‘บก.ตม.4’โชว์ผลงานคดีสำคัญเพียบ รวบเมียนมาข่มขู่-หนุ่มไทยโหดฆ่าอำพรางศพ   

13 กรกฎาคม 2562 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(รรท.ผบช.สตม.) , พล.ต.ต.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ , พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย , พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ , พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.ภ.7 ปฎิบัติราชการ สตม.สั่งการให้ พล.ต.ต.ณัฐวัฒน์ การดี ผบก.ตม.4  , พ.ต.อ.นิธิศ ปิติธีรโชติ , พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา รอง ผบก.ตม.4 , พ.ต.อ.เศรษฐภัทร ณ สงขลา ผกก.สส.บก.ตม.4 ร่วมแถลงข่าวผลการปฏิบัติ และการจับกุมคดีชาวต่างชาติกระทำความผิดที่น่าสนใจ ในห้วงวันที่ 1-12 กรกฎาคม 2562 ที่ห้องประชุม ศปก.ตม.4   

สืบเนื่องจากนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี , พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติ ที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตร่างกายและทรัพย์สินของประชาชน เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศนั้น ทาง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รรท.ผบช.สตม. จึงกำชับการปฏิบัติดังกล่าว

ทั้งนี้ ห้วงวันที่ 1-12 กรกฎาคม 2562 ทาง บก.ตม.4 มีผลการปฏิบัติ ดังนี้ 1.จับกุมผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย แยกเป็น 1) หลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต 883 ราย 2) อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (OVERSTAY) 28 ราย 3) ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต 44 ราย 4) จับกุมตามหมายจับ 13 ราย 5) ความผิดตามกฎหมายอื่น 927 ราย รวมทั้งสิ้นจำนวน 2,117 ราย 2. ปฏิเสธการเข้าเมืองของคนต่างด้าว จำนวน 222 ราย

3. จับกุมคดีสำคัญและน่าสนใจ จำนวน 4 กรณี ดังนี้

1.ตม.จว.หนองคาย ร่วมกันทำการจับกุมตัว นายยาหมิง ปาย สัญชาติเมียนมา ตามหมายจับศาลจังหวัดหนองคาย ที่ จ.100/2562 ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2562 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความความผิดฐาน “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจและทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว ตกใจ โดยการขู่เข็ญ”

พฤติการณ์สืบเนื่องมาจาก นางสาวอุบล เมาะราสี อายุ 38 ปี สัญชาติไทย ได้มาแจ้งว่าตนเองได้ถูกนายยา หมิง ปาย สัญชาติเมียนมา ทำร้ายร่างกาย และข่มขู่ว่าถ้าตนเองไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะฆ่าให้ตาย หลังก่อเหตุคนต่างด้าวได้หลบหนีไป จนกระทั่งต่อมาได้ถูกศาลออกหมายจับและจับกุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย

2. ตม.จว.หนองบัวลำภู ร่วมกันจับกุมตัว คนต่างด้าวที่เข้ามากระทำผิดกฎหมาย ดังนี้ 1) Ms.Gichuhi Gladwell อายุ 28 ปี สัญชาติเคนยา ข้อหา เป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรชั่วคราวทางาน (รับจ้าง) โดยไม่ได้รับอนุญาต 2) Mr.Lawrence Muiruri Gathenya อายุ 28 ปี สัญชาติเคนยา ข้อหา เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (OVERSTAY 523 วัน) และทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต

พฤติการณ์คือ ตม.จว.หนองบัวลำภู ได้สืบสวนทราบว่ามีคนต่างด้าวแอบลักลอบทางานโดยไม่ได้รับอนุญาตที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.ศรีบุญเรือง อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู จึงไปตรวจสอบพบผู้ต้องหาทั้งสองกำลังสอนในโรงเรียนโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยถูกต้องตามกฎหมาย จึงจับกุมตัวดำเนินคดี หลังจากคดีเสร็จสิ้นแล้วได้ดาเนินการผลักดันออกนอกราชอาณาจักรและบันทึกรายชื่อผู้ต้องหาทั้งสองเป็นบุคคลต้องห้ามมิให้เข้ามาในราชอาณาจักรต่อไป

3. การจับกุมคนต่างด้าวกลุ่มเอเชียใต้ กระทำผิดกฎหมายมี 3 กรณี ดังนี้

1) ตม.จว.อำนาจเจริญ จับกุมตัว Mr.Akhilesh Nishad อายุ 31 ปี สัญชาติอินเดีย ข้อหาเป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน และเป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (OVERSTAY จำนวน 432 วัน)

2) ตม.จว.ขอนแก่น จับกุมตัว Mr.Khalid Shah อายุ 48 ปี สัญชาติปากีสถาน ข้อหาเป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน และเป็นคนต่างด้าวได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรชั่วคราวประกอบอาชีพหรือทำงานโดยผิดกฎหมาย

3) ตม.จว.บุรีรัมย์ จับกุมตัว Mr.Shivam Shukla อายุ 17 ปี สัญชาติอินเดีย ข้อหาเป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน

4.ตม.จว.มุกดาหาร ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาคดีอุกฉกรรจ์ คือ นายณรงค์ หรือบอย รอดเจริญ อายุ 32 ปี สัญชาติไทย ตามหมายจับศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ จ.154/2562 ลง 14 มิ.ย.2562 ข้อหา “ฆ่าผู้อื่น ร่วมกันเคลื่อนย้ายทำลายศพ และร่วมกระทำการใดๆ แก่ศพเพื่ออำพรางคดี” โดยเจ้าหน้าที่สืบสวน ตม.จว.มุกดาหาร ได้รับการประสานจาก สภ.ทับสะแก ว่า มีผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าวหลบหนีเข้ามาอยู่ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร โดยตรวจสอบจากสัญญาณโทรศัพท์มือถือ เกรงว่าจะหลบหนีออกทางชายแดนทาง สปป.ลาว จึงได้ประสาน สส.ภ.จว.มุกดาหาร ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมบุคคลดังกล่าว