แฉโจรปล้นทอง85ล้าน
ผบช.ภ.9เร่งสะสางคดี
คล้ายปล้นเต็นท์รถ
คาด2วันรู้ผลไล่ล่า
ผบช.ภ.9 เรียกถกความคืบหน้าเหตุคนร้ายนับสิบ บุกปล้นร้านทอง อ.นาทวี จ.สงขลา อุกอาจ กวาดทองมูลค่ากว่า 85 ล้านบาท เผ่นหนี เชื่อเกี่ยวพันคดีความมั่นคง พฤติการณ์คล้ายปล้นเต็นท์รถปี’60 อีก 2 วันรู้ผลตามไล่ล่า
เมื่อวันที่ 25สิงหาคม พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวนเพื่อติดตามความคืบหน้าคดีคนร้ายบุกปล้นร้านทอง “ห้างทองสุธาดา” ตั้งอยู่กลางตลาดนาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา ซึ่งคนร้ายได้กวาดทองคำ และสิ่งของมีค่าของร้านทองดังกล่าวไปจนเกือบเกลี้ยงร้าน รวมน้ำหนักประมาณ 2,400 บาท คิดเป็นมูลค่ากว่า 85.7 ล้านบาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา โดย พล.ต.ท.รณศิลป์ กล่าวภายหลังการประชุม ว่าทางเจ้าหน้าที่ทั้งใน จ.สงขลา และ จ.ปัตตานี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และพฤติการณ์การก่อเหตุของคนร้าย โดยให้น้ำหนักเชื่อมโยงว่าเกี่ยวข้องกับคดีความมั่นคง 80% ส่วนอีก 20% ยังต้องรอผลตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์จึงจะสามารถสรุปได้
พล.ต.ท.รณศิลป์ กล่าวต่อว่า สำหรับเหตุผลที่ให้น้ำหนักเกี่ยวข้องกับเรื่องความมั่นคง เพราะดูจากพฤติกรรมของคนร้าย เมื่อมองย้อนหลังกลับไป เหมือนกับคดีปล้นเต็นท์รถวังโต้ คาร์เซ็นเตอร์ ใน อ.นาทวี เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2560 คือมีการปล้นรถมาก่อน แล้วนำมาใช้ก่อเหตุ โดยคนร้ายที่ลงมือปล้นร้านทอง มีการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด และคำให้การของพยานมีอย่างน้อย 17-20 คน
“คนร้ายมีการวางแผนแบ่งหน้าที่กันทำเป็นอย่างดี ทั้งคนทำหน้าที่ปล้นรถ ส่วนหนึ่งก็คุมคนขับรถเอาไว้ กลุ่มหนึ่งก็เอารถมาส่งให้กับทีมปล้นร้านทอง โดยในส่วนของทีมปล้นน่าจะมี 12 คน บางคนแต่งกายเป็นผู้หญิง แฝงตัวเป็นลูกค้า มาเคาะประตูร้านทอง เพื่อให้เปิดประตูเพราะต้องเปิดสวิทช์จากด้านใน และดันประตูเอาไว้ จากนั้นคนร้ายที่ถืออาวุธปืนสงครามก็บุกเข้าไปในร้าน” พล.ต.ท.รณศิลป์ กล่าว
ผบช.ภ.9 กล่าวถึงกรณีคนร้ายที่สวมชุดคล้ายทหาร ว่าคนร้ายไม่ได้แต่งกายด้วยชุดทหาร อาจจะมีบางคนที่สวมเสื้อลายพรางและนุ่งกางเกงยีนส์ ไม่ได้แต่งเครื่องแบบทหารเหมือนกับที่ไปก่อเหตุสร้างความไม่สงบ โดยคดีนี้ขอเวลา 2 วัน น่าจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับตัวคนร้าย เพราะต้องรอผลการตรวจที่เกิดเหตุและสอบสวนพยาน เนื่องจุดเกิดเหตุมีหลายจุด ทั้งจุดที่ปล้นรถที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี จุดที่คนร้ายนัดรวมตัวรับคนขึ้นรถมาปล้น ซึ่งต้องตรวจทุกจุดอย่างละเอียดโดยเฉพาะรถตู้คันที่ใช้ก่อเหตุ ได้ส่งไปตรวจเก็บลายนิ้วแฝงและร่องรอยของคนร้ายที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10
ทั้งนี้ ในส่วนเส้นทางในการก่อเหตุของคนร้าย พบว่าได้ขับรถมาตามเส้นทางแยกดอนยาง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี หลังจากก่อเหตุเสร็จแล้วก็หลบหนีนำรถไปทิ้งไว้ในพื้นที่สวนยาง หมู่ 4 ต.ท่าประดู่ อ.นาทวี ก่อนที่จะแยกย้ายกันหลบหนี พร้อมทองที่ขโมยไปได้
“คดีนี้พบว่านอกจากรถตู้ที่ปล้นมาแล้ว ยังมีจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ 3 คัน เป็นจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีแดง-ดำ ทะเบียน 1 กค 1828 ปัตตานี ซึ่งถูกขโมยมาเช่นกัน นำมาจอดทิ้งไว้บริเวณเดียวกับที่ทิ้งรถตู้ ซึ่งอาจจะขับมารับคนร้าย แต่รถเกิดเสีย จึงทิ้งเอาไว้ ส่วนอีก 2 คัน เป็นจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ ทะเบียน 1 กค 1827 ปัตตานี และจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ ทะเบียน ขทอ 640 ปัตตานี ที่คนร้ายจี้เอาไปจากใต้ถุนบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 11 ต.นาทวี อ.นาทวี ซึ่งยังไม่พบทั้ง 2 คัน แต่ได้แจ้งเตือนเป็นรถอันตรายแล้ว” ผบช.ภ.9 กล่าวและว่า ในส่วนรายละเอียดอื่นๆ ของคดี ทั้งกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะมีคนในร่วมด้วยหรือไม่ หรืออดีตลูกจ้าง เพราะคนร้ายรู้ทุกอย่างภายในร้านเป็นอย่างดี และลงมืออย่างง่ายดาย ในเรื่องนี้คงต้องสอบสวนเช่นกัน โดยเจ้าหน้าที่จะเรียกผู้ที่เข้าข่ายต้องสงสัยมาสอบสวนทุกคน
ขณะเดียวกัน จากการสอบปากคำนายสมัคร อนุจร เจ้าของร้าน ได้ข้อมูลว่าคนร้ายมีประมาณ 10 คน ใช้รถตู้และจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ พร้อมอาวุธสงครามครบมือบุกปล้นโดยได้ทองคำแท่ง 5 แท่ง ทองรูปพรรณน้ำหนัก 2,300 บาท แหวนและสร้อยคอเพชร รวมถึงทองรูปพรรณที่มีลูกค้านำไปจำนำ น้ำหนัก 1,000 บาท นอกจากนี้คนร้ายยังยกฮาร์ดดิสก์บันทึกข้อมูลและกล้องวงจรปิดไปด้วย
ส่วนนายรอสะลี เยาะเส็น อายุ 26 ปี คนขับรถตู้ที่ถูกปล้นไปก่อเหตุ ถูกกันไว้เป็นพยาน ภายหลังเจ้าตัวหนีรอดจากกลุ่มผู้ก่อเหตุและเข้าแจ้งตำรวจ สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี ให้ช่วยเหลือ โดยพนักงานสอบสวนได้นำตัวมาสอบปากคำหาเบาะแสคนร้าย และเจ้าหน้าที่สามารถติดตามรถตู้ได้จากจีพีเอส ที่ติดในตัวรถถูกจอดไว้ที่ ต.ท่าประดู่ อ.นาทวี อยู่ระหว่างตรวจสอบอย่างละเอียด
ด้านชมรมร้านค้าทองหาดใหญ่ ได้ประชาสัมพันธ์ให้เจ้าของร้านทองในพื้นที่สังเกตุการนำทองรูปพรรณมาจำนำ หากพบว่าเป็นทองต้องสงสัย ขอให้แจ้งตำรวจเพื่อเข้าตรวจสอบทันที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี