ตำรวจล่าโจรไร้สำนึก
ดอดขโมยข้าวเปลือก
2รอบหนักเกือบ1ตัน
เหยื่อร่ำไห้วอนเร่งจับ
ลุงชาวนาน้ำตานอง! โจรแสบดอดขโมยข้าวเปลือกช่วงหัวค่ำ 27 กระสอบ แต่ยังไม่หนำใจ ถัดมาช่วงเช้าของอีกวัน บุกตัดกุญแจเข้าไปขโมยข้าวอีก6กระสอบ ขณะออกไปช่วยงานบุญเพื่อนบ้านที่ห่างกันแค่ 200 เมตร
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 14 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ที่บ้านเลขที่ 225 หมู่ 1 ต.ท่าสองคอน อ.เมือง จ.มหาสารคาม หลังได้รับแจ้งว่าบ้านหลังดังกล่าวถูกคนร้ายเข้าไปขโมยข้าวเปลือก 27 กระสอบ เมื่อไปถึงบ้านหลังดังกล่าว พบ นายสุรศักดิ์ อรรคแสง อายุ 62 ปี ได้แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่า คนร้ายได้มาขโมยข้าวเปลือกไปอีก 6 กระสอบ ก่อนที่ผู้สื่อข่าวจะมาถึงไม่นาน ทำให้มีข้าวเปลือกหายไปทั้งหมดรวม 33 กระสอบ ก่อนจะโทรศัพท์ แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ออกมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ
นายสุรศักดิ์ อรรคแสง กล่าวว่า เมื่อวานนี้ช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. ตนเองออกไปรับภรรยาในตัวเมืองมหาสารคาม และกลับเข้ามาในบ้านเวลาประมาณ 19.00 น. ก็พบว่า ประตูเหล็กหลังบ้านเปิดออก เมื่อเข้าไปดูก็พบว่า ข้าวเปลือกบรรจุในถุง ซึ่งมีทั้งข้าวจ้าวและข้าวเหนียวหายไป จำนวน 27 กระสอบ ซึ่งประตูหลังบ้านนั้นไม่ได้ล็อกกุญแจไว้ เพราะว่าอยู่บ้านหลังนี้มา 10 กว่าปี ก็ไม่เคยไม่ปัญหาอะไร ตอนแรกก็คิดว่าฟาดเคราะห์จะไม่แจ้งความ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้าอีกวัน เวลาประมาณ 08.00 น. ตนเองออกจากบ้านไปช่วยงานบุญเพื่อนบ้านซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 200 เมตร ส่วนลูกชายก็ไปทำงานช่วง 10.30 น. ซึ่งก่อนออกจากบ้านครั้งนี้ ตนได้นำแม่กุญแจมาล็อกประตูหลังบ้านเอาไว้อย่างดี จากนั้น ตนกลับเข้าบ้านอีกทีเวลา 11.30 น. เพราะจะมีเพื่อนบ้านมาขอซื้อข้าวเปลือกจ้าวไปรับประทานที่บ้าน และเมื่อจะมาเปิดประตูหลังบ้าน ก็พบว่า คนร้ายหวนกลับมาอีกรอบ ใช้คีมตัดเหล็ก ตัดสายยูเข้าไปขโมยข้าวทีเหลือไปอีก 6 กระสอบ รวมข้าวที่ถูกขโมยทั้งสิ้น 33 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 1 ตัน มูลค่าความเสียหายกว่า 14,000 บาท ก่อนจะโทรศัพท์แจ้งตำรวจ โดยมี พ.ต.ท.กริชเทพ วรรณประไพ พนักงานสอบสวนเวรฯ สภ.เมืองมหาสารคาม และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ
โดย นายสุรศักดิ์ กล่าวทั้งน้ำตานองหน้าว่า ไม่คิดว่าคนร้ายจะหวนกลับมาก่อเหตุอีกรอบ รู้สึกทั้งแค้นใจและเจ็บใจ ตอนแรกคิดว่าจะไม่แจ้งความ คิดว่าฟาดเคราะห์ไป แต่พอมาเจอ 2 วันซ้อนกัน จึงต้องแจ้งความดำเนินคดี ตอนนี้ข้าวเปลือกที่เหลืออยู่ก็เหลือแค่ 7 ถุง ไม่พอที่จะใช้หว่านข้าวทำนา ต้องซื้อพันธุ์ข้าวปลูกใหม่ ข้าวที่จะกินก็ไม่เหลือ อยากให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ คาดว่าคนร้ายจะเป็นคนในพื้นที่ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีบ้านปลูกห่างกัน ทำให้ในช่วงกลางวันค่อนข้างเงียบ โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ทราบตัวผู้ต้องสงสัยแล้ว และจะได้เร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี