เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2562 นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย เปิดเผยว่า สำหรับพื้นที่ภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วงขณะนี้มี 13 จังหวัด 79 อำเภอ 534 ตำบล 6023 หมู่บ้าน แบ่งเป็นภาคกลาง อุทัยธานี สุพรรณบุรี ภาคตะวันออก สระแก้ว ภาคเหนือตอนล่างพิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สุรินทร์ ศรีสะเกษ ขอนแก่น ชัยภูมิ และนครราชสีมา สำหรับภาคใต้ พัทลุง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจพื้นที่ความเสียหาย และเกิดภัยซ้ำซ้อนทั้งภัยแล้ง และน้ำท่วม รวมถึงสำรวจปริมาณน้ำฝน ซึ่งสิ่งที่กังวลคือพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเช่น ทุ่งกุลาร้องไห้ ที่เป็นพื้นที่ฝนทิ้งช่วงอาจจะได้รับน้ำฝนแล้ว แต่จะมากน้อยแค่ไหน กำลังตรวจสอบมวลน้ำที่ไหลเข้าในพื้นที่อยู่
"ในด้านงบประมาณการช่วยเหลือ เรามีงบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สามารถนำไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ได้ ส่วนอีกงบประมาณคือการใช้งบกลางตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ค่าซ่อมแซมที่อยู่อาศัยที่ได้รับความเสียหาย ค่าเครื่องมือประกอบอาชีพที่ได้รับความเสียหาย นาข้าว พืชไร่ พืชสวนที่ได้รับความเสียหาย รวมทั้งกรณีที่เสียชีวิตก็จะได้รับเงินค่าจัดการศพ ซึ่งที่เกี่ยวกับการเกษตรนั้นมีระเบียบของกระทรวงการเกษตรฯ ช่วยเหลือเกษตรกรอยู่แล้ว เช่น กรณีนาข้าวเกิดความเสียหายโดนสิ้นเชิง จะเยียวยา ชดเชย ไร่ละ 1,113 บาท พืชไร่ เยียวยาไร่ละ 1,148 บาท ไม้ผลอื่นๆ ไร่ละ 1,690 บาท นอกจากนี้ หากเกษตรกรมีประกันพืชผลกับทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ไว้ก็จะได้นับเงินเพิ่มขึ้นอีกไร่ละ 1,260 บาท" รมช.มหาดไทย กล่าว
นายนิพนธ์ ยังกล่าวถึงอุทกภัยจากอิทธิพลพายุโพดุล ว่า ขณะนี้หลายจังหวัดได้รับผลกระทบจากพายุดังกล่าว ทำให้เกิดน้ำทาวมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ในพื้นที่ 26 จังหวัด รวม 82 อำเภอ 228 ตำบล 784 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 39,857 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 5 ราย จ.อุบลราชธานี พิจิตร พิษณุโลก อำนาจเจริญ ขอนแก่น ผู้บาดเจ็บ 1 คน จ.ชัยภูมิ ผู้สูญหาย 2 ราย จ.อำนาจเจริญ พิจิตร ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก พิจิตร อำนาจเจริญ ชัยภูมิ มุกดาหาร ยโสธร ขอนแก่น อุบลราชธานี และร้อยเอ็ด อพยพประชาชน 621 คน ในพื้นที่ 3 จังหวัด จ.ขอนแก่น น่าน อำนาจเจริญ
ด้าน นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวเสริมว่า สำหรับในพื้นที่ที่เกิดทั้งภัยแล้งและน้ำท่วมนั้น เราจะประเมินความเสียหายและจ่ายเงินเยียวยาตามความเป็นจริง ทั้งนี้ตามหลักการนั้น ประชาชนประสบภัยไหนก็จ่ายเงินเยียวยาตามภัยนั้น เช่น กรณีพื้นที่เกิดภัยแล้ง พืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย และได้รับการสำรวจ และรับเงินเยียวยาไปแล้ว จากนั้นได้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ขึ้น แต่พืชผลทางเกษตรยังไม่ได้รับการฟื้นฟู ก็จะจ่ายเงินเยียวยาเพียงครั้งเดียว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี