ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ สั่ง2จำเลยจ่ายเพิ่มเป็น4.8ล. เยียวยาคดี'นรต.'โดดร่มดับ

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ สั่ง2จำเลยจ่ายเพิ่มเป็น4.8ล. เยียวยาคดี'นรต.'โดดร่มดับ

วันพฤหัสบดี ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2562, 14.00 น.

ศาลอุทธรณ์แก้ สั่งบ.อุตสาหกรรมการบินเยียวยาเพิ่ม“พ่อ นรต.ชยากร” ฝึกโดดร่มไม่กางจาก 2.7 ล้านเป็น 4.8 ล้านบาท ชี้บกพร่องต้องรับผิดเต็มจำนวน พ่อยังรอผลคดีอาญาปีครึ่ง คดีไม่คืบ

เมื่อวันที่ 18 กรกฏาคม 2562 ที่ห้องพิจารณา 611 ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดี พ.250/2559 ที่นายสาธร พุทธชัยยงค์ อายุ 57 ปี บิดาของนักเรียนนรต.ชยากร พุทธชัยยงค์ หรือโยโย่ อายุ 19 ปี  และบิดา-มารดาของ นรต.ณัฐวุฒิ ติรสุวรรณสุข หรือฟิวส์ อายุ 21 ปี ที่เสียชีวิตจากการฝึกกระโดดที่ จ.เพชรบุรี เมื่อปี 2557  เป็นโจทก์ ร่วมกันยื่นฟ้อง บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) , บริษัท อุตสาหกรรมการบิน จำกัด , พล.อ.อ.วีรนันท์  หาญสวธา กก.ผจก.บจก.อุตสาหกรรมการบิน , ร.ต.กณพ อยู่สุข ผจก.ศูนย์ซ่อมอากาศยาน ลพบุรี , พ.อ.อ.สมชาย อำภา ช่างซ่อมอากาศยานผู้ทำการติดตั้งสายสลิง , จ.อ.กีรติ สุริโย ช่างซ่อมอากาศยาน ผู้ติดตั้งสายสลิง , จ.อ.รัชเดช เถาว์เพ็ง ช่างเทคนิคผู้ติดตั้งสายสลิง , ร.ท.สมเจต สวัสดิรักษา ผู้จัดการแผนกตรวจรอยร้าวโดยไม่ทำลาย ผู้จัดหาและประสานงานจัดหาสายสลิงดัดแปลง , นายวัชรพงษ์ วงศ์สุบรรณ นายตรวจอากาศยานศูนย์ซ่อม ผู้ประสานงานและสั่งให้มีการจัดหาสายสลิงนำมาดัดแปลง , นายสุพร ธนบดี ผู้จัดการกองซ่อมบำรุงอากาศยานตำรวจ บมจ. การบินไทย และพนักงาน บมจ.การบินไทย เป็นจำเลยที่ 1-11 เรื่องละเมิดขอให้จำเลยทั้งสิบร่วมกันชดใช้เงินค่าเสียหายจำนวน 49,550,400 ล้านบาท  


กรณีที่พวกจำเลยโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงเนื่องจากสายสลิงที่ใช้ในการกระตุกร่มหลักขาดหลุดออกจากปลอกรัด ทำให้สายสลิงกระตุกร่มหลักไม่กลาง เป็นเหตุให้ นรต.ชยากร และ นรต.ณัฐวุฒิ ที่ฝึกกระโดนร่มถึงแก่ความตาย จึง ซึ่งเป็นค่าจัดการศพ และค่าขาดไร้อุปการะ

คดีนี้ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 18 ต.ค.60 เห็นว่า "บจก.อุตสาหกรรมการบิน" จำเลยที่ 2 และ นายวัชรพงษ์ วงศ์สุบรรณ" นายตรวจอากาศยานศูนย์ซ่อม จำเลยที่ 9 ซึ่งตามสัญญาในการซ่อมบำรุงจะต้องทำหน้าที่ประสานหาแหล่งที่ซื้อสายสลิงด้วย โดยนายวัชรพงษ์ ได้เลือกซื้อสายสลิงของสไปก้าไม่ได้มาตรฐานและไม่มีคุณภาพ โดยจำเลยที่ 9 ซึ่งเป็นพนักงานของจำเลยที่ 2 ได้ดำเนินการที่ทำให้เกิดการละเมิดแล้ว ดังนั้นจำเลยที่ 2 ,9 ต้องร่วมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่นายสาธร  โจทก์ที่ 1 บิดาของ นรต.ชยากร

ส่วนฟ้องโจทก์ที่ 2-3 และจำเลยอื่นยกฟ้อง เนื่องจากเห็นว่าเมื่อพบความบกพร่องได้แจ้งจำเลยเป็นลำดับชั้นแล้ว กระทั่งมีการแจ้งสายสลิงมีโอกาสชำรุดจากการใช้งานและเกรงว่าจะเป็นอุปสรรคในการฝึกกระโดดร่มหรือการปฏิบัติการทางอากาศ จึงได้แจ้งซ่อมบำรุง โดยมีการจัดหาสายสลิงใหม่มาติดตั้ง ซึ่งการติดตั้งจำเลยที่ 1 , 5-7 , 10 ได้ปฏิบัติด้วยความระมัดระวังตามสมควรแล้ว ดังนั้นจึงไม่ต้องรับผิด

ต่อมาโจทก์ที่ 1-3 และจำเลยที่ 2,9 ได้ยื่นอุทธรณ์

โดยวันนี้ "นายสาธร พุทธชัยยงค์" บิดานรต.ชยากร  พุทธชัย  โจทก์ที่ 1 เดินทางมาที่ศาลขณะที่ครอบครัวของ นรต. โจทก์ที่ 2-3 และพี่สาว ก็เดินทางมาฟังคำพิพากษาพร้อมกับทนายด้วย

"ศาลอุทธรณ์" พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ค่าปลงศพที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ไว้ 270,000 บาทน้อยเกินไป ให้เพิ่มเป็น 320,000 บาท เนื่องจากเป็นการพระราชทานเพลิงศพและยังมีค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งจำเลยที่ 2,9 ได้กระทำละเมิดต่อโจทก์ที่ 1 จะต้องชดใช้ค่าสินไหมเต็มจำนวน

ส่วนค่าขาดไร้อุปการะที่จะต้องชดใช้ให้โจทก์ที่ 1 นั้นเมื่อได้พิจารณาจากการวุฒิศึกษาของผู้เสียชีวิตและรายได้ที่จะมีในอนาคตแล้วเห็นว่าที่กำหนดไว้  2.5 ล้านบาทนั้นยังน้อยเกินไป อีก เห็นสมควรเพิ่มให้เป็นเดือนละ 25,000 บาท เป็นเวลา 15 ปี รวมเป็นเงิน 4.5 ล้านบาท

"ศาลอุทธรณ์" จึงพิพากษาแก้เป็นว่า ให้ "บจก.อุตสาหกรรมการบิน" จำเลยที่ 2 และนายวัชรพงษ์ วงศ์สุบรรณ" นายตรวจอากาศยานศูนย์ซ่อม จำเลยที่ 9 ร่วมกันชดใช้ค่าจัดการศพรวมทั้งค่าขาดอุปการะให้กับ "นายสาธร" บิดา นรต.ชยากร โจทก์ที่ 1 เป็นเงินทั้งสิ้น 4.82 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนับถัดจากวันฟ้อง 21 ม.ค.59 จนกว่าจะชำระเสร็จ

ส่วนฟ้องของโจทก์ที่ 2- 3 ซึ่งเป็นบิดา-มารดาของนรต. ณัฐวุฒิ ติรสุวรรณสุข ในส่วน บมจ.การบินไทย และพนักงานการบินไทยนั้น พิพากษายืนให้ยกฟ้อง เช่นเดียวกับยกฟ้องจำเลยที่ 1 ,3 -8,10-11 ตามที่ศาลชั้นต้นพิพากษา

ภายหลังฟังคำพิพากษา นายสาธรบิดาของนรต.ชยากร ให้สัมภาษณ์ว่า ผลคำพิพากษาในศาลชั้นต้นให้จำเลยชดใช้ค่าขาดไร้อุปการะ 2.5 ล้านบาท บวกกับค่าปลงศพ 270,000 บาท แต่ที่ตนอุทธรณ์เพราะในคำพิพากษาของศาลชั้นต้นมีข้อความว่า นรต.ชยากร บุตรชายของตนมีส่วนให้เกิดเหตุร้าย ไม่ดึงร่มช่วย ซึ่งตนอยู่ในที่เกิดเหตุตนเห็นแล้วว่าบุตรชายของตนได้ดึงร่มช่วย ร่มกางแผ่อยู่กับพื้น ตนจึงอุทธรณ์ประเด็นนี้ ว่า บุตรชายตนไม่มีส่วนร่วมให้เกิดเหตุร้าย ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาแก้แล้วว่าบุตรชายของตนดึงร่มช่วยจากข้อมูลที่ตนอุทธรณ์ไป ดังนั้นศาลอุทธรณ์จึงเพิ่มค่าขาดไร้อุปการะเป็น 4.5 ล้านบาท และค่าปลงศพเป็น 320,000 บาท รวมเป็น 4,820,000 บาท

เมื่อถามว่า มีประเด็นติดใจฎีกาต่อหรือไม่ นายสาธร กล่าวว่า คดีแพ่งไม่ใช่คดีหลักของตน คดีหลักของตนคือคดีอาญา ตนให้น้ำหนักกับคดีอาญามากกว่า คดีแพ่งอยู่ที่จำเลยฎีกาหรือไม่ ถ้าจำเลยฎีกาก็ต้องแก้ฎีกาต่อไป แต่ในส่วนของตนแล้วไม่มีความประสงค์คดีแพ่งเป็นหลัก เพราะคดีอาญาเท่านั้นที่จะทำให้คนเลิกทุจริตได้ คดีแพ่งไม่ทำให้คนเลิกทุจริตได้

เมื่อถามถึงความคืบหน้าคดีอาญา นายสาธร กล่าวว่า คดีอาญาได้ผ่านจากตำรวจภูธรภาค 7 มานานแล้ว ตั้งแต่เดือน ม.ค.61 ตอนนี้ ก.ค.62 แล้ว ตำรวจได้ส่งสำนวนให้อัยการสูงสุด คดีอาญาสำนวนอยู่ที่สำนักงานอัยการสูงสุดมาปีครึ่งแล้ว แต่คดียังไม่ถูกนำขึ้นสู่ศาล

ด้านนายจตุรงค์ ติรสุวรรณสุข  บิดาของ นรต.ณัฐวุฒิ หรือฟิวส์ โจทก์ที่ 2 เปิดเผยว่า ได้เดินทางมาฟังการอุทธรณ์นั้น เป็นส่วนที่ฟ้องบริษัทการบินไทย จำเลยที่ 1 และพนักงานการบินไทย จำเลยที่ 10 ซึ่งศาลพิพากษายกฟ้อง โดยทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ได้พิพากษายืนให้ยกฟ้อง แต่ตนยังติดใจว่าบริษัทการบินไทยฯซึ่งเป็นคู่สัญญารับรู้รับทราบในการซ่อมอุปกรณ์กระโดดร่ม หากได้ท้วงติงแต่แรกอาจไม่เกิดความสูญเสีย โดยก่อนหน้านี้คดีในศาลปกครองศาลได้ชี้ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ละเมิดอย่างร้ายแรงแก่ครอบครัวผู้สูญเสีย

และคดีแพ่งนี้จำเลยที่ 2 และ 9 ก็รับผิดได้ชดใช้เงินเยียวยาให้ครอบครัวตน 5 ล้านบาท แต่คดีในส่วนของการบินไทยกลับไม่พบความผิด ซึ่งถือเป็นบริษัทใหญ่ที่มีหลักธรรมาภิบาล แต่ที่ผ่านมาไม่ได้แสดงความช่วยเหลือต่อครอบครัว ในการเป็นคดีกับบริษัทใหญ่เราก็ไม่รู้ว่าผลจะเป็นอย่างไร แต่เราต้องการความยุติธรรมก็ต้องเรียกร้องด้วยตัวเอง ทุกวันนี้ยังทำใจไม่ได้กับการสูญเสียลูกชาย การต้องฟ้องคดีและมาขึ้นศาลบ่อยๆ ก็ท้อ อย่างคดีอาญาที่เราเคยสอบถามความคืบหน้าของผลก็โยนกันไปมาระหว่างตำรวจกับอัยการ

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top