เจ้าพนักงานตำรวจภายใต้การอำนวยการและสั่งการของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. , พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบก.ป. , พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม ผกก.4 บก.ป. , พ.ต.ท.ยุทธิวัสส์ กล่ำกล่อมจิตร์ , พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ เกิดเอี่ยม , พ.ต.ท.มนูญ แก้วก่ำ , พ.ต.ท.ธีรภาส ยั่งยืน รอง ผกก.4 บก.ป. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป. นำโดย พ.ต.ต.จักรี กันธิยะ สว.กก.4 บก.ป. , ร.ต.อ.ดิฐาศักดิ์ โชติเธียรศรณ์ , ร.ต.อ.ณรงค์เวช จิวเดช , ร.ต.ท.เรืองยศ ดีศรี , ร.ต.ท.สุชีพ ศรีคำมา รอง สว.กก.4 บก.ป. , ด.ต.ยศพงษ์ สิงห์นอก , ด.ต.เดชา คำรังษี , ด.ต.ปัณณวิทย์ ทะสวัสดิ์ , ด.ต.ไพฑูรย์ มูลสาคู , จ.ส.ต.พิภพ ทาคำ และ จ.ส.ต.จักรพันธ์ ดาคำ ผบ.หมู่ กก.4 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม นายกีรติ ศรีคำมี อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 221 หมู่ที่ 4 ต.กุดดินจี่ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 807/2562 ลงวันที่ 4 มิถุนายน 2562 โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้านเลขที่ ๗๐ หมู่ที่ ๑๒ ต.เก่ากลอย อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู
พฤติการณ์ก่อนจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการปราบปราม ให้ดำเนินการสืบสวนหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น กรณี สำนักข่าวได้เผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับ นางกันยา พวงนาค ซึ่งมีบุตรคือ ด.ช.จตุพล พวงนาค เป็นผู้พิการซ้ำซ้อนและป่วยหนัก จึงต้องการความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญในการบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือและก่อนหน้านี้ได้มีการประกาศขอรับบริจาคเงินและสิ่งของ เครื่องใช้ ที่จำเป็นเพื่อนำมาดูแลรักษา ด.ช.จตุพลฯ โดยเมื่อประมาณปลายปี 2561 ได้มีรายการบุญไม่จำกัดได้นำข้อมูลดังกล่าวมาเปิดรับบริจาคทางสื่อต่างๆ ทั้งช่องทางเฟซบุ๊ก ยูทูปและสื่อออนไลน์อื่นๆ และเมื่อประมาณเดือนมีนาคม 2562 ที่ผ่านมา ด.ช.จตุพลฯ ได้เสียชีวิตและนางกันยาฯ จึงได้ปิดการรับบริจาคดังกล่าวทุกช่องทาง
ต่อมา เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2562 นางกันยาฯ ทราบว่า ยังมีข้อมูลการเปิดรับบริจาคของตนปรากฎอยู่ตามสื่อออนไลน์ต่างๆ โดยเฉพาะช่องทางเฟซบุ๊ก อีกทั้งได้ถูกเพื่อนบ้านและประชาชนอื่นผู้พบเห็นข้อความดังกล่าวตำหนิและนินทานางกันยาฯ เป็นจำนวนมาก นางกันยาฯ จึงได้ตรวจสอบข้อความดังกล่าวพบว่า เป็นข้อความรายละเอียดการเปิดรับบริจาคของตนจริง แต่ข้อความนั้นได้มีการแก้ไข และเปลี่ยนแปลงรายละเอียดในส่วนของบัญชีและเลขบัญชีที่รับบริจาค ซึ่งไม่ใช่บัญชีที่ตนเคยให้ไว้แต่แรก นางกันยาฯ จึงได้เดินทางไปแจ้งความลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เมืองพะเยา อีกทั้งได้วอนผู้สื่อข่าวช่วยกระจายข้อเท็จจริงดังกล่าวให้สังคมเข้าใจในข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นด้วย
หลังจากทราบข่าวสารดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ ๔ กองบังคับการปราบปราม ได้ดำเนินการสืบสวนหาข้อเท็จจริง จึงได้ทราบว่า มีกลุ่มผู้กระทำผิดกลุ่มนี้ได้มีการสมัครเฟซบุ๊ก ประเภทบัญชีบุคคล โดยใช้ชื่อกลุ่มว่า “ทีมช่วยเหลือ เด็กและผู้สูงอายุ”และ “ช่วยเหลือคนไทย ทั้วประเทศ”จากนั้นจะคอยนำข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเปิดรับบริจาคตามสื่อออนไลน์ต่างๆมาดัดแปลง แก้ไขและเพิ่มเติมข้อความ โดยเฉพาะชื่อบัญชีและหมายเลขบัญชีที่ต้องการให้ผู้ใจบุญโอนเงินบริจาค จากนั้นกลุ่มผู้กระทำผิดจึงได้นำข้อความที่เปลี่ยนแปลงแล้วมาโพสลงในเฟสบุ๊คดังกล่าวและโพสเข้าไปในเฟซบุ๊กเพจต่างๆอีกมากกว่า 20 เพจ ซึ่งการกระทำดังกล่าวนั้น ได้สร้างความเสียหายในหลายๆส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างมาก ทั้งในด้านของผู้ที่ใจบุญที่หลงเชื่อโอนเงินบริจาคช่วยเหลือในด้านของผู้ต้องการความช่วยเหลือรับบริจาคที่แท้จริงและในด้านของผู้ที่ถูกบิดเบือนข้อเท็จจริงดังเช่น กรณีของ นางกันยา พวงนาค เป็นต้น
ต่อมาได้มีผู้เสียหายส่วนหนึ่งเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มผู้กระทำความผิดดังกล่าวกับพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม จึงได้รับคดีและรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง จนกระทั่งได้ยื่นคำร้องขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้กระทำผิดในคดีนี้ จำนวน 2 ราย คือ นายกีรติ ศรีคำมี และ นายสุรศักดิ์ อนุอันต์
จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ได้สืบสวนหาข่าวจนสามารถจับกุม นายกีรติ ศรีคำมี ได้ที่ ต.เก่ากลอย อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู และภายหลังการจับกุม นายกีรติฯ ได้ให้การรับสารภาพและให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่า ตนและนายสุรศักดิ์ฯ ได้ร่วมกันกระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหาจริง และสาเหตุที่ทำให้ตนตัดสินใจกระทำผิดในครั้งนี้คือ เนื่องจากตนมีปัญหาทะเลาะกับพ่อแม่ทางบ้านจึงทำให้ตนไม่มีเงินใช้ และอีกส่วนหนึ่งก็ต้องการเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับเล่นเกมส์ออนไลน์ด้วย จากนั้นจึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม เพื่อดำเนินคดีต่อไป ส่วนนายสุรศักดิ์ฯ นั้นไหวตัวทันและ ได้หลบหนีการจับกุมและยังอยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี