“ธวัชชัย ไทยเขียว” รองปลัดยุติธรรม เผยแม่ “แพรวา 9 ศพ” แจ้งหาหลักทรัพย์ ครบวงเงิน 42 ล้านแล้ว ส่งทนายรวมยอดเงิน เพื่อนำชดใช้ให้ครอบครัวเหยื่อผู้เสียชีวิต โดยจะไปวางเงินศาลแพ่ง 6 สิงหาคมนี้
เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา ศาลฎีกาแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจ มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำ 2266-2278/2559ที่กลุ่มญาติผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ จากอุบัติเหตุ น.ส.แพรวา หรือ อรชร(นามสมมุติ)ขับรถยนต์ซีวิค เฉี่ยวชนรถตู้โดยสารพลิกคว่ำเมื่อคืนวันที่ 27 ธันวาคม 2553 ยื่นฟ้องน.ส.แพรวา (นามสมมุติ) เยาวชนหญิง ที่เป็นผู้ขับรถยนต์ซีวิค พันเอก รัฐชัย เทพหัสดิน ณ อยุธยา,นางนิลุบล อรุณวงศ์ บิดาและมารดา ของเยาวชน,นายสุพิรัฐ จ้าววัฒนา ซึ่งเป็นผู้ครอบครองรถยนต์ซีวิคให้ร่วมกันชดใช้ เงินทั้งหมด 25,781,137บาทนั้น
โดยเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม จำเลยยื่นคำแถลงขอให้คำนวณหนี้ตามคำพิพากษาและศาลมีคำสั่งจัดการให้ โดยแบ่งเป็นเงินต้น ตามคำพิพากษา25,781,137 บาทโดยจากการคำนวณส่วนดอกเบี้ยคิดถึงวันที่ 6 สิงหาคม เป็นเงินจำนวน 16,650,023.40 บาท ค่าทนายความที่ศาลกำหนดชั้นฎีกา 60,000 บาทและค่าฤชาธรรมเนียมใช้แทนโจทก์ชั้นฎีกาจำนวน 186,650บาท,ค่าขึ้นศาลใช้แทนในนามโจทก์ที่17(จ่ายแยก) จำนวน 20,000 บาทรวมเป็นเงินที่จำเลยต้องชำระหนี้ตามคำพิพากษาทั้งสิ้น 42,637,810.40 บาท โดยมีรายงานว่า ในวันที่ 6 สิงหาคมนี้ จำเลยที่ศาลฎีกาพิพากษาให้ชดใช้ จะเดินทางมาวางเงินต่อศาลในช่วงเช้า สำหรับคดีนี้ สรุปแล้ว ต้องจ่ายเงินเยียวยาทั้งหมด 42 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ที่กระทรวงยุติธรรม นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรมและโฆษกกระทรวงยุติธรรมกล่าวถึงความคืบหน้าในการจ่ายเงินเยียวยาค่าเสียหายให้กับครอบครัวผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต จำนวน 9 รายตามคำพิพากษาในคดีแพรวา 9 ศพว่าเรื่อง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรมได้แต่งตั้งตนเป็นผู้ประสานงานระหว่างศูนย์นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ซึ่งได้รับมอบอำนาจให้เป็นทนายความของผู้เสียหายทั้งหมดกับกลุ่มจำเลย ทั้ง 4 รายซึ่งตามขั้นตอน ต้องรอจนถึงวันที่ 28 สิงหาคมนี้
“หากฝ่ายจำเลย ไม่สามารถขายที่ดินจำนวน 21แปลงได้ ทางศูนย์นิติศาสตร์ธรรมศาสตร์จะนำรายการทรัพย์สินที่ตรวจสอบพบ ไปยื่นคำขอให้กรมบังคับคดียึดอายัดทรัพย์เพื่อนำออกขายทอดตลาด
โดยตั้งเป้าจะเปิดประมูลขายและนำเงินมาเฉลี่ยให้กับผู้เสียหายตามคำพิพากษาให้แล้วเสร็จภายใน6เดือน หรือ180วัน ระหว่างนี้ ยังไม่มีฝ่ายใดติดต่อเข้ามายังกระทรวงยุติธรรมจึงถือว่าหน้าที่ของกระทรวงจะเริ่มตันนับหนึ่ง หลังวันที่ 28 สิงหาคมนี้”รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ย้ำ
ต่อมา นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรมและโฆษกกระทรวงยุติธรรมได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว”ธวัชชัย ไทยเขียว”ระบุว่าขอบคุณคุณ แม่น้องแพรวาและดีใจกับผู้เสียหายครับ…!!บ่ายวันนี้ได้รับการประสานงานจาก คุณแม่น้องแพรวาว่า“สามารถหาหลักทรัพย์ได้ครบตามจำนวนตามคำพิพากษาของศาลแล้วพร้อมทั้งได้มอบหมายทนายความให้ไปขอยอดวงเงินรวมจากศาลแล้วเช่นกันโดยจะนำไปวางที่ศาลไว้ก่อนในระหว่างรอนัดหมายกับทนายความของผู้เสียหายเพื่อจ่ายเงินให้กับผู้เสียหายแต่ละรายต่อไป
กรณีที่คุณแม่ไปวางทรัพย์ที่ศาลแล้วนั้น คุณแม่ควรต้องแจ้งการวางทรัพย์ให้เจ้าหนี้หรือทนายผู้เสียหายทราบโดยเร็วเนื่องจากผลของการวางทรัพย์นั้นจะทำให้หลุดพ้นจากหนี้ที่ต้องชำระไม่ตกเป็นผู้ผิดนัดและไม่ต้องเสียดอกเบี้ยหลังจากวันที่วางทรัพย์ครับ ขอบคุณคุณแม่น้องแพรวาและครอบครัวรวมถึงคุณทนายทั้งสองฝ่ายที่ช่วยกันทำให้เรื่องจบไปได้ด้วยดีครับ ไม่มีใครอยากให้เรื่องนี้เกิด แต่เมื่อมันเกิดมาแล้วก็เป็นวิบากของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ได้แต่เห็นใจทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องครับ
“สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันหมดทั้งสิ้น จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย จงมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยอันตรายทั้งสิ้นเถิด ฯ”…กรณีนี้ ของดให้สัมภาษณ์ต่อนะครับ รอให้เป็นหน้าที่ของผู้เสียหายและจำเลยหรือบุคคลที่จะได้รับมอบหมายจากทั้งสองฝ่ายครับ” นายธวัชชัย ระบุผ่านเฟซบุ๊ก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี