เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2562 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ตามที่ นายชูชัย ประทุมขันธ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านนาคูพัฒนา กรป.กลางอุปถัมภ์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาที่ 24 , นายบัณฑิต อ้วนละมัย นายก อบต.นาคู พร้อมด้วยคณะครู และเจ้าหน้าที่ อบต.นาคู ได้ออกเยี่ยมครอบครัวเด็กนักเรียน ตามโครงการเยี่ยมบ้านนักเรียน 100% ของโรงเรียนบ้านนาคูพัฒนา กรป.กลางอุปถัมภ์ เพื่อทราบข้อมูลของนักเรียนเป็นรายบุคคล เป็นการสานสัมพันธ์ระหว่างครูกับผู้ปกครอง และป้องกันนักเรียนออกเรียนกลางคัน
โดยในการออกเยี่ยมครอบครัวนักเรียนครั้งนี้ ได้พบกับครอบครัว น.ส.ภัคจิรา รุ่งภาษา นักเรียนชั้น ม.3 อยู่บ้านเลขที่ 167 หมู่ที่ 3 บ้านนาสีนวล ต.นาคู อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งผลการเรียนเกรดเฉลี่ย 3.56 อาศัยอยู่กับพ่อ คือ นายอ่อนศรี รุ่งภาษา อายุ 46 ปี และแม่ คือ น.ส.นัฎชา สอนถึง อายุ 42 ปี พร้อมกับน้องสาว ชื่อ ด.ญ.ทัศนีย์ รุ่งภาษา ซึ่งกำลังเรียนอยู่ชั้น ป.2 ซึ่งสภาพลักษณะที่พักอาศัยเป็นบ้านปูนชั้นเดียวสภาพเก่า
ทั้งนี้ จากการตรวจเยี่ยม พบว่าครอบครัวน้องภัคจิราน่าสงสารมาก เห็นแล้วสลดใจและเป็นที่เวทนาของเพื่อนบ้าน เนื่องจากประสบปัญหารุมเร้าจิตใจหลายด้าน โดยเฉพาะแม่ป่วยทางจิต พูดจาไม่รู้เรื่อง ที่อาการน่าเป็นห่วงมาก คือ เดินทั้งวันทั้งคืน บางครั้งชาวบ้านพบเห็นเดินออกจากบ้านไปไกลหลายกิโลเมตร ก็สงสาร พามาส่งบ้าน ทำให้สามีและลูกเป็นห่วง และกังวลเรื่องความปลอดภัยของแม่เป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่ยอมนอน เดินทั้งวัน บางครั้งเวลาพ่อออกไปทำงานรับจ้างนอกบ้าน ขณะที่ลูกทั้ง 2 ไปโรงเรียน ไม่มีใครอยู่เฝ้าแม่ ก็จำเป็นต้องขังหรือมัดไว้ในบ้าน ซึ่งอาการเป็นอย่างนี้มานาน 9 เดือนแล้ว ส่งผลกระทบจิตใจลูกสาวคนเล็กเรียนชั้น ป.2 ที่ไม่อยากไปโรงเรียน เพราะโดนเพื่อนล้อว่าแม่เป็นบ้า ส่วนน้องภัคจิรา ก็เกิดภาวะความเครียด รับประทานยาพาราแก้ปวดวันละหลายเม็ด และอยากออกโรงเรียนไปหางานทำช่วยพ่อแม่ และดูแลแม่ที่ป่วย
นายชูชัย ประทุมขันธ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านนาคูพัฒนา กรป.กลางอุปถัมภ์ กล่าวว่า สำหรับโครงการเยี่ยมบ้านนักเรียน 100% ของโรงเรียนบ้านนาคูพัฒนา กรป.กลางอุปถัมภ์นั้น เป็นการลงพื้นที่รับทราบข้อมูลของนักเรียน เป็นการสานสัมพันธ์ระหว่างครูกับผู้ปกครอง และป้องกันนักเรียนออกเรียนกลางคัน โดยครอบครัวของน้องภัคจิรานั้น ก่อนหน้านี้พ่อมีอาชีพปลูกแตงกวาขาย ก่อนที่แม่จะมีอาการป่วยโรคทางประสาท ซึ่งนับวันอาการของแม่จะรุนแรงมากขึ้น แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการรักษา แต่ครอบครัวยากจนไม่มีเงินรักษา และพ่อไม่สามารถที่จะไปทำงานอะไรได้ ต้องเฝ้าดูแลตลอดเวลา จนทำให้น้องเกิดความเครียด ทางโรงเรียนจึงต้องลงมาให้กำลังใจ และประสานหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ เพื่อให้น้องได้ศึกษาต่อ
ด้าน นายอ่อนศรี พ่อของน้องภัคจิรา กล่าวว่า ก่อนที่ น.ส.นัฎชา ภรรยา จะมีอาการป่วยเป็นไข้ ปวดศีรษะ ประมาณ 3 - 4 วัน จากนั้นก็มีอาการแปลกๆ จำใครไม่ได้ เดินทั้งวันทั้งคืน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ไปกู้เงิน ธกส.มาจำนวนหนึ่ง เพื่อนำมาเป็นทุนประกอบอาชีพเลี้ยงครอบครัว โดยหวังจะปลูกแตงกวาขาย แต่แม่ก็มาป่วยเสียก่อน ทำให้การประกอบอาชีพเลี้ยงครอบครัวมีปัญหา ต้องคอยเฝ้าดูแลกันตลอดทั้งวันทั้งคืน ทำให้ทุกวันนี้แทบไม่ได้ออกไปไหน ไม่มีโอกาสไปหางาน หรือรับจ้างหารายได้มาเลี้ยงลูกเลี้ยงเมียเลย และล่าสุดได้ไปกู้เงิน ธกส.มารักษาตัวอีก รวมเป็นเงิน 200,000 บาท แต่ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนไปใช้หนี้ ธกส.เนื่องจากไม่ได้ประกอบอาชีพแล้ว เพราะต้องเฝ้าเมียตลอดวัน เผลอหน่อยไม่ได้เป็นต้องเดินออกจากบ้านไป จึงจำเป็นต้องขังไว้ในบ้าน บางครั้งจำเป็นต้องใช้เชือกมัดมือมัดเท้าไว้ เพื่อความปลอดภัย เพราะกลัวถูกรถชนและหายไปจากบ้าน
อย่างไรก็ตาม สำหรับการช่วยเหลือเบื้องต้น นายชูชัยทาง ประทุมขันธ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ ได้ช่วยเหลือให้ทุนทานข้าวอาหารกลางวัน และได้ประสานทางองค์กรส่วนท้องถิ่นได้เข้ามาช่วยเหลือทางด้านสวัสดิการเบื้องต้น และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การช่วยเหลือครอบครัวน้องภัคจิรา เพื่อให้ได้เรียนหนังสือได้ตามปกติ เนื่องจากเป็นเด็กที่ขยันและเรียนดี ตามนโยบายของ จ.กาฬสินธุ์ ในโครงการ "คนกาฬสินธุ์ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง" ทั้งนี้ สำหรับผู้มีจิตศรัทธาต้องการช่วยเหลือครอบครัวน้องภัคจิรา สามารถติดต่อให้การช่วยเหลือได้ที่โรงเรียนบ้านนาคูพัฒนา กรป.กลางอุปถัมภ์ อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี