ทส.เร่งสำรวจ-ขุดเจาะ‘บ่อบาดาล’ บรรเทาวิกฤติแล้งภาคอีสาน
11 สิงหาคม 2562 นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(รมว.ทส.) กล่าวถึงกรณีแก้ปัญหาวิกฤติภัยแล้งในหลายจังหวัด โดยเฉพาะสุรินทร์และบุรีรัมย์ ว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ โดยกรมทรัพยากรน้ำ และกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้เร่งลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ และบุรีรัมย์ โดยให้ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประสานงานใกล้ชิดกับปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อช่วยทุกโรงพยาบาลในพื้นที่หาแหล่งน้ำ และขุดเจาะน้ำบาดาลเพิ่มเติม โดยหาข้อมูลว่าโรงพยาบาลใดต้องการบ่อบาดาล ทส.จะเร่งส่งเจ้าหน้าที่ไปสำรวจและขุดเจาะให้กับทุกโรงพยาบาลที่สาธารณสุขต้องการ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการใช้น้ำอุปโภคบริโภค และความปลอดภัยของแต่ละโรงพยาบาลที่ถือเป็นเรื่องสำคัญ
รมว.ทส. กล่าวว่า แต่เดิม จ.สุรินทร์ ใช้น้ำจากแหล่งน้ำ 2 แหล่ง คือ ชลประทานกับเอกชน เกษตรกรใช้น้ำจากแหล่งดังกล่าวมาก จึงได้สั่งการปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลเร่งสำรวจในพื้นที่ จ.สุรินทร์ ว่า ในแต่ละ อบต.มีศักยภาพเรื่องน้ำ มีต้นทุนน้ำใต้ดินมากน้อยแค่ไหน ถ้ามีก็ให้รีบดำเนินการขุดเจาะบ่อน้ำบาดาลทันที เพื่อช่วยเกษตรกรและชาวบ้านเป็นคลัสเตอร์ๆไป 100-200 ไร่ ในแต่ละบ่อ ขุดตรงไหนได้เราจะเร่งขุดตามที่นายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วง
“ปีนี้ภาคอีสานพบภัยแล้งหนัก และยังเป็นพื้นที่นอกเขตชลประทาน ทำนาน้ำฝนเสียเป็นส่วนใหญ่ จึงน่าห่วง ส่วนพื้นที่ภาคกลางก็มีปัญหามาก แต่ยังโชคดีที่ภาคกลางส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ในเขตชลประทาน และมีแหล่งน้ำ มีลุ่มน้ำเจ้าพระยา จึงยังพอประทังไปได้ แต่ภาคอีสานเดือดร้อนหนักจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเร่งสำรวจขุดเจาะ หาแหล่งน้ำบาดาล เพื่อช่วยเกษตรกร เชื่อว่าน่าจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรได้ในระดับหนึ่ง” นายวราวุธ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี