อธิบดีคร.เตือนข่าวปลอม ไข้เลือดออกสายพันธุ์ใหม่ เกิดแพร่ระบาด-ดื้อยาแจงไม่เป็นความจริง แนะจับตาช่วงพีคผู้ป่วยทะลุอาทิตย์ละ4พัน เจ็บป่วยรีบไปพบหมอ วอนห้องฉุกเฉินอย่ามองข้าม หากผู้ป่วยเข้ารพ.กลางดึกขอให้รับไว้ดูแล อย่าเพิ่งให้กลับบ้าน
เมื่อวันที่ 18สิงหาคม นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวถึงกรณีมีการส่งต่อข้อมูลทางเฟซบุ๊กว่าขณะนี้กำลังเกิดการระบาดของไข้เลือดออกสายพันธุ์ใหม่ และมีปัญหาเชื้อดื้อยา ว่า ขอย้ำว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ไม่มีไข้เลือดออกสายพันธุ์ใหม่แต่อย่างใด เพราะไข้เลือดออกที่เป็นในประเทศไทยเกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี่ ซึ่งมีเพียง 4 สายพันธุ์ที่พบเป็นประจำทุกปี คือสายพันธุ์ที่ 1,2,3และสายพันธุ์ที่4 ซึ่งตามธรรมชาติของการป่วยไข้เลือดออกและมีอาการรุนแรงนั้นจะมีอยู่ 2-3ปัจจัย คือ 1.ผู้ป่วย ซึ่งปีนี้พบมากในเด็กโตและวัยผู้ใหญ่ ซึ่งในวัยผู้ใหญ่มักจะมีโรคประจำตัวอยู่แล้วอาทิ อ้วน เบาหวาน ความดัน เป็นต้น ซึ่งหากเกิดการป่วยไข้เลือดออก จะทำให้การดูแลรักษายาก 2.การเข้ารับการรักษาช้า โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ ไม่มีโรคประจําตัว ก็มักคิดว่าป่วยเป็นโรคธรรมดา เช่น ไข้หวัด จึงไม่ได้ใส่ใจที่มาพบแพทย์จะมาพบก็ต่อเมื่อเริ่มมีปัญหาในช่วงไข้ลด ตัวเย็น ช็อค 3.การซื้อยามารับประทานเองโดยเฉพาะยาในกลุ่ม nsaids
“มีบางรายที่เข้ารับการรักษาแต่ยังมีปัญหาในส่วนนี้ต้องเรียนว่า ขึ้นอยู่กับว่าเป็นการป่วยครั้งที่ 2 หรือไม่ รวมถึงการเจ็บป่วยในครั้งนั้น เกิดจากการติดเชื้อเดงกี่สายพันธุ์ที่2หรือไม่ เพราะ2ส่วนนี้จะมีความสัมพันธ์กับความรุนแรงของโรคมากกว่า โดยอาการรุนแรงได้แก่ 1.ไข้เริ่มลดลง ตัวเย็น กินอาหารไม่ได้ ซึมลงความดันตก ชีพจรเต้นเร็ว เข้าสู่ภาวะช็อค หรือ 2.แนววินิจฉัยว่าเป็นไข้เลือดออกแต่อาการผิดปกติจากเดิม เช่นถ่ายดำมีจุดเลือดออก มีอาการทางสมองซึ่งในส่วนนี้จะพบได้น้อย ทั้งหมดนี้เป็นอาการรุนแรงที่เรียกว่าภาวะแทรกซ้อนจากโรคไข้เลือดออก ซึ่งระยะนี้แม้อยู่ในมือหมอก็ดูแลรักษายาก และยังอันตราย” อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว
นพ.สุวรรณชัย กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีมีการเผยแพร่ข้อความว่า ไข้เลือดออกดื้อยานั้นก็ไม่เป็นความจริง เนื่องจากไข้เลือดออกเกิดจากเชื้อไวรัส ยังไม่มียารักษาโรคเฉพาะ ส่วนใหญ่จึงให้การรักษาตามอาการ ประคับประคองไม่ให้อาการทรุดลง จนเกิดภาวะแทรกซ้อนอันตรายได้ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันได้มีวัคซีนป้องกัน แต่ก็ให้เฉพาะราย
สำหรับสถานการณ์ไข้เลือดออกในปัจจุบันต้องเรียนว่าขณะนี้เข้าสู่ช่วงหน้าฝนอย่างเป็นทางการหลายพื้นที่มีฝนตก ทำให้พบจำนวนผู้ป่วยสูง แต่บางพื้นที่ฝนไม่ตกผู้ป่วยก็ลดลง อย่างเช่นพื้นที่อีสานตอนบน ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาก็พบว่ามีอัตราผู้ป่วยลดลงอย่างมาก โดยค่าเฉลี่ยปัจจุบันพบผู้ป่วยอยู่ที่สัปดาห์ละประมาณ 4,000 ราย ถือว่าเป็นสถานการณ์ที่ไม่มากเมื่อเทียบกับช่วงพีคของไข้เลือดออก แต่ประเด็นสำคัญตอนนี้คืออัตราการเสียชีวิตมากกว่า ซึ่งตอนนี้มากกว่า 70 รายแล้ว และยังมีอีกหลายรายที่อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค ดังนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องขอความร่วมมือจากหลายๆ ฝ่าย ในส่วนของผู้ป่วยเองหากมีอาการเจ็บป่วยในช่วงนี้ไม่ว่าจะมีโรคประจำตัวหรือไม่มีโรคประจำตัวก็ตามขอให้นึกถึงไข้เลือดออก ขอให้รีบไปพบแพทย์ ตนไม่แนะนำให้รอดูอาการจนอาการทรุด เพราะถึงแม้ไปพบแพทย์แล้วไม่ได้ป่วยเป็นไข้เลือดออกจริงแต่ก็จะได้รับการดูแลรักษาอาการป่วยที่เป็นอยู่ตามมาตรฐานทางการแพทย์ นอกจากนี้ยังต้องขอความร่วมมือไปยังสถานบริการด้วยเมื่อมีผู้ป่วยมาที่โรงพยาบาลก็ขอให้นึกถึงโรคไข้เลือดออกเป็นลำดับแรกๆ เช่นเดียวกันเพราะต้องย้ำว่าช่วงนี้ยังเป็นช่วงพีคของการระบาดของไข้เลือดออกหากผู้ป่วยมาพบแพทย์ในช่วงดึก ก็ขอให้คิดถึงโรคนี้และสังเกตอาการไอ โดยที่โรงพยาบาลไม่ควรปล่อยให้ผู้ป่วยกลับบ้านไปก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัจจุบันยังมีปัญหาเรื่องการเข้า โรงพยาบาลในช่วงกลางคืนค่อนข้างเป็นไปอย่างไม่สมเหตุสมผล แต่เพื่อป้องกันความรุนแรงจากโรคไข้เลือดออกจะต้องมีการกำชับโรงพยาบาลหรือห้องฉุกเฉินอย่างไร นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญซึ่ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ได้กำชับว่าการบริการผู้ป่วยจะต้องทำให้ดี หมายถึงเรื่องนี้ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา เชื่อว่าไม่มีคนไข้คนไหนที่จะสนุกกับการจะต้องไปโรงพยาบาลในช่วงดึก หากเขาทนไม่ได้จริงๆ และยิ่งในช่วงนี้เป็นช่วงที่มีการระบาดของไข้เลือดออก จึงอาจต้องขอความร่วมมือในการรับผู้ป่วยไว้ดูแลไว้ในโรงพยาบาลไม่ควรให้กลับบ้านแล้วกลับมาใหม่ในตอนเช้า
ขณะเดียวกันก็ต้องขอความร่วมมือจากประชาชนด้วย หากไม่ได้เจ็บป่วยจนทนไม่ไหวจริงๆ ก็ไม่อยากให้ไปโรงพยาบาลในช่วงกลางคืน เพราะ แพทย์ประจำห้องฉุกเฉินมีภาระมากในการดูแลผู้ป่วยวิกฤตฉุกเฉินจริงๆ หากเข้าใจกันทั้งสองฝ่าย เชื่อว่าจะไม่มีปัญหากระทบกระทั่งกัน ขณะที่ผู้ป่วยที่อาจป่วยด้วยไข้เลือดออกก็ได้รับการรักษาตามมาตรฐานลดความเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อนอันตรายลงได้ ทั้งนี้จริงๆ โรคไข้เลือดออกเป็นปัญหาที่พบใน ภูมิภาคอาเซียนอย่างตอนนี้ที่อินโดนีเซีย มีผู้ป่วยมากกว่า 1แสนราย และมีการเสียชีวิตประมาณ 600-700ราย ขณะที่มาเลเซียก็มีปัญหาการระบาดของไข้เลือดออกมากเช่นเดียวกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี