ตร.รวบหนมหื่น
ข่มขืนแหม่มสาวนอร์เวย์
พ้นคุก1เดือนมาก่อคดีฉาว
ตำรวจจับหนุ่มไทยข่มขืนแหม่มสาวนอร์เวย์บนเกาะพะงัน หลังไล่ล่าแกะรอยภาพวงจรปิดมัดสารภาพทำจริง เพิ่งพ้นโทษคดียาเสพติดเพียง 1 เดือน กลับก่อเหตุอุกอาจทำร้ายนักท่องเที่ยวสาวก่อนลงมือข่มขืน อ้างฝ่ายหญิงมีใจตร.แจ้งข้อหาหนัก ด้านนายกสมาคมฯท่องเที่ยวมอบกระเช้าขอบคุณคลี่คลายคดีรวดเร็ว
เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2562 ภายในสถานีตำรวจภูธรเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมด้วย นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมแถลงข่าวการจับตัว นายเรวัตร หาญสุวรรณ หรือ มอส อายุ อายุ 34 ปี ผู้ต้องหา ที่ก่อเหตุ ข่มขืนนักท่องเที่ยวสาว ชาวนอร์เวย์ชื่อนางสาว รีเบคกา คาร์ลเซนท์ อายุ 26 ปี หลังจากเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
โดยระบุว่าเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2562 เวลาประมาณ 03.00น.ที่ผ่านมา ตนเองได้ถูกชายไทยลวงไปข่มขืนเหตุเกิดภายในซอยตรงข้ามบิ๊กซี สาขาเกาะพะงัน หมู่ที่ 1 ตำบลเกาะพะงัน อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภายหลังจากกลับจากการไปเที่ยวที่ฮาล์ฟมูนปาร์ตี้ เนื่องจากกระเป๋าใส่เงินตกหาย ต่อมา ได้มีชายไทยขี่รถจักรยานยนต์ เข้ามาสอบถามพร้อมอาสาพาไปตามหากระเป๋าเงินแต่สุดท้ายคนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์พาไปข่มขืนภายในซอยตรงข้ามบิ๊กซีดังกล่าว
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจนสามารถติดตามเข้าจับกุม นายเรวัตร หาญสุวรรณ อายุ 34 ปี พร้อมด้วยหลักฐานที่ใช้ก่อเหตุ ประกอบด้วยรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ฟีโน่ ทะเบียน ขนบ 282 สุราษฎร์ธานี ชุดเสื้อผ้าที่คนร้ายใส่และหมวกแก๊ปที่คนร้ายใช้ในคืนก่อเหตุ จากการสอบถามนายเรวัตร ยอมรับสารภาพว่า ภาพในกล้องวงจรปิดเป็นตนเอง และตนเองก็เป็นผู้ก่อเหตุข่มขืนนักท่องเที่ยวสาวในครั้งนี้จริง
ก่อนหน้านี้ตำรวจ สภ.เกาะพะงันได้ทำการสอบสวนนายเรวัตซึ่งให้การรับสารภาพอ้างว่าก่อนเกิดเหตุตนไปกินเบียร์ร้านคาราโอเกะ กลับมาตอนตี 2เห็นฝรั่งเดินริมถนนเลยแวะจอดริมถนนทำทีจะไปส่ง โดยฝ่ายหญิงบอกว่าจะไปหากระเป๋าสตางค์ที่ทำหล่นหายในงานฮาล์ฟมูนปาร์ตี้จึงอาสาไปส่งแต่ระหว่างทางฝ่ายหญิงสาวเมามาก นั่งกอดเอวซบแผ่นหลังจึงเปลี่ยนเส้นทางขับตรงไปยังห้องพักร้านซ่อมจยย.ทันที พอไปถึงร้านซ่อม ฝ่ายหญิงกลับไม่ยินยอมทั้งยังโวยวายตนจึงพาซ้อนท้ายกลับไปส่งยังที่พักฝ่ายหญิงแทน
เมื่อไปถึงทางลงหาดห่างจากที่พักประมาณ 100เมตรฝ่ายหญิงกระโดดลงจากจยย.เพื่อหลบหนีตนจึงเข้าไปล็อคตัวแต่ฝ่ายหญิงยังขัดขืน จึงชกท้องก่อนลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ จากนั้นก็ขี่จยย.กลับไปนอนที่ร้านซ่อม จยย.ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งนี้ตนติดคุกในคดียาเสพติดนาน 7เดือน เพิ่งพ้นโทษออกมาได้เพียง 1เดือนทำแต่งาน ไม่เคยไปเที่ยว หรือมีความสัมพันธ์กับหญิงสาวที่ไหน จนมาเจอนักท่องเที่ยวสาวรายนี้ระหว่างซ้อนจยย.ฝ่ายหญิงกอดแน่น จึงคิดว่ามีใจให้หลังเกิดเหตุคิดว่าคงไม่เข้าแจ้งความแต่ผิดคาดมาถูกตำรวจตามจับจนได้
เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงแจ้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญ ด้วยประการใดๆโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในสภาวะไม่สามารถขัดขืนได้
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ทำการสอบปากคำชายรายนี้ นานหลายชั่วโมงจนสุดท้ายให้การรับสารภาพอ้างว่าลงมือทำร้ายโดยการชกท้องก่อนข่มขืนนักท่องเที่ยวสาวชาวนอร์เวย์จนสำเร็จความใคร่จริงเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวไปสอบสวนดำเนินคดีทันที โดยนายเรวัต เคยต้องโทษคดียาเสพติดมาก่อน เพิ่งพ้นโทษออกมาไม่นานก็กลับมาก่อคดีอาญากรรมอีกและยังเป็นคดีสะเทือนขวัญประชาชนทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศ
ต่อมา นายเกรียงไกร วิริยะนนท์ ประธาน กต.ตร.สภ.เกาะพะงัน พร้อมด้วย นายวิชัย คงมั่น นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะพะงันได้เข้ามอบช่อดอกไม้เพื่อขอบคุณกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถติดตามจับกุมตัวคนร้าย ที่ก่อเหตุรายนี้ ได้ภายใน 24ชั่งโมง ซึ่งเป็นการสร้างภาพลักษณ์การท่องเที่ยวให้กับเกาะพะงันอย่างมาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี