29 สิงหาคม 2562 นายอัมพร พินะสา รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยถึงกรณีที่ครูอ้อม ซึ่งเป็นครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษา(สพป.)ชัยนาท จ.ชัยนาท ที่ออกมาร้องเรียนว่าโรงเรียนผัดมาม่าเป็นอาหารกลางวันให้เด็กนักเรียนรับระทาน และหลังจากนั้นก็ปรากฏว่ามีคนเอาเลือดไปปาหน้าห้องครูอ้อม จึงเกิดเป็นความขัดแย้งระหว่างกลุ่มที่ประกอบอาหารให้กับนักเรียน กับกลุ่มที่เห็นด้วยกับครูอ้อมที่นำเรื่องนี้ออกมาเปิดเผย ทาง น.ส.ลออ วิลัย ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.)ชัยนาท จ.ชัยนาท จึงย้ายครูอ้อมให้ไปปฏิบัติราชการชั่วคราวที่ สพป.ชัยนาท
เมื่อวันที่ 28 ส.ค.62 ด้วยเห็นว่าหากให้ครูอ้อมอยู่ต่ออาจถูกกระทำให้เกิดผลกระทบ แต่ในช่วงบ่ายหลังจากที่ครูอ้อมถูกย้ายออกไปแล้ว ได้มีกลุ่มชาวบ้านที่เห็นว่าครูอ้อมทำถูกต้องแล้วที่นำเรื่องนี้ออกเปิดเผย จึงออกมารับปากจะคุ้มครองครูอ้อม และครูอ้อมเองก็ประสงค์จะอยู่โรงเรียนเดิม ประกอบกับประเด็นความขัดแย้งก็ยังไม่จบ ผอ.สพป.จึงได้มีคำสั่งใหม่ ย้ายครูอ้อมกลับที่เดิม และย้าย ผอ.โรงเรียน ไปช่วยราชการที่ สพป.ชัยนาท แทน แล้วตั้งกรรมการสืบข้อเท็จจริงเรื่องที่เกิดขึ้น
รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อว่า เรื่องนี้น่าจะเกิดจากที่ สพป.ไม่ทำความเข้าใจกับครูอ้อมและชุมชนก่อน ว่าที่ย้ายครูอ้อมไปช่วยงานที่ สพป.นั้น ก็เพื่อความปลอดภัยของครูอ้อม ขณะที่มีการสอบสวน ทั้งนี้สำหรับส่วนกลาง ก็คงไม่ตั้งกรรมการลงไปสอบสวน เพราะเหตุเกิดขึ้นที่โรงเรียนและเป็นอำนาจของสำนักงานเขตพื้นที่ และสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด(กศจ.) ที่มีผู้ว่าฯเป็นประธาน ว่าจะกำเนินการในเรื่องนี้อย่างไร
แต่ส่วนกลางก็จะเร่งรัดให้เขตพื้นที่ตรวจสอบให้เกิดความชัดเจนโดยเร็ว และทราบว่าในวันนี้(29 ส.ค.) ทางผู้ว่าฯชัยนาท และองค์กรปกครองท้องถิ่นจะเข้าไปทำความเข้าใจกับทุกฝ่าย โดยหลักการ ผู้ว่าฯ และเขตพื้นที่ ก็ต้องตรวจสอบบนหลักธรรมาภิบาล หากวันนี้เราไม่เชื่อมั่นในสิ่งที่เรากระจายอำนาจไป ก็คงไม่ใช้ เพราะบทบาท อำนาจการตั้งกรรมการสอบวินัยต่างๆอยู่ที่ กศจ.แล้ว
'ผมคิดว่าเรื่องนี้คงเกิดจากประเด็นความไม่เข้าใจกันภายในโรงเรียน กับชุมชน และเป็นปัญหาสะสมมานาน และคิดว่าผอ.สพป.ก็คงมีข้อมูลบางอย่างที่ทำให้ต้องตัดสินใจย้ายครูอ้อมออกไปช่วยราชการชั่วคราวที่เขตพื้นที่ ซึ่งเป็นเหตุผลเชิงวินิจฉัย ผมคงบอกไม่ได้ว่าใครถูกใครผิด แต่ผมคิดว่าผอ.เขต ก็คงตัดสินใจบนพื้นฐานข้อมูล ณ เวลานั้น แต่หลังจากที่ตัดสินใจไปแล้วมันอาจจะไม่ใช่ เพราะปัญหาไม่จบ จึงตัดสินใจใหม่ย้ายครูอ้อมกลับมา และย้าย ผอ.โรงเรียนออกไปแทน ซึ่งขณะนี้เขตพื้นที่ก็ตั้งกรรมการสืบสวนเรื่องนี้แล้ว หากผลการตรวจสอบออกมาพบว่าโรงเรียนดำเนินการผิดหลักของโครงการอาหารกลางวัน จริง ก็ว่าไปตามเหตุความผิดอยู่แล้ว แต่ในอีกด้านหนึ่งหากพบว่าครูร้องเท็จ ก็จะมีความผิดฐานรายงานเท็จ ดังนั้น เรื่องนี้ก็ต้องไปตรวจสอบว่าข้อเท็จจริงคืออะไร ผิดกฏหมายหรือผิดหลักวิธีปฏิบัติหรือไม่' รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี