มท.1บี้เช็คสัญญาข้าวนร.
อย่าให้โกงซํ้ำ
สั่งทุกจว.ตรวจโรงเรียน
ฮึ่มผิดฟันทั้งแพ่ง-อาญา-วินัย
สพฐ.ผุด5แผนเข้มอาหารเด็ก
บิ๊กป๊อกสั่งรร.สังกัด สพฐ.-ท้องถิ่น เช็คสัญญาอาหารกลางวันนักเรียน ต้องถูกกม.ทุกขั้นตอน ตั้งแต่ทำสัญญา ปริมาณและคุณภาพ ทำไม่ดียกเลิกทันที จี้สุ่มตรวจเป็นระยะ เจอผิดเชือดทั้งแพ่ง-อาญา-วินัยฮึ่มไม่ให้เกิดขึ้นอีก เลขาฯสพฐ.คลอด5แนวทางดูแลอาหารกลางวันเด็ก สั่งคุมเข้มโรงเรียนทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการตรวจสอบโครงการอาหารกลางวันเด็กนักเรียนของโรงเรียนในจ.นครราชสีมาที่พบเข้าข่ายทุจริตว่า เรื่องดังกล่าวเป็นปัญหาปริมาณอาหารไม่เพียงพอ ปัญหาการจัดการของโรงเรียนที่ทำไม่เรียบร้อย โดยโรงเรียนทำสัญญาเองและผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นคนลงนาม ตนจึงสั่งให้ตรวจสอบว่าการลงนามนั้นมีใครบังคับหรือไม่ นอกจากนั้น ต้องไปดูว่ามีมาตรการอื่นที่ผู้ทำสัญญามีโอกาสตรวจสอบตามเงื่อนไข เช่น คุณภาพอาหารเป็นอย่างไร ปริมาณอาหารเพียงพอหรือไม่ และจะขอบอกเลิกสัญญาได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม กระทรวงมหาดไทยสั่งการโดยรวมไปถึงผู้อำนวยการโรงเรียนทุกแห่งในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)กำชับไปว่าการดำเนินการต้องเป็นไปตามกฎหมาย คือ ทำสัญญาให้ถูกต้อง และอยากให้เพิ่มเงื่อนไขด้วยว่า หากอาหารคุณภาพไม่ดี หรือมีปริมาณไม่เพียงพอ ควรมีเงื่อนไขเรื่องบอกเลิกสัญญาหรือมาตรการอื่นด้วย
นอกจากนี้ ต้องมีคณะกรรมการตรวจสอบหลายระดับ เช่น ให้นายอำเภอและท้องถิ่นไปสุ่มตรวจสอบเป็นระยะ รวมถึงผู้ประกอบการในโรงเรียนควรติดรายการอาหารให้ทราบทั่วกัน ให้ผู้ปกครองมีส่วนช่วยดูแลอีกทาง ทั้งนี้ ถ้าสอบสวนแล้วพบการทุจริต จะดำเนินการทางกฎหมายทั้งทางแพ่ง ทางอาญาและทางวินัยเต็มที่ เพื่อไม่ให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำอีก
ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนปัญหาทุจริตโครงการอาหารกลางวันเข้ามาบ้างหรือไม่ รมว.มหาดไทยกล่าวว่า หากเทียบจำนวนโรงเรียนทั้งหมดกับเรื่องที่เป็นข่าว มีไม่มาก แต่ก็ไม่ใช่ข้ออ้าง เพราะเด็กไม่มีทางต่อสู้ รัฐบาลหวังให้เด็กนักเรียนมีสุขภาพดี มีอาหารกิน จึงให้งบประมาณไป ดังนั้น ทุกแห่งต้องเรียบร้อย และคนที่กำกับดูแลเชิงนโยบายต้องไม่นิ่งดูดาย ส่วนความร่วมมือตรวจสอบระหว่างกระทรวงมหาดไทยกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เราทำมาตลอด
ด้านนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมาเผยความคืบหน้าการตรวจสอบโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียน 4 แห่งที่ส่อทุจริตว่า หลังตนได้รับข้อมูลจาก ป.ป.ช.ภาค 3 ถึงการตรวจสอบพบความผิดปกติของโครงการอาหารกลางวันเด็กนักเรียน ในโรงเรียน 3 แห่งในจังหวัด ขณะนี้อยู่ระหว่างการไต่สวนของ ป.ป.ช.ภาค 3 และตนตั้งคณะกรรมการตรวจสอบโครงการอาหารกลางวันเด็กนักเรียนขึ้นมา 1 ชุด ลงพื้นที่สุ่มตรวจโรงเรียนทั่วทั้งจังหวัด ในการจัดซื้อจัดจ้าง บัญชีการใช้จ่ายเงินซื้อวัตถุดิบประกอบอาหาร และคุณภาพอาหารกลางวันเด็กนักเรียนว่าตรงตามบัญชีที่ระบุไว้หรือไม่ เพราะเรื่องนี้สังคมให้ความสนใจ อีกทั้ง กระทรวงมหาดไทยมีนโยบายให้เร่งตรวจสอบทุจริตโครงการดังกล่าวอย่างเข้มงวด ไม่ให้กระทบคุณภาพชีวิตเด็กไทย
“ผมทำหนังสือแจ้งโรงเรียนต่างๆ ให้ดูแลคุณภาพอาหารกลางวันเด็กนักเรียนให้ดีที่สุด ป้องปรามไม่ให้โรงเรียนต่างๆทุจริตโครงการอาหารกลางวันเด็กนักเรียนเด็ดขาด เพราะหลังจากนี้จะมีคณะกรรมการลงพื้นที่ตรวจสอบเข้มงวด หากพบว่ามีโรงเรียนใดทุจริตอาหารกลางวันนักเรียน ผู้บริหารโรงเรียนและผู้เกี่ยวข้อง จะมีความผิดร้ายแรงทั้งทางวินัยและโทษอาญา”นายวิเชียรกล่าว
วันเดียวกัน นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.)เปิดเผยว่า หลังจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นห่วง เรื่อง การจัดอาหารกลางวันให้นักเรียนในโรงเรียนประถมศึกษาและกำชับให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และกระทรวงมหาดไทย กำกับ ดูแลและตรวจสอบทุกโรงเรียนทั่วประเทศใกล้ชิด เพราะเป็นห่วงคุณภาพชีวิตของนักเรียนนั้น ขณะนี้ สพฐ.ได้กำหนดแนวทางดำเนินการ 5 ประเด็นได้แก่ 1.มอบนโยบายให้ทุกโรงเรียน จัดโครงการอาหารกลางวันอย่างมีคุณภาพ 2. มีกระบวนการติดตาม กำกับ ประเมินผลระดับเขตพื้นที่การศึกษาและโรงเรียนต่อเนื่อง
3.ประกาศให้สถานศึกษาในสังกัดเป็นสถานศึกษาปลอดภัย ส่งเสริมให้โรงเรียนและชุมชนร่วมกันทำเกษตรอินทรีย์ และนำวัตถุดิบเข้าสู่โครงการอาหารกลางวัน เพื่อให้นักเรียนบริโภคอาหารปลอดภัย เศรษฐกิจชุมชนเข้มแข็ง 4.ย้ำให้ทุกโรงเรียนใช้โปรแกรม Thai School Lunch เพื่อวางแผนจัดอาหารที่มีคุณภาพ นักเรียนได้รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ และ5.จัดอบรมเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบอาหารกลางวันระดับเขตพื้นที่การศึกษา ในเรื่องการจัดอาหารที่ปลอดภัย ขยายผลสู่โรงเรียนให้ครูผู้รับผิดชอบเป็นนักโภชนาการประจำโรงเรียน
นายอัมพร พินะสา รองเลขาคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เผยหลังลงพื้นที่โรงเรียนบ้านควนเก ต.แป-ระ อ.ท่าแพ จ.สตูล เพื่อตรวจสอบโครงการอาหารกลางวันว่า จากการตรวจสอบโรงเรียนบ้านควนเกได้ตระหนักความสำคัญในเรื่องเหล่านี้ พร้อมฝากถึงประชาชนและผู้ปกครองว่า ปัญหาโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนที่ตกเป็นข่าวไม่ใช่ทั้งหมด อาจเป็นเพียงส่วนน้อย แต่เมื่อเป็นข่าวอาจดูเหมือนว่าโรงเรียนไม่ใส่ใจ ซึ่งตนกำชับผอ.โรงเรียนประจำจังหวัด ให้ความสำคัญเรื่องนี้ทุกโรงเรียน พร้อมฝากให้ผู้ปกครองช่วยเป็นหูเป็นตา หรือร่วมดำเนินการอาหารกลางวันของโรงเรียนเพื่อลูกหลานของตัวเองจะเป็นการดี หรือหากผู้ปกครองนักเรียนเห็นว่าโรงเรียนไหนที่ทำดี อยากให้ยกย่องเพื่อให้กำลังใจ โรงเรียนไหนทำไม่ดีไม่ถูกต้องสามารถร้องเรียนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ร้องไปยังเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาหรือมัธยมศึกษาทั่วประเทศ หรือจะบอกกล่าวไปที่ สพฐ.ก็ได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี