ขันนอต‘20ผู้ว่าฯอีสาน’
นายกฯสั่งแก้แล้ง
ทุ่มพันล้านช่วยประชาชน
ไทยจ่อพ้นวิกฤติกย.นี้
พายุ2ลูกเติมน้ำเขื่อน
“บิ๊กตู่”บินตรวจสถานการณ์ภัยแล้งสุรินทร์-บุรีรัมย์ ถก 20 ผู้ว่าฯอีสานเร่งช่วยเหลือชาวบ้านโดยไม่ต้องรอให้นายกฯสั่งหรือลงพื้นที่ เน้นจัดหาน้ำอุปโภคบริโภคแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้ ย้ำทหาร-ตำรวจ ข้าราชการร่วมกันทำงานเร่งทำความเข้าใจโครงการรัฐบาล ซึ่งเตรียมโครงการหลายพันล้านลงมาอีสานแก้ภัยแล้ง ขณะที่สมิทธเผยข่าวดีเดือนกันยายนไทยพ้นแล้ง เหตุพายุจ่อ 2 ลูกเติมน้ำเขื่อนใหญ่ แต่ไม่ถึงอีสาน
เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว. มหาดไทย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ตรวจปัญหาภัยแล้งและขาดแคลนน้ำใน จ.สุรินทร์และบุรีรัมย์ เพื่อบูรณาการบริหารจัดการน้ำอุปโภคบริโภคให้เพียงพอกับวามต้องการของประชาชนในพื้นที่
เตรียมโครงการหลายพันล.แก้แล้ง
โดยเวลา 08.20 น.นายกฯพร้อมคณะเดินทางถึงท่าอากาศยานบุรีรัมย์ มีนายธีรวัฒน์ วุฒิคุณ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พล.ท.ธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผบ.ตร. พร้อมรัฐมนตรีที่มาลงพื้นที่มารอต้อนรับ ทั้งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯและข้าราชการมารอต้อนรับ ทั้งนี้ นายอนุทินจะกล่าวรายงาน แต่นายกฯ บอกว่า ไม่ต้องรายงานไปช่วยกันทำงาน จากนั้น นายกฯเข้ารับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ขาดแคลนน้ำในพื้นที่ร่วมถึงแนวทางแก้ปัญหาจากผู้ราชการจังหวัด
ทั้งนี้ ก่อนที่พล.อ.ประยุทธ์จะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปจ.สุรินทร์ได้กล่าวกับข้าราชการและประชาชนว่า วันนี้มาแก้ปัญหาความเดือดร้อน รัฐบาลมีโครงการเต็มไปหมด แต่บางอย่างทำไม่ได้ ติดปัญหาประชาชนส่วนหนึ่งไม่ให้ทำ ก็ต้องเร่งทำความเข้าใจและดูว่าจะทำอย่างไร ซึ่งรัฐบาลกำลังจะมีโครงการหลายพันล้านลงมา จากนั้นนายกฯ และคณะขึ้นเฮลิคอปเตอร์มายังท่าอากาศยานสุรินทร์ โดยนั่งรถโตโยต้า เวลไฟร์ สีขาว 3 กณ 1689 สีขาว เพื่อไปตรวจเยี่ยมอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง โครงการชลประทานสุรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์
เดือนนี้ให้คนสุรินทร์ใช้น้ำประปาฟรี
เวลา 09.30 น.นายกฯและคณะเดินทางถึงโครงการชลประทานสุรินทร์ ตรวจเยี่ยมอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง โดยมีประชาชนนำผ้าโสร่งมาผูกเอวให้นายกฯ ได้แวะเยี่ยมชมกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคสุรินทร์วากิว พร้อมชิมสเต็กเนื้อวากิว โดยมีส.ส.ในพื้นที่จากหลายพรรคการเมืองมารอต้อนรับ ทั้งนี้ นายกฯ ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำและภัยแล้งในพื้นที่ พร้อมกล่าวกับประชาชนที่มารอต้อนรับว่า วันนี้มาดูแลชาวอีสาน เพราะเห็นความเดือดร้อนหลายอย่าง ที่ติดตามมาตลอด และจะหาวิธีการบริหารให้ได้โดยเร็ว ซึ่งการแก้ไขทั้งหมดต้องมีแผนดำเนินงาน ตนขอบคุณทุกคนที่มีส่วนร่วมในการจัดการ ในการขุดห้วยเสนง และทหารจัดเรื่องประปา บ่อบาลดาล ตนพร้อมจัดงบประมาณให้ในส่วนที่ยังใช้ได้อยู่ นายกฯมาต้องมีอะไรเปลี่ยนแปลงใช่หรือไม่ วันนี้ที่มาเพราะเราต้องรับผิดชอบคนทั้งประเทศ
“วันนี้เราต้องช่วยกันทั้งหมด อ่างเก็บน้ำใหญ่ปริมาณน้ำเหลือ 49% บางอันเหลือ 10-15% ของเราเร่งด่วนคือเรื่องประปาใช่หรือไม่ ในเขตเมือง เปิดมามีแต่ลม ผมจึงตัดสินใจว่าเดือนนี้ไม่ต้องให้จ่ายค่าน้ำประปา ไม่ใช่ประชานิยมนะ แต่ประชาชนเดือดร้อน น้ำใช้ไม่ได้ ผมเคยเจอปัญหานี้มาก่อน และสั่งผู้ว่าฯต้องแก้ปัญหาด่วน นอกจากนี้ เรื่องการทำฝนหลวง ผมสั่งให้แสตนบายอยู่ที่นี่หลายลำ รวมทั่วประเทศกว่า 4 พันเที่ยวบิน วันนี้ทำทุกอย่าง อะไรที่ต้องใช้จ่ายพิเศษ ผมจะดูแลให้ ทำเรื่องเร่งด่วนก่อน ทั่วประเทศ 21 จังหวัด ผมเป็นห่วงเรื่องน้ำอุปโภคบริโภค ไม่มีน้ำกินน้ำใช้ลำบาก”นายกฯกล่าว
จี้ผู้ว่าฯช่วยปชช.ไม่ต้องรอนายกฯสั่ง
จากนั้นนายกฯเดินทางไปยังการประปาส่วนภูมิภาค เพื่อดูการผลิตน้ำประปา พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ และได้เป็นประธานประชุมแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำในพื้นที่ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดภาคตะวันออกฉียงเหนือ 20 จังหวัด ที่ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ โดยผู้ว่าฯแต่ละจังหวัดได้รายงานสถานการณ์ การแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวมอบนโยบายเน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการ และหัวหน้าส่วนราชการเร่งดูแลให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ อะไรที่แก้ปัญหาได้ ต้องเร่งดำเนินการทันที อย่ารอให้นายกรัฐมนตรีสั่งการ หรือให้นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ก่อนค่อยลงมือทำ โดยเฉพาะปัญหาภัยแล้ง การขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคของประชาชน รวมถึงตามสถานที่ราชการต่างๆ ต้องแก้ปัญหาด่วน สำหรับงบประมาณนั้น รัฐบาลจะใช้งบประมาณเท่าที่จำเป็นให้เกิดประโยชน์ที่สุด เน้นทำโครงการเร่งด่วนก่อน ส่วนการทำแผนบประมาณปี 63 นั้น ขอให้ส่วนราชการจัดทำแผนเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาภายในเดือนสิงหาคม พร้อมกันนี้ นายกฯสั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดจัดหาแหล่งพักน้ำ โดยเสนอโครงการขุดบ่อแลกดิน เพื่อเก็บน้ำไว้ในบ่อของชาวนา แก้ปัญหาการขาดน้ำช่วงฤดูแล้ง พร้อมกับกำชับให้ทำความเข้าใจกับเกษตรกรถึงโครงการดังกล่าวให้มีความเข้าใจที่ถูกต้อง
ก.ย.ไทยพ้นแล้งพายุจ่อ2ลูกเติมน้ำเขื่อน
ด้าน นายสมิทธ ธรรมสโรช อดีตประธานกรรมการอำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เปิดเผยว่าสภาพอากาศประเทศไทยช่วงเดือนกันยายนเป็นต้นไปจนถึงเดือนธันวาคมว่า จะมีฝนตกมากขึ้นจากอิทธิพลมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และมีพายุเข้าไทยมากกว่า 2 ลูก โดยมีมรสุมเข้ามาทางภาคตะวันตกของไทย ทำให้ไทยเข้าหน้าฝนเต็มตัวเดือนกันยายน จากนั้นมีฝนตกมาเรื่อยๆ อาจมีพายุ 1 ลูกเข้ามา ส่งผลทำให้น้ำในเขื่อนเพิ่มขึ้น เกือบทุกเขื่อน ยกเว้นภาคอีสาน จะได้ฝนน้อย ประชาชนอาจเผชิญภาวะขาดแคลนน้ำ ขอให้ประชาชนในภาคอีสาน เตรียมตุ่มใหญ่ๆ ถังใหญ่ๆ ดูรางน้ำรองฝนให้ดี เมื่อมีฝนตก จะได้รองน้ำไว้กินใช้ได้ รวมทั้ง วัด โรงเรียน เพราะเขื่อนภาคอีสานจากนี้ไปจะได้ฝนน้อยลง เช่น เขื่อนอุบลรัตน์ ได้น้ำไม่มาก
ฝนหนักยาวถึงธ.ค.ถึงขั้นท่วม
“เดือนหน้าฤดูมรสุมเข้าไทยมาทางภาคตะวันตก ทำให้มีน้ำฝนเพิ่มขึ้นไหลเข้าเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อย เขื่อนป่าสัก เขื่อนศรีนครินทร์ เชื่อนวชิราลงกรณ์ ซึ่งสิ้นเดือนกันยายน ปริมาณน้ำในเขื่อนจะเพิ่มขึ้นทุกเขื่อน และมีน้ำเพิ่มเติมจากพายุมาเดือนตุลาคม-ธันวาคม มีต่อเนื่องไปเลย อาจเกิดน้ำท่วมบ้าง ถ้าพายุลูกใหญ่ ตอนนี้แล้งมานาน ถึงเวลาฝนมาก็มามาก ทำให้ท่วมได้เลย และฝนมีโอกาสตกเหนือเขื่อน จะได้น้ำเข้ามาเติมเขื่อนใหญ่ๆผ่านวิกฤติปีนี้ไปได้ จากน้ำใกล้หมดเขื่อนให้มีน้ำมากขึ้น ทำให้ปีหน้าประเทศไทยไม่เกิดวิกฤติขาดน้ำ”นายสมิทร กล่าว
นายสมิทธ กล่าวว่าปีนี้สภาพอากาศทั่วโลก วิปริตแปรปรวนมาก ส่งผลฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ มาช้าผิดปกติ ซึ่งเกิดภัยแล้งยาวนานไปทั่วทวีป ทั่งประเทศลาว กัมพูชา เวียดนาม จะเห็นแม่น้ำโขงแห้งขอด จากสภาพวะโลกร้อนขึ้น จนขั้วโลกเหนือ ขั้วโลกใต้ น้ำแข็งละลาย
แม่ฮ่องสอนยังเฝ้าระวังน้ำป่า
อีกด้านหนึ่งหลายจังหวัดประสบปัญหาฝนตกหนักน้ำป่าไหลหลาก สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนจำนวนมาก อย่างที่จ.แม่ฮ่องสอน นายสังคม คัดเชียงแสน นายอำเภอปาย จ.แม่ฮ่องสอนเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักบริเวณบ้านเมืองน้อย และอีกหลายหมู่บ้าน ที่อยู่ต้นน้ำแม่น้ำปาย ทำให้เกิดน้ำปายไหลท่วมบ้านเรือน รีสอร์ท เกสเฮ้าท์ และพื้นที่นาการเกษตรของราษฎร แม้ว่าขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำปาย ลดระดับแล้ว แต่ยังสั่งให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรับมือเหตุอุทกภัย เพราะยังมีฝนตกหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง สำหรับความเสียหายอยู่ระหว่างสำรวจ ในส่วนบุคคลสูญหาย กรณีมีผู้ป่วยเสียชีวิตและถูกน้ำปายพัดหายไปนั้น ยังค้นหาไม่พบ
ปายอ่วมดินสไลด์ปิดถนน13จุด
สำหรับกรณีดินภูเขาที่สไลด์ลงปิดทับเส้นทาง ระหว่างบ้านหัวแม่เมือง หมู่ 7 ต.เวียงเหนือ – บ้านดอยช้าง ต.แม่ฮี้ – อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จำนวน 13 แห่ง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอปาย , อบต.เวียงหนือ , อบต.แม่ฮี้ , ร้อยตรีเอียง กันทาน้อย กำนันตำบลแม่ฮี้ , นางสาวจุไรรัตน์ กันทาสุข ผญบ.บ้านแม่เย็น หมู่ 1 ต.แม่ฮี้ , นายสุวิน เปียผะ ผญบ.หมู่ 7 บ้านหัวแม่เมือง ต.แม่ฮี้ , เจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย ร.1722 ประจำด่านแม่ยะ , ครู ศศช บ้านหัวแม่เมืองและบ้านดอยช้าง } ชาวบ้านหัวแม่เมือง ,ชาวบ้านดอยช้าง และเจ้าหน้าที่ กองช่าง จาก อบต.เวียงเหนือ นำรถไถไปช่วยกันเปิดเส้นทาง จนสัญจรไปมาได้เป็นปกติแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี