สตม.รวบภัยสังคมหลอกซื้อดาวน์ เชิดรถหนี เหยื่อเกือบครึ่งร้อย
เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2562 ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(รรท.ผบช.สตม.) , พล.ต.ต.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ , พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ , พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย , พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ , พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.ภ.7 ปฏิบัติราชการรอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม 3 , พ.ต.อ.ภาส สิริสุขะ รอง ผบก.ตม.3 และ พ.ต.อ.รัชธพงศ์ เตี้ยสุด ผกก.สส.บก.ตม.3 ร่วมแถลงข่าวการจับกุมคดีคนร้ายหลอกซื้อดาวน์รถ เชิดรถหนีส่งขายตลาดมืด
สืบเนื่องจากตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่องการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆของบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่นๆที่มีหมายจับและเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้กำหนดมาตรการเชิงรุกเกี่ยวกับหมายจับค้างเก่า โดยให้เพิ่มความเข้มในการสืบสวน จับกุม เพื่อดำเนินคดีกับบุคคลที่มีหมายจับ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มอบหมายให้ สตม.ดำเนินการตรวจสอบ กวดขัน ปราบปราม เฝ้าระวังและดำเนินการจับกุมนั้น
ต่อมาเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2562 มีผู้เสียหายร้องเรียนมายัง กก.สส.บก.ตม.3 ว่า นายธนภัทรหรือ “เบียร์” รัตนลงเมือง ได้ก่อเหตุฉ้อโกง น่าจะเป็นบุคคลที่มีหมายจับ แต่กลับมีการไลฟ์สดผ่านเฟสบุ๊ค ว่าเที่ยวอยู่ประเทศสิงคโปร์ อยากรู้ว่าเหตุใดจึงเดินทางเข้า-ออกประเทศไทยได้โดยไม่ถูกจับกุมตัว
กก.สส.บก.ตม.3 จึงดำเนินการสืบสวนในเรื่องดังกล่าว ปรากฏว่านายธนภัทร อายุ 23 ปี มีการเดินทางเข้า-ออกประเทศจริง โดยเดินทางไปยังประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2562 และเดินทางกลับเข้ามายังประเทศไทย เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2562 ผ่านทางด่าน ตม.ทอ.สุวรรณภูมิ และตรวจสอบแล้ว พบว่า นายธนภัทร เป็นบุคคลที่อยู่ในบัญชีเฝ้าดูของ สตม.
อย่างไรก็ตามเมื่อตรวจสอบไปที่ สภ.ชุมพลบุรี ภ.จว.สุรินทร์ ปรากฏว่าคดีดังกล่าวนั้นเสร็จสิ้นและมีการถอนหมายจับเรียบร้อยแล้ว ด่าน ตม.ทอ.สุวรรณภูมิ จึงมิได้จับกุมตัว และทำการสืบสวนต่อจนพบว่า นายธนภัทร ได้ก่อเหตุฉ้อโกงลักษณะเดียวกันในหลายพื้นที่ และบางพื้นที่มีหมายจับ จึงได้ประสาน กก.3. บก.สส.สตม ขอขึ้นบัญชีบุคคลเฝ้าดูนายธนภัทร หากมีกรณีการหลบหนีออกไปต่างประเทศ เบื้องต้นมีผู้เสียหาย 40 ราย มูลค่าความเสียหายประมาณ 10 ล้านบาท
ทั้งนี้ นายธนภัทร จะใช้วิธีการขอซื้อดาวน์รถจากผู้เสียหายซึ่งโพสต์ขายดาวน์ไว้ในเฟสบุ๊ค จากนั้นจะนัดเจอผู้เสียหายเพื่อขอดูรถและทำสัญญาซื้อดาวน์ เนื่องจากรถผู้เสียหายทุกคันยังติดไฟแนนซ์อยู่ และแจ้งกับผู้เสียหายว่าจะดำเนินการปิดยอดค้างชำระกับไฟแนนซ์ให้ โดยสร้างสลิปโอนเงินปลอมขึ้นมาให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่ามีการปิดยอดชำระกับไฟแนนซ์แล้ว หรือบางกรณีแจ้งกับผู้เสียหายว่าขอนำรถไปผ่อนต่อ หรือบางกรณีเมื่อผู้ต้องหาได้รถไปแล้วมีการนำไปผ่อนต่อจริง 1-2 งวด เพื่อให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่ารถของตนยังอยู่กับผู้ต้องหา จากนั้นนายธนภัทรก็ไม่ดำเนินการผ่อนต่อ
จากทุกกรณีที่กล่าวมา เมื่อผู้เสียหายได้มอบรถให้กับผู้ต้องหาไปแล้ว ก็ไม่สามารถติดต่อกับผู้ต้องหาได้อีกเลย เป็นเหตุให้ผู้เสียหายถูกฟ้องร้องจากบริษัทไฟแนนซ์ต่างๆ ได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก และผู้เสียหายได้มีการออกรายการทีวีเกี่ยวกับเรื่องที่ถูกฉ้อโกงดังกล่าว
ต่อมาเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.ตม.3 ได้ทำการสืบสวนและจับกุมตัว นายธนภัทรได้ที่ จ.ชลบุรี ตามหมายจับของศาลจังหวัดพิมาย ข้อหาฉ้อโกง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.พิมาย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี