รมช. เกษตรฯ ตรวจด่านชายแดนไทย-กัมพูชา สั่งการเข้มเฝ้าระวังโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรระบาดข้ามประเทศ หวั่นแรงงานกลับมาหลังหยุดสงกรานต์ เดินทางเข้าไทยนำผลิตภัณฑ์สุกรติดตัว สั่งยึดทำลายทันที ห้ามรถขนส่งสุกรข้ามจากไทยไปกัมพูชา
18 เม.ย.62 นายลักษณ์ วจนานวัจน์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เดินทางไปยังจังหวัดสระแก้วเพื่อกำชับให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาได้แก่ ด่านกักกันสัตว์ ด่านตรวจคนเข้าเมือง ด่านตรวจพืช ด่านตรวจสัตว์น้ำ ด่านควบคุมโรค ด่านศุลกากร เจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจเคร่งครัดการเฝ้าระวังโรคโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African Swine Fever : ASF ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติให้แผนเตรียมความพร้อมรับมือโรค ASF เป็นวาระแห่งชาติ ล่าสุดได้ระบาดจากจีน เวียดนาม เข้าสู่กัมพูชา ล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัด 16 จังหวัดตามแนวชายแดนประกาศเป็นเขตเฝ้าระวังโรคระบาดสัตว์ได้แก่ จังหวัดเชียงราย แม่ฮ่องสอน หนองคาย น่าน บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร เลย อุตรดิตถ์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อานาจเจริญ สระแก้ว จันทบุรี และตราด เพื่อบูรณาการทุกหน่วยงานในจังหวัดช่วยป้องกัน เตรียมแนวทางรับมือ และฟื้นฟูเกษตรกรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยในวันนี้ได้ตรวจเยี่ยมและกำชับเจ้าหน้าที่ที่ด่านชายแดนบ้านเขาดิน อ.คลองหาด ด่านพรมแดนบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
ทางด้านนายสัตวแพทย์จีระศักดิ์ พิพัฒนพงศ์โสภณ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาการตามด่านพรมแดนมีการสัญจรผ่านอย่างคับคั่ง จึงเพิ่มการประชาสัมพันธ์ให้ผู้เดินทางทราบถึงข้อกำหนดในการเฝ้าระวังโรคเพิ่มขึ้นด้วยสื่อต่างๆ ได้แก่ เสียงตามสายและประกาศที่ด่านพรมแดน ให้ปศุสัตว์จังหวัดและปศุสัตว์อำเภอทำความเข้าใจกับประชาชนงดการนำเนื้อสุกรและผลิตภัณฑ์จากกัมพูชาเข้ามาค้าขายหรือประกอบอาหาร อีกทั้งให้กองสารวัตรและกักกันจัดกำลังคนเพื่อช่วยในจุดที่ขาด ให้ตรวจค้นผู้เดินทางเข้าไทยเป็นรายบุคคล หาพบนำซากสัตว์และผลิตภัณฑ์สัตว์ให้ยึดของกลางที่ติดตัวมากับผู้เดินทาง แล้วใช้มาตรการทางการปกครองเช่น การกักตัว และ/หรือยึดบัตรผ่านแดนชั่วคราว (รายวัน) แต่หากลักลอบนำเข้าเพื่อขายให้จับกุมดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558
“สำหรับการส่งออกสุกรไปกัมพูชานั้น ทางสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติซึ่งกำกับดูแลผู้ประกอบการส่งออกสุกรไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้ให้เปลี่ยนรูปแบบการขนส่ง เป็นการนำยานพาหนะขนถ่ายข้ามแดน ถ่ายสุกรส่งออกจากประเทศไทยที่บริเวณพรมแดน และห้ามนำรถภายในประเทศเข้าไปส่งสุกรในกัมพูชา พร้อมทั้งให้พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อทั้งก่อน และหลังการขนส่ง ซึ่งจะได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างกรมปศุสัตว์และสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติในการควบคุมโรคและปรับเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งสุกร เพื่อให้การป้องกันโรคเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะได้ผลักดันให้ออกเป็นประกาศกรมปศุสัตว์เพื่อให้มีผลบังคับใช้ทางกฎหมายต่อไป” รองอธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าว
ในวันนี้รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ยังได้เชิญเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยในอำเภอตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา มาประชุมเพื่อสร้างการรับรู้ถึงสถานการณ์ของโรค ASF อีกทั้งให้ปฏิบัติตามระบบความปลอดภัยทางชีวภาพอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ยังได้ขอความร่วมมือในการแจ้ง หากพบความผิดปกติของสุกรในฟาร์ม ซึ่งทางสมาคมผู้เลี้ยงสุกรทั้ง 6 ภาคพร้อมจะจ่ายค่าชดเชยกรณีที่มีการแจ้งโรคเป็นครั้งแรก เป็นไปตามหลักของกรมปศุสัตว์ที่ต้องรู้โรคเร็ว ควบคุมโรคได้เร็ว เพื่อให้โรคสงบเร็วที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี