อำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ เป็นอำเภอเล็ก ๆ แห่งหนึ่งของจังหวัดศรีสะเกษ ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของจังหวัด พื้นที่ติดกับจังหวัดสุรินทร์ ส่วนสถานที่ตั้งของที่ว่าการอำเภออยู่ในพื้นที่ตำบลโดด เดิมพื้นที่ดังกล่าวขึ้นกับอำเภออุทุมพรพิสัย แต่ได้แยกมาตั้งเป็นกิ่งอำเภอภายใต้ชื่อโพธิ์ศรีสุวรรณ เมื่อปี พ.ศ.2537 และได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นอำเภอเมื่อเดือนสิงหาคม ปี พ.ศ. 2550 มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 112 ตร.กม. แบ่งการปกครองเป็น 5 ตำบล 80 หมู่บ้าน ได้แก่ตำบลโดด 25 หมู่บ้าน ตำบลผือใหญ่ 14 หมู่บ้าน ตำบลเสียว 17 หมู่บ้าน ตำบลหนองม้า 12 หมู่บ้าน และตำบลอีเซ 12 หมู่บ้าน มีจำนวนประชากรประมาณ 23,800 คน ผู้คนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ภาษาที่ใช้ ภาษาลาว และกูยในบางหมู่บ้าน
แม้นจะเป็นอำเภอเล็ก ๆ แต่ที่ผ่านมาคนโพธิ์ศรีสุวรรณ ทั้งภาครัฐ เอกชน พ่อค้าประชาชนต่างก็ให้ความสำคัญและร่วมมือกับทางราชการในการพัฒนางานอำเภอมาอย่างต่อเนื่อง สิ่งนี้จัดเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะถิ่นของคนโพธิ์ศรีสุวรรณ จะเห็นได้จากคำขวัญที่ว่า โพธิ์ศรีสุวรรณ ถิ่นชนสองเผ่า ปลูกข้าวมะลิหอม พร้อมผ้าไหมงาม หัตถกรรมเลื่องลือ ฝีมือธูปสวย คนรวยน้ำใจ ป่าโนนใหญ่ล้ำค่า ปลอดสุรางานบุญ ที่สื่อถึงความหลากหลายทั้งชาติพันธุ์ของคนกลุ่มลาวและกลุ่มกูยซึ่งอาศัยอยู่ด้วยกันอย่างกลมกลืน ขณะที่ชาวบ้านตำบลเสียวและตำบลอีเซได้รวมตัวกันอนุรักษ์ผืนป่าธรรมชาติเนื้อที่กว่า 3,040 ไร่ ไว้เป็นแหล่งอาหารจากธรรมชาติและเพื่อใช้ประโยชน์ของคนในชุมชน จนเป็นแบบอย่างทำให้ชาวอำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณทั้ง 5 ตำบล ได้ตระหนัก จึงร่วมกับส่วนราชการขอขึ้นทะเบียนผืนป่าสาธารณะที่มีมากกว่า 10 แห่งเพื่ออนุรักษ์ไว้เป็นป่าชุมชนไว้ใช้ประโยชน์และให้เกิดความมั่นคงทางอาหารธรรมชาติให้ลูกหลานในอนาคตอีกด้วย นอกจากนี้พี่น้องชาวอำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ ยังเป็นอำเภอต้นแบบในการร่วมกันจัดงานบุญปลอดเหล้า สร้างความดีโพธิ์ศรีสุวรรณ ซึ่งดำเนินงานอย่างต่อเนื่องมาแล้ว 11 ครั้ง แม้นจะไม่ลดละเลิกเหล้าได้ทุกคน แต่จากสถิติพบว่ามีจำนวนคนขอลดละเลิก เหล้ามากขึ้นทุกปี
ในปี พ.ศ. 2562 นายสมัคร สีหมอก ในฐานะนายอำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ ได้มองเห็นคุณค่าความดีของพี่น้องชาวโพธิ์ศรีสุวรรณ ที่มีกิจกรรมทำความดีมาอย่างไม่หยุดยั้ง และเห็นว่าเราชาวโพธิ์ศรีสุวรรณน่าจะร่วมกันพัฒนาต่อยอดสู่อำเภอคุณธรรมได้สำเร็จ จากความคิดนี้ท่านจึงนำมาสู่การวงแผนการดำเนินงานทำงานอย่างมีส่วนร่วมโดยให้ วัด บ้าน โรงเรียน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มาผนึกพลังร่วมกันขับเคลื่อนสู่อำเภอคุณธรรมกัน ทั้งนี้ได้เริ่มต้นกับกลุ่มแรก ด้วยการขอลงนามประกาศเจตนารมณ์เป็นอำเภอคุณธรรม กับหัวหน้าส่วนราชการ สถานศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง 5 ตำบล และกลุ่มที่ 2 ได้แก่กลุ่มผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านประมาณ 300 กว่าคน โดยมีพระครูสุจิตโพธาลังการ เจ้าคณะอำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ ในฐานะผู้นำด้านพระพุทธศาสนา ร่วมแสดงสัมโมทนียกถา เพื่อเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนอำเภอคุณธรรมให้สำเร็จผล
ด้านนายสมัคร สีหมอกนายอำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ กล่าวว่าการร่วมลงนามประกาศเจตนารมณ์สู่อำเภอคุณธรรมครั้งนี้ ตนมีเป้าหมายที่จะเน้นการขับเคลื่อนใน 7 ประเด็น ประกอบด้วยเรื่องความสามัคคี การมีวินัย มีความสุจริต มีจิตอาสา ปลอดขยะ ปลอดเหล้า ปลอดอบายมุข จึงต้องการให้ส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้นำเรื่องราวเหล่านี้ไปขยายผลสู่องค์กร หน่วยงาน ชุมชนท้องถิ่นขอตนเอง หวังที่จะให้ชาวโพธิ์ศรีสุวรรณทุกคนได้ถือปฏิบัติ โดยใช้หลักคุณธรรมนำการพัฒนา เกิดสังคมคุณธรรมสร้างความร่มเย็นเป็นสุขแก่ชุมชน จากจุดเล็ก ๆ เพื่อขยายวงกว้างออกไปให้เกิดความเปลี่ยนแปลง ภายใต้แนวคิดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่สำคัญการเข้าสู่อำเภอคุณธรรม ยังเป็นการต่อยอดประเพณีงานบุญปลอดเหล้า สร้างความดีโพธิ์ศรีสุวรรณ ซึ่งเป็นงานที่จะครบรอบปีที่ 12 ในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 จะถึงนี้ และร่วมงดเหล้าในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาระหว่างวันที่ 17 กรกฎาคม ถึง 13 ตุลาคม 2562 ซึ่งการงดเหล้าเข้าพรรษา จะก่อให้เกิดประโยชน์ แก่สุขภาพของตนเอง เป็นการประหยัดรายจ่าย ทำให้เศรษฐกิจในครัวเรือนของตนดีขึ้น และ เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ลูกหลาน นอกจากนี้จะทำให้สุขภาพร่างกายได้หยุดพักจากการดื่มช่วงเข้าพรรษานี้ ซึ่งการดำเนินการครั้งนี้ได้รับการสนับสนุน สื่อและอุปกรณ์จากเครือข่ายองค์กรงดเหล้า ภาคอีสานตอนล่าง จึงขอขอขอบคุณไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย
ชาวโพธิ์ศรีสุวรรณในวันนี้ จึงนับว่าเป็นโอกาสดีอย่างยิ่งที่พ่อเมืองได้มองเห็นคุณค่า เปิดโอกาสกับทุกคนได้ร่วมสร้างคุณงาม ความดีทั้งต่อตนเอง ครอบครัว สังคมและประเทศชาติอันจะนำไปสู่อำเภอคุณธรรมที่ทุกคนจะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขอย่างยั่งยืนต่อไป
พีรชัย วงษ์เลิศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี