อย.เรียกคืนยารักษาความดันโลหิตสูง “ลอซาร์แทน”จาก 9 บริษัทที่ผลิตจำหน่ายในท้องตลาด 142 รุ่นการผลิต หลังพบสารก่อมะเร็งในสารตั้งต้นการผลิตที่ผลิตจากอินเดีย เร่งแจ้งรพ.ร้านขายยา คลินิกประสานผู้ป่วยนำมายาเปลี่ยนใหม่ ไม่แน่ใจ ตรวจสอบรุ่นการผลิต สอบถามได้ที่สายด่วน 1556
เมื่อวันที่ 15 มีนาคม นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (เลขาธิการ อย.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้สหรัฐอเมริกาและแคนาดาเรียกคืนยารักษาโรคความดันโลหิตสูงลอซาร์แทน เนื่องจากพบสารก่อมะเร็งในสารตั้งต้นในการผลิตยาดังกล่าวในหนูทดลองกลุ่มไนโตรซามีนคือ N-Nitroso-Nmethyl-4-aminobutyric Acid (NMBA) บางรุ่นของบริษัท Hetero Lab Limited (Unit-l) ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ผลิตประเทศอินเดีย ในส่วนประเทศไทยได้ตรวจสอบแล้วพบว่า มีบริษัทผลิตยา 9 แห่งที่นำเข้ายาลอซาร์แทน และมีทะเบียนตำรับที่ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายในประเทศแล้ว นอกจากนี้ยังมี 1 บริษัทคือ บริษัทเบอร์ลิน ฟาร์มาซูติคอลอินดัสตรี จำกัด ที่ได้นำเข้าวัตถุดิบตัวที่มีปัญหามาจากประเทศอินเดีย 8 รุ่นการผลิต และผลิตเป็นยาสำเร็จรูปแล้ว 2 ทะเบียนตำรับ ประกอบด้วย
1.LANZAAR 50 ทะเบียนตำรับเลขที่ 1A 20/53 (NG) รวม 81 รุ่นการผลิต ได้แก่ รุ่นการผลิตที่ 1800670 – 1800697, 1800839 – 1800850, 1800927 – 1800942, 1801034 – 1801041, 1801135 – 1801143, 1803285 – 1803291 และ 1803841 และ 2.LANZAAR 100 ทะเบียนตำรับเลขที่ 1A 3/58 (NG)รวม 61 รุ่นการผลิต ได้แก่ รุ่นการผลิตที่ 1800698 – 1800707, 1800788 – 1800797, 1800943 – 1800958, 1800994 – 1801009, 1801236, 1803622 – 1803629
“ดังนั้นอย.จึงประสานร้านขายยา คลินิก และรพ.ให้ดำเนินการติดตามจากผู้ป่วยที่ได้รับยาไปแล้วให้นำกลับมาเปลี่ยนเป็นยาตัวอื่นแทน ทั้งนี้ เป็นห่วงประชาชนตกใจจนหยุดยา ยืนยันว่ายาดังกล่าวแม้มีสารก่อมะเร็ง แต่พบในหนูทดลองไม่ใช่ในคน การเรียกคืนยาเพื่อความปลอดภัย การรักษาความดันโลหิตที่ดีไม่ควรหยุดยา โดยสามารถตรวจสอบรุ่นการผลิตที่เป็นปัญหา หลังฉลากยา หรือไม่แน่ใจสอบถาม 1556”นพ.ธเรศกล่าว
ด้านนพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการ อย.กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อปี 2561 มีการเรียกเก็บคืนยารักษารักษาโรคความดันโลหิตสูงไปเหมือนกัน ชื่อวาซาร์แทน ส่วนปีนี้ที่เรียกคืนเป็นตัวใหม่ แต่อยู่ในกลุ่มยาลดความดันโลหิตสูงเช่นกัน ซึ่งอาจทำให้ประชาชนกังวลในเรื่องการใช้ยา ขอชี้แจงว่ายาตัวอื่นไม่ได้มีปัญหา ขอว่าประชาชนอย่าหยุดรับประทานยา เพราะเป็นยาที่ใช้รักษาโรคความดันโลหิตสูง รวมถึงโรคหัวใจ ซึ่งเป็นโรคสำคัญ หากรขาดยามีโอกาสหัวใจวาย อัมพฤกษ์ อัมพาต และอาจเสียชีวิตได้
วันเดียวกัน มีความเคลื่อนไหวของนพ.ฆนัท ครุธกูล นายกสมาคมโภชนาการเพื่อกีฬาและสุขภาพ พร้อมรศ.พ.ต.รุ่งชัย ชวนไชยะกุล นายกสมาคมโภชนาการเพื่อกีฬา และสุขภาพแห่งเอเชีย เข้ายื่นหนังสือถึงเลขาฯอย. ขอให้ถอดถอนทะเบียนยาเฟนเทอร์มีน ยาลดความอ้วนที่มีการลักลอบจำหน่ายทางอินเทอร์เน็ตออกจากบัญชียาหลัก เนื่องจากก่ออันตราย อีกทั้งปัจจุบันมียาอื่นที่ใช้ทดแทนยาลดความอ้วนเฟนเทอร์มีนได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นกัน อีกทั้ง ไม่ก่ออันตราย เพราะยาลดความอ้วนเฟนเทอร์มีนหากใช้ไปสักระยะทำให้ติด และมีอาการคอแห้ง เกิดการดื้อยา เพราะจัดอยู่ในกลุ่มยาแอมเฟตามีน
รศ.พ.ต.รุ่งชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า ในอังกฤษยกเลิกใช้ยาลดความอ้วนดังกล่าวแล้ว เมื่อ 3-4 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากก่ออันตราย แต่มีการลักลอบจำหน่ายทางอินเทอร์เน็ต โดยการลดน้ำหนักทั่วโลก พบพฤติกรรมกลุ่มคนที่มีน้ำหนักเกินมักพึ่งยามากกว่าปรับพฤติกรรมการบริโภค จึงอาจได้รับอันตราย เนื่องจากข้อบ่งใช้ยายาเฟนเทอร์มีนนั้น ควรทำในกลุ่มคนที่มีค่าดัชนีมวลกายเกิน 30 เท่านั้น คนทั่วไป ไม่ควรรับประทาน
ส่วนความคืบหน้าคดีตำรวจบุกทลายเครือข่ายค้ายาลดความอ้วนแฟนเทอร์มีนรายใหญ่ พบมีแพทย์เกี่ยวข้องด้วยมากกว่า 7 ราย โดยแพทย์ 5 รายเข้าให้ปากคำกับตำรวจและถูกกันเป็นพยาน ส่วนอีก 2 รายต้องเข้าให้ปากคำวันที่ 19 มีนาคมนั้น
พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส.เปิดเผยว่า แพทย์ 2 ราย ที่ยังไม่ได้มาพบเจ้าหน้าที่นั้น ชักชวนหว่านล้อมกลุ่มแพทย์ดังกล่าวให้สั่งซื้อยาลดความอ้วน แพทย์ที่ถูกชักชวนหลงเชื่อเบิกจ่ายผ่านอย.ก่อนนำไปขายให้แพทย์ที่สั่งไว้ ทั้งนี้ เนื่องจากอย.มีระเบียบให้แพทย์ 1 รายสั่งยาชนิดนี้ได้ 5,000 เม็ดต่อเดือน ปรากฏว่า ยาดังกล่าวถูกนำออกจากระบบไปจำหน่ายทางอินเตอร์เน็ตราคาสูงกว่าปกติ โดยแพทย์ 2 รายที่ถูกหมายเรียกเข้าพบพนักงานสอบสวนวันที่ 19 มีนาคมนั้น มีข้อมูลมีส่วนร่วมกับขบวนการมานานพอสมควร ทั้งยังเกี่ยวข้องกับตัวยามากกว่าแพทย์รายอื่น นอกจากนี้ จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบสวนขยายผลว่า มีชาวต่างชาติมีส่วนร่วมขบวนการด้วยหรือไม่
สำหรับแพทย์ 2 รายซึ่งเป็นเจ้าของคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่ง ถ้าเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนแล้ว พบมีลักษณะเข้าข่ายความผิด เจ้าหน้าที่จะแจ้งข้อกล่าวหาคือ ฐานจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 (เฟนเตอมีน) และประเภท 4 (ไดอาซีแพม,คลอราซีเพท) และข้อหาสมคบทำผิดตาม พ.ร.บ.มาตรการฯยาเสพติด” มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี