสริมองค์ความรู้การพัฒนาตามแนวพระราชดำริ โดยการทำงานด้านพัฒนา ทุกคน โดยเฉพาะประชาชนเองต้องซื่อสัตย์และขยัน รวมถึงทุกคนที่เกี่ยวข้องต้องร่วมมือกันทำอย่างต่อเนื่องอย่างไม่หยุดยั้ง มีความอดทน เพื่อจะได้เห็นผลสัมฤทธิ์เกิดขึ้นอย่างแท้จริงในที่สุด

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top