ชายคาพระพิรุณ : 1 กรกฎาคม 2562

ชายคาพระพิรุณ : 1 กรกฎาคม 2562

วันจันทร์ ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2562, 06.00 น.
Tag :

กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ โดย อธิบดีโอภาส ทองยงค์ มุ่งมั่นพัฒนาสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกรและเกษตรกร ให้มีระบบบริหารจัดการด้านการเงิน การบัญชีที่มีคุณภาพและเชื่อถือได้ ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยมุ่งให้นำ “องค์ความรู้ด้านบัญชี” ไปใช้แก้ไขจุดอ่อนและเสริมจุดแข็งเพื่อให้เอื้อต่อการพัฒนาภาคการเกษตรได้อย่างเหมาะสม สมดุล และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ตามกรอบแนวคิด 3 พอ พลิกชีวิต : น้ำพอดี ดินพอเหมาะ คนพอเพียง โดยสามารถเชื่อมโยง “ข้อมูลทางบัญชี” ในมิติต่างๆ ไปสู่การบริหารจัดการดินและน้ำในระดับครัวเรือน เพื่อการพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน ด้วยการยึดแนวคิด ประหยัด เรียบง่ายและประโยชน์สูงสุด อธิบดีโอภาส เน้นย้ำว่า การดำเนินการตามกรอบแนวคิด 3 พอ พลิกชีวิต : น้ำพอดี ดินพอเหมาะ คนพอเพียง ให้บรรลุตามเป้าหมายสร้างวิถีสู่ความพอเพียงที่มุ่งหวังไว้ ล้วนมีปัจจัยความสำเร็จที่ได้จากการทำบัญชีและการบันทึกข้อมูลทั้งสิ้น หากทุกฝ่ายเข้าใจกรอบแนวคิด คุณลักษณะ คำนิยามของเศรษฐกิจพอเพียงอย่างแจ่มชัดแล้ว ก็จะง่ายขึ้นในการนำไปประยุกต์ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติ และจะนำไปสู่ผลที่คาดว่าจะได้รับ คือ การพัฒนาที่สมดุลและยั่งยืน พร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงในทุกด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ความรู้และเทคโนโลยี

ปัจจุบันผู้บริโภคทั่วโลกให้ความสนใจกับการบริโภคอาหารที่สด สะอาด ปลอดภัย ไร้สารตกค้างกันมากขึ้น ดังนั้น ประเทศไทย ประเทศผู้เป็นหนึ่งฐานการผลิตสินค้า วัตถุดิบสำหรับทำอาหาร ซึ่งเปรียบเสมือนครัวโลก จึงต้องหันมาใส่ใจและให้ความสำคัญกับเรื่องการผลิตอาหารปลอดภัยเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคด้วยเช่นกัน สำหรับในส่วนของกรมประมง นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง ได้ให้นโยบายและวางแนวทางปฏิบัติเพื่อติดอาวุธทางปัญญาเสริมความรู้ผลิตอาหารปลอดภัยใส่ใจสิ่งแวดล้อมให้เกษตรกรทั่วประเทศ เผยแพร่ความรู้แก่เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและผู้ประกอบการตลอดสายการผลิต ให้ทราบถึงแนวทางวิธีการในการผลิตสัตว์น้ำให้ปลอดภัยต่อการบริโภค ซึ่งที่ผ่านมากรมประมง ได้มีการลงพื้นที่ทั่วประเทศ ให้ความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์การเกิดโรคในสัตว์น้ำ เพื่อให้รู้ทัน รู้จักและเข้าใจโรคแต่ละชนิดมากขึ้น รวมถึงการประเมินการวิเคราะห์ความเสี่ยงของการเกิดโรค การเฝ้าระวังโรคในฟาร์ม การตรวจติดตามการเกิดโรค รวมทั้งหลักการจัดการความปลอดภัยทางชีวภาพลดปัญหาการเกิดโรคระบาด และการใช้ยาที่ไม่สมเหตุสมผล รวมถึงการสร้างความตระหนักรู้ในเรื่องของการใช้ประโยชน์ทรัพยากรน้ำร่วมกันอย่างมีความรับผิดชอบ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเรื่องต่างๆ เหล่านี้ เป็นทิศทางและกระแสการผลิตสัตว์น้ำของโลกด้วย


นอกจากนี้ เมื่อช่วงปลายเดือนพฤษภาคม – ต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ยังได้ร่วมกับเครือข่ายผู้เลี้ยงกุ้งไทย จัดงานสัมมนา “ชูกุ้งไทยสู่ความยั่งยืน ยกมาตรฐานกุ้งไทย สด สะอาด รสชาติดี ปลอดสารพิษ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” ในพื้นที่ทางภาคตะวันออกและภาคใต้ รวม 11 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ปัตตานี สตูล ตรัง กระบี่ พังงา และระนอง โดยมีเกษตรกรจากชมรมผู้เลี้ยงกุ้ง 16 ชมรม รวมแล้วกว่า 900 คน ให้ความสนใจเข้าร่วมฟังการสัมมนากันมาก ทั้งนี้ ภายในงานสัมมนามีการบรรยายและให้ความรู้เกี่ยวกับการสร้างความเข้าใจในการใช้ยาและเคมีภัณฑ์ในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ รวมทั้ง เรื่องของกระบวนการจัดการน้ำที่ใช้เลี้ยงสัตว์น้ำก่อนที่จะทิ้ง เพื่อไม่ให้เป็นการทำลายสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ในงานสัมมนาดังกล่าว ผู้เข้าร่วมงานยังได้แสดงเจตจำนงร่วมกันในเรื่องของความตั้งใจที่จะลดการใช้ยาต้านจุลชีพที่ไม่สมเหตุสมผลทำให้เกิดปัญหาเชื้อดื้อยา สารตกค้างในกุ้ง และเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว ก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบต่ออุตสาหกรรมกุ้งไทยที่ทั้งระบบ

ดังนั้น การจัดงานดังกล่าว ถือเป็นการช่วยส่งเสริมให้อุตสาหกรรมการเลี้ยงกุ้งไทยเกิดความยั่งยืน และยังเกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อประเทศไทยด้วย และจากการติดตามผลหลังจากที่เกษตรกรได้รับความรู้ไปนั้น พบว่าเกษตรกรมีความสนใจกระตือรือร้น ตอบรับนโยบายและมุ่งมั่นที่จะผลิตสัตว์น้ำให้มีความสด สะอาด ไร้สารตกค้าง เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคกันมากข้น จะเห็นว่าแนวทางการดำเนินการที่ผ่านมาถือเป็นการทำงานเชิงรุก เพราะเจ้าหน้าที่กรมได้ลงพื้นที่ชนิดที่เรียกว่าเคาะประตูกันถึงบ้านจัดการส่งเสริมความรู้กันถึงที่เลยทีเดียว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการพัฒนาศักยภาพของเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำให้เป็นเกษตรกรอัจฉริยะ (Smart Farmer) ในการผลิตสินค้าสัตว์น้ำให้มีคุณภาพได้มาตรฐานสากลมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ถือเป็นการสร้างจุดแข็งของไทยในการช่วยเพิ่มขีดความแข่งขันในการส่งออกสินค้าสัตว์น้ำของประเทศไทยกับประเทศคู่ค้าได้อย่างมาก

กรมส่งเสริมการเกษตร เตรียมจัดประชุมวิชาการข้าวโพดและข้าวฟ่าง ครั้งที่ 39 ระหว่างวันที่ 27-29 สิงหาคม 2562 นี้ ขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมประชุมและส่งผลงานการศึกษาวิจัยข้าวโพดและข้าวฟ่าง ภายในวันที่ 15 กรกฎาคม 2562 ทั้งนี้ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่https://corn-sorghum39.doae.go.th สำนักส่งเสริมและจัดการสินค้าเกษตร 0-2940-6124 E-mail : cornandsorghum39@gmail.com

 

ขุนเกษตรา

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top