วานนี้ ( 27 ส.ค.) ที่ห้องประชุมราชสีห์ กระทรวงมหาดไทยนายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน (พชช.) ครั้งที่ 1 /2562 โดยมี นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช. ) นายทวีป บุตรโพธิ์ รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และนายชัยยา ขำสะอาด ผู้อำนวยการศูนย์สารสนเทศเพื่อการพัฒนาชุมชน พช. ในฐานะฝ่ายเลขานุการกล่าวรายงานในการประชุมครั้งนี้มีวาระสำคัญคือ การรายงานคุณภาพชีวิตของคนไทย ปี 2562 เป็นการนำเสนอผลการจัดเก็บข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน(ของรอบปีที่ผ่านมา (ปี 2561)จากครัวเรือนที่มีผู้อาศัยอยู่จริง ทั้งในเขตชนบทและเขตมือง ในรูปแบบการรายงานผลคุณภาพชีวิตของคนไทย ทำให้ทราบถึงคุณภาพชีวิตของประชาชน ภาพรวมในทุกระดับของประเทศ โดยมีเครื่องมือในการวัดผลคุณภาพชีวิต จำนวน 5 หมวด 31 ตัวชี้วัด ซึ่งตัวชี้วัดที่ไม่ผ่านเกณฑ์ คือ ปัญหาที่ทุกคนในครัวเรือนต้องร่วมกันแก้ไข เพราะเป็นเรื่องที่ทุกคนในครัวเรือนสามารถช่วยแก้ไขได้ด้วยตนเอง สำหรับตัวชี้วัดที่ไม่ผ่านเกณฑ์เป็นจำนวนมากในภาพรวมระดับหมู่บ้าน/ชุมชน ตำบล อำเภอ และจังหวัด เป็นภารกิจของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในแต่ละระดับ ต้องนำไปใช้ในการวางแผนเพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น
โดยผลการจัดเก็บข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ) ปี 2562 ซึ่งได้ทำการสำรวจคุณภาพชีวิตของคนไทยจากครัวเรือนที่มีผู้อาศัยอยู่จริงในพื้นที่เกิน 6 เดือน ทั้งที่มีเลขที่บ้านและไม่มีเลขที่บ้าน โดยจัดเก็บข้อมูลรอบปีที่ผ่านมา (ปี 2561) มีผลการจัดเก็บข้อมูลครัวเรือนทั่วประเทศใน 76 จังหวัด 878 อำเภอ 7,255 ตำบล 7,776 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ 84,116 หมู่บ้าน/ชุมชน จำนวน 12,975,931 ครัวเรือน มีประชากรที่อาศัยอยู่จริงจำนวน 36,890,212 คน แยกเป็น เพศชาย จำนวน 17,978,483 คน (48.74%) เพศหญิง จำนวน 18,911,729 คน (51.26%)
ปรากฏว่า มีข้อมูลที่น่าสนใจ อาทิ ระดับความสุขเฉลี่ยของคนไทยจากผลสำรวจ พบว่า คนในครัวเรือนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีระดับความสุขเฉลี่ยของคนในครัวเรือน มากที่สุด คือ มีความสุขที่ระดับ 8.48 รองลงมา คือ ภาคเหนือ มีระดับ ความสุขเฉลี่ย ที่ระดับ 8.33 ภาคกลางมีระดับความสุขเฉลี่ย ที่ระดับ 8.28 และภาคใต้ มีระดับความสุขเฉลี่ยที่ ระดับ 8.25 ตามลำดับ ส่วนด้านรายได้เฉลี่ยของคนไทยภาพรวมประเทศจำนวน 81,279.83 บาท/คน/ปี โดยที่ภาคกลาง มีรายได้เฉลี่ยต่อคนต่อปี มากที่สุด จำนวน 103,061.08 บาท/คน/ปี รองลงมา คือ ภาคเหนือ 77,128.49 บาท/คน/ปี ภาคใต้ 74,407.02 บาท/คน/ปี และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 72,633.32 บาท/คน/ปี ตามลำดับ และหมวดที่ 5 ค่านิยม มี 8 ตัวชี้วัด ตัวชี้วัดที่คนไทยผ่านเกณฑ์มากที่สุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ ตัวชี้วัดที่ 27 ผู้สูงอายุ ได้รับการดูแลจากครอบครัว ชุมชนภาครัฐ หรือภาคเอกชน ตัวชี้วัดที่ 29 ผู้ป่วยโรคเรื้อรังได้รับการดูแลจากครอบครัว ชุมชน ภาครัฐ หรือภาคเอกชน ร้อยละ 99.99 รองลงมา ตัวชี้วัดที่ 28 ผู้พิการ ได้รับการดูแลจากครอบครัว ชุมชน ภาครัฐ หรือภาคเอกชน ร้อยละ 99.98 ตัวชี้วัดที่ 25 คนในครัวเรือนไม่สูบบุหรี่ ร้อยละ 93.95 ตามลำดับ เป็นต้น ปี พ.ศ.2562
นอกจากนี้กรมการพัฒนาชุมชน และสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน):สทอภ.ได้จัดทำโครงการบูรณาการชี้เป้าลดความเหลื่อมล้ำด้วยเทคโนโลยี (โครงการนำร่อง) เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาชุมชนและลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมในรูปของการบูรณาการทำงานของหน่วยงานระดับจังหวัด โดยนำข้อมูลจปฐ. ปี2561 นิยามความเหลื่อมล้ำ 6 ด้าน ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจ การศึกษา ที่อยู่อาศัย อาชีพ สาธารณสุข และผู้ด้อยโอกาส เป้าหมายดำเนินการได้แก่ 10 จังหวัดที่ครัวเรือนมีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ จปฐ.(38,00 บาท)ในอันดับสูงสุด 10 จังหวัดแรก ได้แก่ ปัตตานีแม่ฮ่องสอน อ่างทอง นครศรีธรรมราชน่าน อุทัยธานี พิษณุโลก สุโขทัย ตากและชัยนาท จำนวน 14,924 ครัวเรือนซึ่งหลังจากการตรวจสอบแล้ว พบว่า เป็นครัวเรือนที่ตาย ย้ายออก จำนวน 165 ครัวเรือน ไม่ขอรับการช่วยเหลือ 5,618 ครัวเรือน จึงเหลือเป้าหมายที่จังหวัดต้องดำเนินการ 9,141 ครัวเรือนโดยให้จังหวัดกำหนดค่าพิกัด GPS ครัวเรือนเป้าหมายดังกล่าว
ทั้งนี้ในการประชุมมีคณะทำงานฯ พชช. จากหน่วยงานภาคี ประกอบด้วย 1. รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (หัวหน้า) 2. ผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 3. ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข 4. ผู้แทนกระทรวงศึกษาธิการ 5. ผู้แทนกระทรวงอุตสาหกรรม 6. ผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ 7. ผู้แทนกระทรวงแรงงาน 8. ผู้แทนกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 9. ผู้แทนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 10. ผู้แทนกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม 11.ผู้แทนกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 12. ผู้แทนกระทรวงคมนาคม 13. ผู้แทนกระทรวงวัฒนธรรม 14. ผู้แทนกระทรวงยุติธรรม 15. ผู้แทนกระทรวงพลังงาน
16. ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 17. ผู้แทนหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา 18. ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 19. ผู้แทนสำนักนายกรัฐมนตรี 20. ผู้แทนกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 21. ผู้แทนศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ 22. ผู้แทนสำนักงานสถิติแห่งชาติ 23. ผู้แทนสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 24. ผู้แทนกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น 25. ผู้แทนสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน) 26. ผู้แทนสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย 27. ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด 28. ผู้แทนสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) 29. รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (เลขานุการ) 30. ผู้อำนวยการศูนย์สารสนเทศเพื่อการพัฒนาชุมชนกรมการพัฒนาชุมชนผู้ช่วยเลขานุการ) 31. ผู้อำนวยการกองพัฒนาข้อมูลและตัวชี้วัดสังคม สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ (ผู้ช่วยเลขานุการ)
อย่างไรก็ตามกรมการพัฒนาชุมชน ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการอำนวยการงานพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน (ผชช.)เป็นอย่างยิ่งว่าข้อมูลการรายงานคุณภาพชีวิตของคนไทย ปี 2562 จะเป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกลุ่ม/องค์กร นิสิต/นักศึกษา และประชาชน ที่จะนำไปใช้ประโยชน์ในการกำหนดนโยบาย การวางแผน การจัดทำโครงการ การอนุมัติโครงการ/งบประมาณ การลงทุนทางธุรกิจ การทำกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) การศึกษาวิจัย และการติดตามประเมินผลเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดียิ่งขึ้น ตามนโยบายของรัฐบาลอย่างมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ต่อไป
ทั้งนี้ ผู้สนใจผลคุณภาพชีวิต ทั้ง 5 หมวด 31 ตัวชี้วัด สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์สารสนเทศเพื่อการพัฒนาชุมชน กรมการพัฒนาชุมชน ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯอาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) ชั้น 5 ถนนแจ้งวัฒนะ หลักสี่ กทม. 10210
โทรศัพท์ 02-1416275-76 โทรสาร 02-1438920-21 www.cdd.go.th
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี