ป่วนยะลา5อำเภอ
ลอบวางระเบิดและเผา
ชาวบ้าน-เด็กบาดเจ็บ
คาดฝีมือแนวร่วมใหม่
ต่อรองปล่อยผู้ต้องสงสัย
คนร้ายก่อเหตุไม่สงบหลายจุด พื้นที่ 5 อำเภอ ใน จ.ยะลา ทั้งระเบิดเสาไฟฟ้าและตู้เอทีเอ็ม- เผาเสาสัญญาณโทรศัพท์-เผายางรถยนต์ ปชช.บาดเจ็บหลายราย มีเด็กโดนลูกหลง ฝ่ายความมั่นคง เข้มมาตรการรักษาปลอดภัย เตือนระวังเหตุร้ายช่วง วันชาติมาเลเซีย-สถาปนาเบอร์ซาตู 31สิงหา“บิ๊กตู่”สั่งตามล่าแก๊งป่วน เยียวยาคนเจ็บ ฝ่ายข่าวเชื่อฝีมือกลุ่มแนวร่วมฯรุ่นใหม่ หวังต่อรองให้ปล่อยตัวผู้ต้องสงสัยก่อความไม่สงบ
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ศูนย์วิทยุ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา รับแจ้งว่าเกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนลอบวางระเบิด หลายจุดในพื้นที่ 5 อำเภอของ จ.ยะลา ได้แก่ ในพื้นที่ อ.ยะหา จ.ยะลา บริเวณเสาไฟฟ้า ริมถนนสาย 4065 บ้านเจาะบือแน หมู่ที่ 1 ต.บาโงยซิแน เบื้องต้น แรงระเบิดทำให้เสาไฟฟ้าได้รับความเสียหาย และมีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 ราย ได้แก่ นายมุสเล็ม แงแวลี, น.ส.นูรียะห์ ยาลอ และ น.ส.ไซนุรวาตี อาลีโตะมะ เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวส่งรักษายัง รพ.ศูนย์ยะลา
เวลาเดียวกัน พ.ต.ต.ฮากีม หมัดอาด สว.(สอบสวน) สภ.เมือง จ.ยะลา รับแจ้งเหตุว่ามีคนร้ายวางระเบิดเสาไฟพื้นที่ใกล้มัสยิดกำปงนิบง หมู่ที่ 7 ต.บุดี อ.เมืองยะลา ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ขณะที่ ตัวเสาไฟฟ้า ได้รับความเสียหายหักขาด 2 ท่อน
ส่วนพื้นที่ อ.กรงปีนัง มีคนร้ายเผายางรถยนต์ บน ถนนสาย 410 (ยะลา -มเบตง) สามแยก ทางเข้าอำเภอกรงปินัง หมู่ที่ 7 ต.กรงปินัง
ที่ อ.บันนังสตา มีคนร้ายก่อเหตุ 3 จุด ตั้งแต่เผาเสาโทรศัพท์ พื้นที่ หมู่ที่ 3 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา, เผายางรถยนต์บนถนน 410(ยะลา-เบตง) หมู่ 4 บันนังกูแว ต.บันนังสตา และวางระเบิดภายในการยางแห่งประเทศไทย สาขาบันนังสตา โดยเหตุการณ์ทั้งหมดไม่มีใครได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
ขณะที่ บริเวณตลาดเทศบาลคอกช้าง ต.แม่หวาด อ.ธารโต มีการวางระเบิด 2 จุด คือที่บริเวณตู้ ATM มีประชาชน ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย และบริเวณร้านขายของชำ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย ได้แก่ นายประวิทย์ ตั้งสิริวรกุล หรือโก๋เหนียบ, ด.ญ.พรรณพิสุทธิ์ ศรีจันทร์, ด.ญ.ชนกาจน์ ศรีจันทร์, ด.ญ.แบม พลชนะ และ น.ส.ลำพูน เหล่าแก้ว
เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม หน่วยข่าวความมั่นคงในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ที่ติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้วิเคราะห์เหตุการณ์ดังกล่าว โดยเชื่อว่าเป็นการลงมือก่อเหตุของกลุ่มแนวร่วมก่อเหตุความไม่สงบรุ่นใหม่ ที่เข้ามาทดแทนกลุ่มคนรุ่นเก่าที่ถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัว วิสามัญ และบางคนก็แก่ชรา หลบหนีออกไปนอกประเทศ จึงทำให้กลุ่มขบวนการก่อเหตุความไม่สงบได้จัดตั้งแนวร่วมใหม่เข้ามาทดแทนเพื่อก่อเหตุสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ โดยกลุ่มแนวร่วมรุ่นใหม่ ได้รับคำสั่งจากแกนนำให้ก่อเหตุ เพื่อเป็นการตอบโต้ เจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อให้รัฐบาลไทยปล่อยตัวผู้ต้องสงสัยที่ถูกทางการไทยควบคุมตัวไว้ทั้งหมด ตามที่มีข้อเสนอจากกระบวนการพูดคุยสันติภาพ
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพิ่มความเข้มข้นในการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนอย่างเข้มงวดมากขึ้น ทั้งการตั้งด่านตรวจค้นรถยนต์ รถจักรยานยนต์ บุคคลต้องสงสัยที่เข้า-ออก เมืองเบตง รวมทั้งตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อป้องกันคนร้ายลักลอบเข้ามาก่อเหตุ รวมทั้งเพื่อสร้างความปลอดภัยและมั่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว รวมทั้งเพิ่มการรักษาความปลอดภัยตามสถานที่ราชการ ร้านค้าย่านชุมชน และแหล่งท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เนื่องจากในวันที่ 31 สิงหาคมนี้ เป็นวันชาติของประเทศมาเลเซีย และเป็นวันสถาปนากลุ่มเบอร์ซาตู ซึ่งสุ่มเสี่ยงที่จะตกเป็นเป้าหมายโจมตีของกลุ่มก่อความไม่สงบ เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ สร้างสถานการณ์เพื่อหวังก่อกวน สร้างความระส่ำระสายต่อบ้านเมือง เพื่อให้เกิดความวุ่นวาย และก่อความไม่สงบให้เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงขอความร่วมมือจากประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา สอดส่องสิ่งที่ไม่ปกติ และแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ทราบด้วย
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่า ได้สั่งการไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้วหลังเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังดำเนินการ ติดตามสืบสวนสอบสวนกันอยู่ และมอบหมายให้หน่วยงานด้านการสาธารณสุข และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า เข้าไปช่วยดูแลด้วย โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งการเยียวยาต่างๆ ซึ่งเรื่องนี้มีกติกาอยู่แล้ว ขณะนี้ก็ต้องติดตามเฝ้าระวังกันด้วย
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราต้องพูดคุยกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ต้องระวังมากขึ้น และต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมระวังป้องกันต้องให้มาก ซึ่งตนเสียใจกับคนที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เราพยายามทำทุกอย่างป้องกันไม่ให้เกิดเหตุ ขณะนี้กำลังติดตามตัวผู้กระทำผิดอยู่ และเหตุดังกล่าวไม่เกี่ยวกับที่มีกระแสข่าวต่อรองให้ปล่อยตัวผู้ต้องสงสัยจากเหตุไม่สงบ รวมทั้งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการวางระเบิดหลายจุดในกรุงเทพ
ด้าน พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวแสดงความเสียใจกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดหลายจุดในพื้นที่ จ.ยะลา ที่ผ่านมา พร้อมทั้งสั่งการให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เร่งเข้าช่วยเหลือเยียวยาประชาชนบริสุทธิ์และเด็กที่ได้รับบาดเจ็บอย่างดีที่สุด ควบคู่ไปกับการเร่งฟื้นฟูความเสียหายของระบบสาธารณูปโภคที่ถูกทำลาย นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เร่งติดตามผู้ร่วมก่อเหตุทั้งหมด มาดำเนินการตามกฎหมายโดยเร็ว โดยขอให้เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังในพื้นที่ พร้อมทั้งให้ขยายผลปฏิบัติการเชิงลึกต่อเครือข่ายขบวนการผู้ก่อเหตุรุนแรง และความเชื่อมโยงกับกลุ่มผลประโยชน์ในพื้นที่ เพื่อร่วมกันหยุดความรุนแรง
พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบก(รอง ผบ.ทบ.) ผู้ช่วยผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ผช.ผอ.รมน.)กล่าวว่าพล.ท.รศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 กำลังสอบสวนหาสาเหตุ ซึ่งความถี่ของการเกิดเหตุมากน้อยสลับกันไป แต่ไม่ได้มากขึ้นจนถือเป็นนัยสำคัญหรือน่าห่วงใย เพราะไม่ว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นมากหรือน้อย กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าให้ความสำคัญและทุ่มเททำงานเพื่อรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนให้มากที่สุด
ขณะที่ นายวัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.)ออกมาประณามคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าว ทำให้ผู้บริสุทธิ์ได้รับบาดเจ็บหลายราย มีทั้งเด็ก เยาวชนและสตรีว่า ถือเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม ผิดกฎหมายและละเมิดต่อสิทธิในชีวิตและร่างกาย อันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงจึงขอให้ผู้ก่อเหตุหรือผู้อยู่เบื้องหลังยุติการกระทำความรุนแรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ และสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานความมั่นคง เร่งสืบสวนสอบสวน นำตัวผู้ก่อเหตุมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี