เปิดตัวเลขสะท้อนรัฐเหลวปราบ‘หวยใต้ดิน’ 30องค์กรค้านเพิ่มสลาก100ล้านฉบับ
เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2562 ที่ห้องไดนิ่งรูม เดอะฮอล์ บางกอก(The Hall) กรุงเทพฯ เครือข่ายคนทำงานด้านเด็กและเยาวชน 30 องค์กร ร่วมกับสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย และสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย จัดเวทีแถลงการณ์วิพากษ์การทำงานของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ต่อการแก้ไขปัญหาสลากฯเกินราคา ด้วยการเพิ่มปริมาณสลากฯถึง 100 ล้านฉบับ และการออกผลิตภัณฑ์สลากฯรูปแบบใหม่ รวมถึงการฟื้นหวยบนดินเพื่อมอมเมาประชาชน เด็กและเยาวชน
ทั้งนี้ ภาคีเครือข่ายฯได้ออกแถลงการณ์ แสดงจุดยืนดังนี้ 1.คัดค้านการเพิ่มปริมาณสลากกินแบ่งรัฐบาล 100 ล้านฉบับ โดยขอให้ทบทวนให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ควรเกินจากจำนวนประชากรของประเทศ ทั้งนี้การเพิ่มจำนวนสลากฯที่ผ่านมาพบว่ามิได้ทำให้ปัญหาสลากเกินราคาดีขึ้นแต่อย่างใด เป็นเพียงคำกล่าวอ้างเพื่อเพิ่มปริมาณการมอมเมาประชาชน มุ่งหาเงินเข้ารัฐ ส่งผลกระทบต่อประชาชน
2.ขอให้รัฐบาลทบทวนนโยบายการเพิ่มสลากรูปแบบใหม่ตามที่ปรากฏเป็นข่าว โดยให้มีการศึกษาผลกระทบและจัดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างรอบด้าน ด้วยกลุ่มคนที่มีความเป็นกลาง เป็นที่ยอมรับ ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับนโยบายนี้ รวมถึงให้มีการกำหนดแผนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการพนันที่จะเกิดขึ้นตามมาโดยเฉพาะชนกลุ่มเด็กและเยาวชน
3.ขอให้รัฐบาลฟื้น กองทุนสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อพัฒนาสังคมกลับมา เพื่อดำเนินการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการพนันในสังคมไทย มีความเป็นอิสระไม่อยู่ภายใต้ระบบราชการ ประชาชนสามารถเข้าถึงได้อย่างเสมอภาค เนื่องจากปัญหาการพนันในสังคมไทยยังขาดเจ้าภาพ ที่ทำหน้าที่ในการป้องกันแก้ไขและลดผลกระทบ
นายปณิธาณ ศรีสร้อย รองประธานสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สภาเด็กฯ เราห่วงเรื่องการสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กเยาวชนไม่ให้เข้าถึงการพนัน เพราะเท่าที่ทราบทางภาครัฐยังไม่มีนโยบายแก้ไขเรื่องนี้อย่างจริงจัง เราจึงอยากให้รัฐจัดสรรงบประมาณที่ได้มาจากการขายสลากฯ นำมาสนับสนุนในการจัดตั้งกองทุน เพื่อให้ภาครัฐ เอกชน องค์กร หรือหน่วยงานต่างๆนำงบประมาณในส่วนดังกล่าว มารณรงค์สร้างภูมิคุ้มกันและแก้ไขปัญหาการเข้าถึงการพนันให้เด็กและเยาวชน น่าเสียดายมากที่รัฐบาล คสช.เคยให้มีการจัดตั้งกองทุนนี้ไว้แล้วแต่กลับมาถูกยกเลิกไป ทำให้ขาดกลไกที่สำคัญไป
นายปณิธาณ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันเรายังเดินหน้ารณรงค์การพนันออนไลน์ที่พบเห็นง่ายตามเว็ปไซด์ต่างๆ เพื่อสร้างแนวคิดให้เด็กและเยาวชนเปลี่ยนมุมมองเรื่องการพนันออนไลน์เป็นเรื่องที่ผิด แต่รัฐยังมีแนวคิดสร้างหวยออนไลน์ขึ้น ทำให้เกิดความย้อนแย้งในการรณรงค์ของเรา อย่างไรก็ตามหากจะทำอะไรต้องมีมาตรการป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงง่ายเป็นสำคัญ แม้เราไม่สามารถต่อต้านการพนันที่เกิดขึ้นมาได้ทั้งหมด แต่เราสามารถสร้างแนวคิดให้เด็กไม่ไปข้องเกี่ยวได้
นายพชรพรรษ์ ประจวบลาภ เลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าคนไทยจำนวนมากนิยมเล่นการพนัน เพราะการพนันเป็นสิ่งที่ถูกปลูกฝังจากรุ่นสู่รุ่นมาช้านาน แต่การที่สำนักงานสลากฯออกนโยบายพิมพ์สลากฯ เพิ่ม เพื่อแก้ปัญหาการขายสลากฯเกินราคานั้น จะเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าคนไทยติดการพนันเพิ่มขึ้นมากกว่า จึงไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ ทั้งนี้ภาครัฐเป็นผู้ควบคุมเรื่องดังกล่าวแต่ทำไมแก้ปัญหาไม่ตรงจุด ทำไมไม่สร้างค่านิยมที่ถูกต้อง แต่กลับส่งเสริมให้คนเล่นการพนันมากขึ้น เราไม่เคยห้ามหรือคัดค้านไม่ให้มีสลากฯ แต่ควรมีในขอบเขตที่เหมาะสมไม่มากจนเกินไป
ส่วนแนวคิดการออกสลากฯรูปแบบใหม่ที่ไม่ใช่ตัวเลข เรายิ่งไม่เห็นด้วย เพราะมองว่าจำนวนสลากฯที่พิมพ์มากขึ้นน่าจะเพียงพอต่อความต้องการแล้ว การออกสลากฯรูปแบบใหม่ จะยิ่งตอกย้ำว่าคนไทยชอบเสี่ยงโชค ลุ่มหลงระบบการพนัน รัฐควรแก้ให้คนเล่นการพนันให้น้อยลง
“ผมมองว่านโยบายของ สำนักงานสลากฯมีผลกระทบต่อเด็กและเยาวชนมาก ถ้าเราไม่หยุดวงจรในรูปแบบนี้เด็กรุ่นใหม่ที่เกิดมา เขาจะอยู่ในวัฏจักรอัปยศที่ส่งต่อการนิยมทางบวกในการเล่นการพนัน จากคนรุ่นก่อนมาถึงคนรุ่นใหม่ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อเด็กและเยาวชนแน่นอน ส่วนแนวทางแก้ไข อยากเสนอให้สำนักงานสลากฯกลับไปแก้ไขกลไกลทางการตลาด เช่น ยกเลิกพ่อค้าคนกลาง ให้สำนักงานสลากฯจัดจำหน่ายสลากฯด้วยตนเอง จะช่วยแก้ไขปัญหาราคาสลากฯได้ แต่ที่สำนักงานสลากฯยังไม่ดำเนินการอาจมีวัตถุประสงค์แอบแฝงบางอย่างหรือไม่ ผมจึงอยากถามคนไทยทุกคนว่าเราภูมิใจหรือไม่ที่ประเทศของเรามีอัตราการพิมพ์สลากฯมากกว่าจำนวนประชากรในประเทศไทย” นายพชรพรรษ์ กล่าว
ขณะที่ รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ ผอ.ศูนย์ศึกษาการพนัน กล่าวว่า จากงานวิจัยหลายชิ้นทั่วโลกยืนยันว่า การปล่อยให้เกิดการพนันที่มากเกินไปจะสร้างความเสียหายในหลายมิติ โดยเฉพาะมิติด้านครอบครัวเมื่อมีผู้ติดการพนัน จะส่งผลกระทบต่อบุตร ทั้งในด้านการศึกษาและสุขภาพ เด็กจะมีคุณภาพชีวิตต่ำ ทั้งนี้จากรายงานสถานการณ์การพนันในสังคมไทย ปี 2560 พบว่า มีผู้เล่นสลากฯ 21.4 ล้าน คน และหวยใต้ดิน17.3 ล้านคน รายงานนี้สะท้อนให้เห็นว่ารัฐยังไม่มีการปราบปรามหวยใต้ดินอย่างจริงจัง มิหนำซ้ำยังออกผลิตภัณฑ์ใหม่ขึ้นมาแข่งขันเพื่อหวังเอาชนะหวยใต้ดิน แทนที่รัฐจะเข้มงวดในการปราบปรามกลับมีนโยบายพิมพ์สลากฯเพิ่ม คำถามคือรัฐกำลังจะหากำไรและกำลังนำพาประเทศไปสู่สังคมการพนันใช่หรือไม่ หรือถ้าเกิดขึ้นจริงจะเป็นการส่งเสริมให้หลายคนเล่นการพนันเป็นอาชีพเพิ่มขึ้น
“อยากเสนอให้รัฐ ลดความถี่ของการพนัน และอย่ากระตุ้นให้ประชาชนเล่นการพนัน ด้วยเงินรางวัลที่สูง การเล่นพนันควรจะอยู่เป็นที่เป็นทาง ไม่ใช่มีทุกที่ เพราะอาจเป็นสิ่งจูงใจให้ผู้คนอยากเล่นอยู่ตลอดเวลา และที่สำคัญควรออกนโยบายป้องกันเด็กและเยาวชนเข้าสู่การพนันก่อนวัยอันควร ขณะเดียวกัน สำนักงานสลากต้องแสดงเจตนารมณ์ที่จะรับผิดชอบต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมาไม่เคยศึกษากลไกปัญหาผลกระทบจากสลาก เหมือนไม่จริงใจแก้ปัญหา แต่ใช้วิธีการเพิ่มจำนวนสลากอย่างเดียว” รศ.ดร.นวลน้อย กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี