สพฐ.เตรียมวางแนวทางการรับ นร.ปี53 พร้อมมอบอำนาจให้ กศจ.และสพท. กำหนดการรับนร.ในพื้นที่เอง
25 มิ.ย.62 ดร.สุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยภายหลังประชุมผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่าเมื่อเร็วๆนี้ สพฐ.ได้ประชุมรับฟังความคิดเห็นแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการรับนักเรียน สังกัด สพฐ.ปีการศึกษา 2563 โดยเชิญผู้เกี่ยวข้องมาร่วมให้ข้อเสนอแนะ ได้แก่ ผู้แทนคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) สมาคมอนุบาลศึกษาแห่งประเทศไทย ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดกรุงเทพมหานคร ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.)ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา ผู้อำนวยการโรงเรียนทั้งโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง โรงเรียนวัตถุประสงค์พิเศษ และโรงเรียนทั่วไป
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ข้อสรุปเบื้องต้นที่ถือเป็นการหลักการในการจัดทำร่างนโยบายและแนวปฏิบัติการรับนักเรียน ว่าให้ยึดหลักการกระจายอำนาจและความรับผิดชอบลงไปให้พื้นที่เป็นฐาน โดยคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) และสพท.มีทรู้บริบทของโรงเรียนในพื้นที่ดี จะต้องมีกำหนดรับนักเรียนเอง ขณะเดียวกัน ตนจะเสนอ รมว.ศึกษาธิการ คนใหม่ ว่าขอให้มีการปรับปรุงกลไกการบริหารใน กศจ. โดยจะให้ ผอ.สพท.เข้าไปเป็นกรรมการฯด้วย เพื่อให้ร่วมวางแผนและแก้ไขปัญหาการรับนักเรียน ซึ่งตรงนี้เป็นข้อเรียกร้องจากผอ.สพท.ด้วย เพื่อยึดหลักความเสมอภาค โอกาสทางการศึกษา และคุณภาพของนักเรียน กระบวนการรับนักเรียนเป็นไปอย่างโปร่งใส ตามหลักธรรมาภิบาล เน้นการมีส่วนร่วมของท้องถิ่น ของผู้ปกครอง ชุมชนและสถานศึกษาสังกัดอื่น คณะกรรมการที่เกี่ยวข้องในระดับพื้นที่จัดทำแผน ระบบการติดตามตรวจสอบ แก้ไขปัญหาและช่วยเหลือดูแลรับผิดชอบผู้เรียนให้มีที่เรียนครบทุกคน ขณะที่ส่วนกลางจะมีกำหนดกรอบนโยบายกว้างๆและกำหนดปฏิทินการรับนักเรียนลงไป
“หลักการสำคัญที่เห็นร่วมกันคือ การรับนักเรียนปีหน้า จะเน้นกระจายอำนาจความรับผิดชอบลงไปให้ระดับเขตพื้นที่มากขึ้น เพราะรู้สภาพปัญหา บริบทของพื้นที่ดีกว่า ส่วนสพฐ.จะเป็นเพียงกำหนดนโยบายกว้างๆเป็นกรอบที่ให้พื้นที่ และโรงเรียนไปดำเนินการ ซึ่งจากนี้ไปต้องไปทำรายละเอียดต่างๆ ต้องไปหารือร่วมกันหลายประเด็น เช่น การรับนักเรียนเงื่อนไขพิเศษ ที่ก่อนหน้านี้ได้ปรับลดจาก 7 ประเภทเหลือ 4 ประเภท ก็อาจจะมีการทบทวนอีกครั้งหนึ่งว่าควรจะกำหนดอย่างไรให้สอดคล้องกับบริบทของโรงเรียนในแต่ละพื้นที่ รวมถึงเรื่องจำนวนนักเรียนต่อห้องของโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง ซึ่งกำหนดไว้ 40 คนต่อห้อง แต่ไม่เกิน 45 คนต่อห้อง ก็จะมีการไปวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียด้วยว่าการกำหนดเช่นนี้เหมาะสมหรือไม่
หรือควรจะต้องปรับปรุงจุดใดหรือไม่ เช่นเดียวกับการรับระดับอนุบาล 3 ขวบ ที่จะต้องเป็นไปตามนโยบายที่มุ่งกระจายให้ท้องถิ่นเข้ามาดูแลมากขึ้น ส่วน สพฐ.จะดูแลเด็ก 4 ขวบขึ้นไป ยกเว้นในพื้นที่ที่ไม่โรงเรียนของท้องถิ่นรองรับ สพฐ.ก็จะต้องดูแลเอง อย่างไรก็ตาม ประเด็นเหล่านี้จะต้องหารือและนำเสนอที่ประชุม กพฐ.และรมว.ศึกษาธิการ คนใหม่พิจารณาอีกครั้ง หลังจากนี้ สพฐ.ก็จะเร่งดำเนินการจัดทำประกาศ สพฐ. เรื่อง นโยบายและแนวปฏิบัติการรับนักเรียน สังกัด สพฐ. ปีการศึกษา 2563 และประกาศให้ทราบภายในเดือนก.ย.นี้” ดร.สุเทพ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี