วันอาทิตย์ ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
สสส.รวมพลัง ปลุกคนไทยใช้หัวใจฟังเสียงที่ไม่ได้ยิน

สสส.รวมพลัง ปลุกคนไทยใช้หัวใจฟังเสียงที่ไม่ได้ยิน

วันพุธ ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2562, 19.34 น.
Tag : ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ นพ.วีระพันธ์ สุพรรณไชยมาตย์ ปลุกคนไทย สสส. เสียงที่ไม่ได้ยิน
  •  

สสส. โชว์ผลงาน 1 ทศวรรษความเป็นธรรมทางสุขภาพ สร้างสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ ยกระดับคุณภาพชีวิต 8 กลุ่ม “คนพิการ-ไร้บ้าน-ผู้สูงอายุ-ผู้หญิง-ผู้ต้องขัง-แรงงาน-ผู้มีปัญหาสถานะบุคคล/ประชากรข้ามชาติ-มุสลิม” รวมพลังคนทำงานด้านสังคมกว่า 2 พันคน ปลุกคนไทยใช้หัวใจฟังเสียงที่ไม่ได้ยิน

12 มิ.ย.62 ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดงานประชุมวิชาการและแลกเปลี่ยนเรียนรู้เสียงที่คนอื่นไม่ได้ยิน : ประชากรกลุ่มเฉพาะ “ Voice of the voiceless: the vulnerable populations” เพื่อลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำของประชากรทุกกลุ่ม โดยแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ บูรณาการทำงานร่วมกัน และต่อยอดกระบวนการทำงานเพื่อเสริมพลังการขับเคลื่อนการสร้างเสริมสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะให้เกิดความเท่าเทียมทางสังคม โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม 2,300 คน จากผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ หน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มหาวิทยาลัย ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และประชากรกลุ่มเฉพาะต่างๆ


นพ.วีระพันธ์ สุพรรณไชยมาตย์ รองประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพคนที่ 2 ประธานในพิธี กล่าวว่า สสส. ให้ความสำคัญกับการทำงานสร้างเสริมสุขภาวะภายใต้วิสัยทัศน์ “ทุกคนบนแผ่นดินไทยมีขีดความสามารถ สังคม สิ่งแวดล้อม ที่เอื้อต่อสุขภาวะ” ดังนั้นทุกคนบนแผนดินไทยจึงหมายรวมถึง “ประชากรกลุ่มเฉพาะ” ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเปราะบาง  และมีข้อจำกัดในการดำเนินชีวิตสถานการณ์ที่คนกลุ่มนี้ต้องเผชิญร่วมกันคือ  1. ไร้ตัวตน ถูกมองข้าม 2. ถูกผลักภาระ 3. มีความเสี่ยงสูง 4.ถูกกีดกันออกจากนโยบาย และ 5. มีจิตสำนึกจำยอม หรือยอมจำนน การทำงานเพื่อลดช่องว่างของปัญหาเหล่านี้ สสส. ต้องหากลไกที่แตกต่างที่สอดคล้องกับวิถีการดำรงชีวิต ถือเป็นความท้าทายของการทำงานให้บรรลุความเป็นธรรมทางสุขภาพคือ ลดความเหลื่อมล้ำผ่านปัจจัยทางสังคม สร้างการเปลี่ยนแปลงทั้งในระดับวิธีคิดและเชิงโครงสร้างโดยอาศัยยุทธศาสตร์การสร้างแนวร่วมสนับสนุนจากทุกภาคส่วนของสังคม ทั้งภาคประชาสัมคม ภาครัฐ และภาคเอกชน

ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส. ใช้ยุทธศาสตร์ไตรพลังในการขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาพคือ พัฒนาองค์ความรู้ ขับเคลื่อนนโยบาย และสร้างเครือข่ายการพัฒนาศักยภาพ ซึ่งหนึ่งในนโยบายการทำงานที่ สสส. ให้ความสำคัญคือ การลดความเหลื่อมล้ำทางสุขภาพ สร้างความเท่าเทียม ยุติธรรม ไม่แบ่งแยก ซึ่งประเทศไทยและนานาประเทศให้ความสำคัญต่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals–SDGs) ที่มีเป้าหมายร่วมกันคือการสร้างความเป็นธรรมทางสุขภาพและสังคมให้ปรากฏขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในทุกมิติ สสส. ได้สร้างพื้นที่ต้นแบบการทำงานลดความเหลื่อมล้ำของประชากรกลุ่มเปราะบาง 4 ด้าน คือ 1.พัฒนาสิทธิและการพิสูจน์สิทธิของประชากรเพื่อการเข้าถึงบริการทางสุขภาพ หรือสวัสดิการสังคมตามสิทธิที่พึงมีพึงได้ 2.พัฒนากลไกการสร้างเสริมสุขภาพ สิทธิประโยชน์ ระบบบริการที่เหมาะสมกับบริบทที่แตกต่างกันของแต่ละกลุ่มประชากร 3.พัฒนากลไกเสริมเพื่อการเข้าถึงความเป็นธรรมทางสุขภาพ 4.สื่อสารเพื่อการสร้างความเข้าใจการสร้างเสริมสุขภาวะของประชากรกลุ่มเฉพาะ

นางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สสส. กล่าวว่า สสส. เข้าใจบริบทสถานการณ์ทางด้านสุขภาพของคนในสังคมที่มีความแตกต่างกันของ “ประชากรกลุ่มเฉพาะ” ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา สสส. ได้ร่วมกับภาคีเครือข่าย มุ่งเน้นการลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความเป็นธรรมทางสุขภาพใน 8 กลุ่ม ได้แก่ คนพิการ 2.04 ล้านคน คนไร้บ้าน 1,518 คน ผู้สูงอายุ 13.3 ล้านคน ผู้หญิง 37.7 ล้านคน ผู้ต้องขังหญิง 1.5 แสนคน แรงงานนอกระบบ 21.19 ล้านคน ผู้มีปัญหาสถานะบุคคล/ประชากรข้ามชาติ 3.1 ล้านคน และมุสลิม 3.2 ล้านคน ซึ่งได้รับผลกระทบจากความไม่เป็นธรรมทางสุขภาพ ทั้งการสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาองค์ความรู้เพื่อนำไปสู่การพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ การพัฒนาระบบกลไกเพื่อขับเคลื่อนนโยบายทั้งในระดับประเทศและระดับพื้นที่ การพัฒนาศักยภาพภาคีเครือข่าย รวมถึงการสร้างสรรค์นวัตกรรมต่างๆ ให้เกิดการสร้างเสริมสุขภาวะที่ดีในประชากรกลุ่มเฉพาะ ซึ่งมีผลงานเชิงประจักษ์ในหลายประเด็นที่สามารถนำไปสู่การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างคนทำงาน จนถึงภาคีเครือข่าย องค์กรที่เกี่ยวข้องได้

“ผลงานรูปธรรมในการทำงานที่ประสบความสำเร็จ เช่น สสส.สนับสนุนนวัตกรรมการจ้างงานพิการตั้งแต่ปี 2558 ตอนนี้เราจ้างงานได้ 15,000 อัตรา เกิดต้นแบบศูนย์บริการคนพิการแบบครบวงจร  2 แห่ง คือ มูลนิธิพิทักษ์ดวงตาลำปาง และ ศูนย์บริการคนพิการ จ.สระบุรี การแก้ไขปัญหาการคุกคามทางเพศ ผ่านแคมเปญ ถึงเวลา “เผือก” เพื่อเปลี่ยนพลังเงียบให้ลุกขึ้นมาจัดการและไม่นิ่งเฉยต่อความรุนแรงทางเพศ พัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายและขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุภายใต้ระเบียบวาระแห่งชาติ เรื่องสังคมผู้สูงอายุ เป็นต้น ที่สำคัญการประชุมครั้งนี้ เป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันระหว่างเครือข่ายคนทำงาน และประชากรกลุ่มเฉพาะได้รับการพูดคุย เยียวยา ฟังเสียงด้วยหัวใจ ฟื้นฟูให้กำลังใจกัน สร้างแรงบันดาลใจต่อกัน เริ่มจากทำให้เห็นคุณค่าในตัวเองก่อน เพื่อมีพลังในการช่วยเหลือคนอื่นต่อไป” นางภรณีกล่าว

ทั้งนี้ ภายในงานมีการปาฐกถา เสวนาวิชาการ กิจกรรมการแสดงจากภาคีเครือข่ายในส่วนเวทีคู่ขนาน การจัดแสดงนิทรรศการงานของ สสส. ผลงานภาคีเครือข่ายทั้งนวัตกรรม องค์ความรู้ และผลิตภัณฑ์ของภาคีเครือข่ายประชากรกลุ่มเฉพาะ

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • สสส.ชวนคนไทยงดเหล้าลดเสี่ยงมะเร็ง8ชนิด สสส.ชวนคนไทยงดเหล้าลดเสี่ยงมะเร็ง8ชนิด
  • อึ้ง!!! คนไทยสูญเสียปีสุขภาวะจาก\'ไตเรื้อรัง\' เพิ่ม 3 เท่า ในรอบ 30 ปี สูงสุดแซงมะเร็ง อึ้ง!!! คนไทยสูญเสียปีสุขภาวะจาก'ไตเรื้อรัง' เพิ่ม 3 เท่า ในรอบ 30 ปี สูงสุดแซงมะเร็ง
  • สสส.ลงพื้นที่ ศึกษาดูงาน \'ฮ่วมใจ๋ ฮ่วมก่อสุข (ภาวะ)\' ปรับพฤติกรรมเสี่ยงด้านสุขภาพให้เด็ก สสส.ลงพื้นที่ ศึกษาดูงาน 'ฮ่วมใจ๋ ฮ่วมก่อสุข (ภาวะ)' ปรับพฤติกรรมเสี่ยงด้านสุขภาพให้เด็ก
  • สสส.ประกาศเจตนารมณ์ \'ทิศทางและก้าวต่อไปของการสร้างเสริมสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ\' สสส.ประกาศเจตนารมณ์ 'ทิศทางและก้าวต่อไปของการสร้างเสริมสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ'
  • สสส.ดึงภาคีประชากรกลุ่มเฉพาะ 9 กลุ่ม กว่า 4 พันชีวิต รวมพลังหุ้นส่วนสุขภาวะ สสส.ดึงภาคีประชากรกลุ่มเฉพาะ 9 กลุ่ม กว่า 4 พันชีวิต รวมพลังหุ้นส่วนสุขภาวะ
  • วันงดสูบบุหรี่โลกปีนี้ สสส. สานพลัง ธปท. จัดนิทรรศการกระชากหน้ากากบุหรี่ไฟฟ้า วันงดสูบบุหรี่โลกปีนี้ สสส. สานพลัง ธปท. จัดนิทรรศการกระชากหน้ากากบุหรี่ไฟฟ้า
  •  

Breaking News

'อดีต ส.ว.สมชาย'สรุปฟังไต่สวนพยานคดีชั้น 14 บอกพยานเท็จอาการหนักมาก!!!

น้ำใจทหารไทย! เปิดด่านฉุกเฉินส่ง'อดีตรองเสธ.กัมพูชา' ป่วยมะเร็ง กลับบ้านอย่างอบอุ่น

ครั้งแรกในรอบ102ปี! 'ฝรั่งเศส'เปิดให้พลเมืองเล่นน้ำในแม่น้ำแซน การันตีคุณภาพน้ำดีเยี่ยม

ไม่ใช่มีแค่ถนนพระราม 2 สะพานพระราม 4 เกิดเหตุป้ายเหล็กขนาดใหญ่ตกใส่รถพังเสียหาย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved