เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 26 มิถุนายน 2562 พ.ต.ท.อติชาติ พรฑิตกุล รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.มาบอำมฤต ได้รับแจ้งเหตุตำรวจยิงตัวตาย ภายในบ้านเลขที่ 119 ถนนเทศบาลซอย 6 หมู่ที่ 12 ต.ดอนยาง อ.ปะทิว จ.ชุมพร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ สุวรรณฤทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร , พ.ต.ท.ประพาส รอดเกลี้ยง รอง ผกก.(ป) , พ.ต.ท.บุญเชต กัลปหา รอง ผกก.ส.ส. , ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน , แพทย์เวร รพ.มาบอำมฤต , หน่วยกู้ภัยปะทิว และหน่วยกู้ชีพเทศบาลมาบอำมฤต
ที่เกิดเหตุอยู่ห่างจาก สภ.มาบอำมฤต ประมาณ 500 เมตร เป็นบ้าน 2 ชั้น ตรวจสอบบริเวณห้องนอนชั้น 2 พบศพ ทราบชื่อคือ ร.ต.อ.พิเชษฐ์ สุชาติพงษ์ อายุ 48 ปี สภาพศพนุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีดำ ใส่เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีขาว นอนหงายเสียชีวิตอยู่บนที่นอน มีแผลถูกยิงที่ขมับขวาทะลุขมับซ้าย กระสุนพุ่งขึ้นไปเจาะฝ่าเพดานห้องเป็นรู 1 รู ที่มือขวากำปืนสั้นขนาด 9 มม.ยี่ห้อกล็อก กระสุนในรังเพลิงถูกยิงออกไปแล้ว 1 นัด มีหมอนโชกเลือดตกอยู่ข้างศพ 1 ใบ มีร่องรอยกระสุนปืนจ่อยิงจนทะลุ บนหัวเตียงนอนมีวิทยุสื่อสารวางอยู่ 1 เครื่อง
นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ยังพบสมุดบันทึกที่ ร.ต.อ.พิเชษฐ์ เขียนข้อระบายไว้ 3 หน้ากระดาษ โดยระบุถึงสาเหตุที่ต้องยิงตัวตายมาจาก "คำสั่งที่ถูกย้ายจากงานสายป้องกันและปราบปราบ ไปอยู่ในตำแหน่งงานสอบสวน อย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม ความอัปยศต่างๆ นาๆ ในแวดวงสีกากี และเส้นสายในการวิ่งเต้นโยกย้ายในตำแหน่ง จนตำรวจดีๆ ต้องหมดหวังหมดกำลังใจ" เจ้าหน้าจึงเก็บสมุดบันทึกไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกำส่งศพไปชันสูตรอย่างละเอียดที่โรงพยาบาล
จากการสอบสวนทราบว่า ช่วงเกิดเหตุ ร.ต.อ.พิเชษฐ์ ออกเวรกลับจาก สภ.มาบอำมฤต แล้วเดินทางกลับเข้าบ้าน หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าได้เข้าไปเก็บตัวเงียบอยู่ในห้องนอนเพียงคนเดียว โดยชั้นบนของบ้านได้ปิดไฟมิดสนิท ขณะลูกสาวคนโต อายุ 14 ปี เรียนชั้น ม.1 นั่งทำการบ้านอยู่บริเวณชั้นล่าง ส่วนภรรยา และลูกชายวัย 9 ขวบ เดินออกไปที่บ้านพี่ชาย ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 400 เมตร ไม่นานมีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด แต่เสียงไม่ดังมากนัก ลูกสาวที่นั่งทำการบ้านอยู่เข้าใจว่าเป็นเสียงท่อรถจักรยานยนต์ ต่อมาจึงคิดเอะใจว่าทำไมพ่อปิดไฟในห้องและชั้น 2 บนบ้านทั้งหมดจนมืดสนิท จึงโทรศัพท์ไปบอกแม่ให้รีบกลับมาดู และเมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปดูก็พบว่า ร.ต.อ.พิเชษฐ์ ยิงตัวตายดังกล่าว
ขณะที่ นางแอนนา สินธุนนท์ อายุ 44 ปี ภรรยาผู้ตาย กล่าวเสียงดังต่อหน้า พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ สุวรรณฤทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร ถึงปมเหตุที่สามีตนเองยิงตัวตาย ว่ามามาจากความเครียดในช่วง 3 - 4 เดือนที่ผ่านมา หลังมีคำสั่งย้ายสามีตนจากตำแหน่งรองสารวัตรป้องกันและปราบปราม ไปอยู่ตำแหน่งรองสารวัตรสอบสวน เป็นการย้ายตำรวจจากงานถนัดไปอยู่งานที่ไม่ถนัด ไม่เคยสอบถามใดๆ ทั้งสิ้น คิดจะย้ายใครไปอยู่ตรงไหนก็ย้ายโดยไม่รู้ถึงปัญหา ตนขอตัดขาดจากวงการตำรวจนี้อย่างเด็ดขาด จะไม่ขอเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น ขณะที่ พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ ยืนฟังด้วยสีหน้าเคร่งเครียด พร้อมกล่าวปลอมใจและให้กำลังใจ
นางแอนนา ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวอีกว่า ปกติสามีตนเป็นรักครอบครัว สนุกสนานร่าเริง มีอัธยาศัยดี เพื่อนร่วมงานและชาวบ้านรัก แต่หลังจากมีคำสั่งย้ายช่วงกว่า 3 เดือนที่ผ่านมา สามีตนกลายเป็นคนเครียด เก็บกดเก็บตัว ไม่สุงสิงกับใคร เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยทีเดียว และจะพูดจาตัดพ้อกับตนและเพื่อนๆ ทุกวัน เกี่ยวกับตำแหน่งที่ถูกปรับย้ายว่าไม่ถนัน ไม่เป็นงานสอบสวน ตนฝากถามไปถึงระดับผู้ใหญ่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าการโยกย้ายตำรวจแต่ละครั้งคิดจะย้ายใครไปอยู่ตรงไหนก็ได้ใช่ไหม โดยไม่เคยสอบถามผู้ที่ถูกย้ายว่ามีความสามารถด้านใด ทำงานอะไรได้บ้าง เคยรู้ปัญหาเหล่านี้ไหม ไม่ใช่คิดแต่จะหาผลประโยชน์วิ่งเต้นตำแหน่งกันคำสั่งโยกย้าย ครั้งนี้กลายเป็นคำสั่งตาย ทำลายครอบครัวตน ลูกๆ ทั้ง 2 คน ต้องกำพร้าพ่อตั้งแต่ยังเด็ก ขาดเสาหลักของครอบครัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ ร.ต.อ.พิเชษฐ์ อดีตเป็นตำรวจชั้นประทวน ยศจ่าสิบตำรวจ (จ.ส.ต.) ตำแหน่ง ผบ.หมู่ ฝ่ายป้องกันและปราบปราม ประจำอยู่ที่ สภ.มาบอำมฤต ต่อมาได้เรียนระดับปริญญาตรี จบคณะนิติศาสตร์ จากนั้นในปี พ.ศ.2548 สอบติดนายตำรวจสัญญาบัตร ในตำแหน่งรองสารวัตรป้องกันและปราบปราบ (รอง สว.ป.) จนเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งโยกย้ายระดับ สว.รอง ผบก.ตามคำสั่งที่ 127/2562 - 139/2562 จำนวน 6,239 ตำแหน่ง โดยคำสั่งดังกล่าวได้โยกย้าย ร.ต.อ.พิเชษฐ์ รอง สว.ป.สภ.มาบอำมฤต ไปอยู่ในตำแหน่ง รอง สว.(สอบสวน) จนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี