ฤทธิ์พายุเดือดร้อนสาหัส
10จังหวัดยังจม
ดับ16ศพ-กษ.ตั้งวอร์รูมสู้
กรมชลฯเตรียมรับน้ำเหนือ
ไหลเข้านครสวรรค์7กันยา
‘ทร.’ส่งเรือผลักดันน้ำ25ลำ
กู้วิกฤติอุทกภัยที่จ.สกลนคร
ปภ.สรุปพายุโพดุลทำ 10 จว.ยังจม ตายพุ่ง 16 ศพ เดือดร้อนนับแสนครัวเรือน ด้านรมว.เกษตรฯแจง 7 จว. ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาอย่าแตกตื่นระบายน้ำเพิ่มเป็นสเต็ป ไม่ทำให้ท่วมฉับพลัน เตรียมรับน้ำเหนือสูงสุดถึงนครสวรรค์ 7 กันยายน เตือนชุมชมริมน้ำยมช่วงอ.บางระกำ รับมือน้ำล้นตลิ่ง อีสานหลายจังหวัดทรงตัว ยังมีฝนตกทำน้ำหลากท่วมหลายพื้นที่ ป้องกันเมืองสุโขทัยสำเร็จ เสริมคันกั้นน้ำยมป้องกันน้ำล้นตลิ่ง
เมื่อวันที่ 5 กันยายน นายชยพล ธิติศักดิ์
อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสรุปอิทธิพลพายุโพดุล ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคมว่า ทำให้เกิดน้ำท่วม 31 จังหวัด รวม 136 อำเภอ 515 ตำบล 2,654 หมู่บ้าน 5 เขตเทศบาล 11 ชุมชน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 102,074 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 16 ราย ที่จ.อำนาจเจริญ 4 ราย ร้อยเอ็ด 4 ราย ขอนแก่น 3 ราย พิจิตร 2 ราย อุบลราชธานี 1 ราย พิษณุโลก 1 ราย และมุกดาหาร 1 ราย สูญหาย 1 รายที่จ.น่าน ผู้บาดเจ็บ 1 ราย ที่ชัยภูมิ
10จว.ยังหนัก-4จว.สั่งอพยพ
ทั้งนี้ ยังคงมีสถานการณ์ใน 10 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร อำนาจเจริญ ยโสธร ขอนแก่น อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด และศรีษะเกษ อพยพประชาชนรวม 15 จุด 1,438 คน ใน 4 จังหวัดคือ ขอนแก่น อำนาจเจริญ ยโสธร และอุบลราชธานี โดย ปภ. ร่วมกับจังหวัด หน่วยทหาร และหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ในระยะนี้ประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักบางแห่ง บางพื้นที่มีปริมาณน้ำฝนสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ซึ่ง ปภ. จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ภัยใกล้ชิด
กษ.สั่งทุกจว.สายตรงแจ้งวอร์รูม
ด้านนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีกรมชลประทานแจ้งเตือนเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท เพิ่มการระบายน้ำ เนื่องจากน้ำเหนือที่มีปริมาตรมากไหลลงแม่น้ำเจ้าพระยา อาจส่งผลกระทบบริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยา อาจทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่าน 7 จังหวัดภาคกลางมีระดับสูงขึ้น ตั้งแต่จ.ชัยนาทลงมาถึงพระนครศรีอยุธยารวมทั้งอาจท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำว่า ได้กำชับกรมชลประทานให้แจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้าก่อนเพิ่มการระบายน้ำแต่ละครั้ง ที่สำคัญคือ ป้องกันพื้นที่เกษตรในคันกั้นน้ำไม่ให้เสียหาย เพื่อให้เกษตรกรได้เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ นอกจากนี้ ยังย้ำให้ทุกหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรฯ เข้าไปช่วยเหลือประชาชน โดยต้องเข้าไปดูแลตั้งแต่ขณะเกิดภัยและเร่งสำรวจความเสียหายทันทีที่น้ำลด แล้วรายงานเข้ามายังศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและบรรเทาอุทกภัยของกระทรวงเกษตรฯ เพื่อกำหนดมาตรการเยียวยาต่อไป
เตรียมรับน้ำเหนือถึงนครสวรรค์7กย.
นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า น้ำเหนือปริมาตรสูงสุดจะมาถึงจังหวัดนครสวรรค์วันที่ 7 กันยายน แล้วจึงไหลมายังเขื่อนเจ้าพระยา ซึ่งได้บริหารจัดการโดยแบ่งน้ำจากแม่น้ำน่านบางส่วนเข้าไปเก็บกักในบึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ และที่หน้าเขื่อนเจ้าพระยาได้ทดให้ระดับน้ำสูงขึ้นเพื่อให้น้ำไหลเข้าไปในแม่น้ำและคลองชลประทานทั้ง 2 ฝั่งตามศักยภาพที่จะรับได้ เพื่อไม่ให้เกิดน้ำท่วมพื้นที่เกษตรริมลำน้ำ จากนั้นจึงระบายออกท้ายเขื่อนเจ้าพระยาโดยวันนี้ระบายในอัตรา 750 ลบ.ม./วินาที โดยยังไม่เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายลุ่มเจ้าพระยาในคันกั้นน้ำ ทั้งนี้ สาเหตุที่เร่งระบายน้ำเนื่องจากเป็นช่วงน้ำทะเลไม่หนุน จึงระบายออกอ่าวไทยได้เร็ว และกว่าที่ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาในพื้นที่ลุ่มต่ำที่ไหลผ่านจ.อ่างทองและพระนครศรีอยุธยาจะเปลี่ยนแปลงใช้เวลา 1-2 วัน เพราะน้ำต้องใช้เวลาเดินทางจากจ.ชัยนาทมา ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เนื่องจากน้ำไม่ได้เอ่อล้นตลิ่งอย่างรวดเร็วทันทีที่เพิ่มระบายน้ำ
เสริมคันกั้นน้ำป้องกันสุโขทัยสำเร็จ
นายทองเปลวยังกล่าวถึงระดับน้ำแม่น้ำยมที่ไหลผ่านเมืองสุโขทัยว่า มีระดับต่ำกว่ากำแพงกั้นน้ำเฉลี่ย 40 ซม. อัตราการไหลผ่าน 530 ลบ.ม./วินาที โดยมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ขณะนี้ปริมาตรน้ำสูงสุดจาก อ.วังชิ้น จ.แพร่ที่ไหลมายังจ.สุโขทัยผ่านไปตั้งแต่กลางดึกวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ชลประทานบริหารจัดการน้ำที่ประตูระบายน้ำ (ปตร.) หาดสะพานจันทร์ตลอดทั้งคืน ด้วยการผันน้ำเข้าฝั่งซ้ายผ่านคลองหกบาทในอัตรา 300 ลบ.ม./วินาที แยกเข้าสู่คลองยม-น่าน 100 ลบ.ม./วินาทีแล้วลงสู่แม่น้ำน่านและลงแม่น้ำยมสายเก่า 200 ลบ.ม./วินาที ส่วนฝั่งขวาระบายเข้าคลองน้ำโจน 10 ลบ.ม./วินาที ระบายลงท้ายลงแม่น้ำยมสายหลัก 480 ลบ.ม./วินาที และปรับลดการระบายท้ายหาดสะพานจันทร์ทุกชั่วโมงอย่างช้าๆ
ทำให้ปริมาณน้ำตอนบนอ.ศรีสัชนาลัย และปตร.บ้านหาดสะพานจันทร์ลดระดับลง ส่วนน้ำยมที่ล้นข้ามกระสอบทรายกั้นน้ำยม เจ้าหน้าที่เสริมคันกั้นน้ำสำเร็จและสูบน้ำกลับลำน้ำยม จนกลับสู่ภาวะปกติแล้ว
เช่นเดียวกับ เหตุคันดินกั้นน้ำยมท้ายประตูระบายน้ำยางซ้ายที่พังเสียหาย ปัจจุบันน้ำไหลหลากเข้าสู่ทุ่งรับน้ำบางระกำแล้ว
เตือนลุ่มน้ำยมที่บางระกำรับน้ำสูง
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทานเปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในแม่น้ำยม ที่จ.พิษณุโลกวัดที่สถานวัดน้ำ Y.64 ต.บางระกำ อ.บางระกำวันนี้ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 386 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำอยู่ต่ำกว่าตลิ่งเพียง 7 ซม. สถานการณ์น้ำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น และเริ่มเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่งในเขตชุมชนดังกล่าวบางแห่งแล้ว กรมชลประทาน ขอแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ติดกับลำคลองน้ำไหล และแม่น้ำยมสายเก่า-คลองเมม-คลองบางแก้ว ในต.วังวน ต.พรหพิราม ต.หนองแขม ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม และต.บ้านกร่าง อ.เมือง ต.บางระกำ ต.ท่านางงาม อ.บางระกำ และชุมชนที่อยู่บริเวณแม่น้ำยมสายหลักในเขตต.บางระกำ เขตเทศบาลบางระกำ/ ต.คุยม่วง/ ต.ชุมแสงสงคราม ต.ท่านางงาม ต.ปลักแรด อ.บางระกำขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวขนของไว้บนที่สูง เพราะอาจเกิดภาวะน้ำเอ่อล้นตลิ่ง เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนดังกล่าวได้
เขื่อนระบายเพิ่มคืนเดียว45ซม.
ผู้สื่อข่าวรายงานปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักและตกสะสมในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือตอนล่างไหลหลากลงแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้ปริมาณน้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่าน จ.นครสวรรค์เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง วันนี้มีน้ำไหลผ่าน 1,324 ลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.)ต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากเมื่อวันที่ 4 กันยายน 97 ลบ.ม.ต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ที่ อ.เมืองชัยนาท น้ำสูงขึ้น 11 เซนติเมตร อยู่ที่ระดับ 16.57 เมตรระดับน้ำทะเลปานกลาง (รทก.) ดังนั้น กรมชลประทานบริหารจัดการน้ำโดยผันเข้าระบบชลประทานเหนือเขื่อนเจ้าพระยา สองฝั่งมีปริมาณรวมกัน 514 ลบ.ม.ต่อวินาที และระบายน้ำออกท้ายเขื่อนเจ้าพระยา 750 ลบ.ม.ต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากเมื่อวันที่ 4 กันยายน 100 ลบ.ม.ต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนที่ อ.สรรพยา น้ำสูงขึ้น 45 เซนติเมตร อยู่ที่ระดับ 9.94 เมตร (รทก.) ซึ่งการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา ขณะนี้ยังไม่ส่งผลกระทบกับชาวบ้านริมตลิ่งท้ายเขื่อนเจ้าพระยา
พิจิตรรร.-นาข้าวหลายพันไร่จม
ขณะที่จ.พิจิตร สถานการณ์น้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ และน้ำป่าจากเทือกเขาวังทอง จ.พิษณุโลก ยังไหลลงมาเข้าท่วมอ.วังทรายพูน และอ.เมือง ทำให้มวลน้ำที่ไหลมาตามลำคลองสาขาล้นไหลเข้าท่วมโรงเรียนบ้านสายคำโห้ อ.เมืองพิจิตรสูง 50 เซนติเมตร จึงต้องปิดโรงเรียนไม่มีกำหนดจนกว่าสถานการณ์น้ำจะเข้าสู่ภาวะปกติ นอกจากนั้น มวลน้ำ ที่มาตามลำคลองสาขา ยังไหลกัดเซาะคันคลองขาดเป็นช่อง กว้าง 3 เมตร ทำให้น้ำได้ไหลเข้าท่วม พื้นที่เพาะปลูกข้าวหอมมะลิ ของเกษตรกร ในต.สายคำโห้ ถูกน้ำท่วมขังข้าวจมน้ำเสียหาย หลายพันไร่ ขณะที่ชาวบ้านบางส่วนนำอุปกรณ์หาปลา จับปลาที่มากับน้ำท่วม เพื่อนำไปประกอบอาหาร ในช่วงน้ำท่วม
ทร.ส่งเรือดันน้ำ25ลำกู้สกลนคร
วันเดียวกัน พล.ร.ต.วโรดม สุวารี ผู้อำนวยการสำนัก ปฏิบัติการจิตวิทยา กรมกิจการพลเรือนทหารเรือเป็นประธานลำเลียงเรือผลักดันน้ำ 25 ลำ พร้อมกำลังพล ออกจากอู่ทหารเรือพระจุลจอมเกล้า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการไปจ.สกลนครตามที่ได้รับการร้องขอจาก นายวิทยา จันทร์ฉลอง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เพื่อป้องกันและแก้ปัญหาอุทกภัยในจ.สกลนคร ซึ่งได้รับผลกระทบจากพายุโพดุล และคาจิกิ ทำให้มีน้ำท่วมหนักทั่วพื้นที่ โดยเฉพาะระดับน้ำหนองหารสูงขึ้นต่อเนื่องและมีแนวโน้มสถานการณ์จะรุนแรงเพิ่มขึ้น จึงต้องเร่งระบายลงลำน้ำก่ำ ซึ่งมีความคดเคี้ยวออกสู่แม่น้ำโขงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน
กาฬสินธุ์5อ.ท่วมขัง.เร่งระบาย
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมขังในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เกิดขึ้นมาครบ 1 สัปดาห์ในหลายจังหวัดเริ่มทรงตัว แต่ยังต้องเฝ้าระวังต่อ เพราะมีฝนตกต่อเนื่อง ที่จ.กาฬสินธุ์ สถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่เริ่มคลี่คลาย แม้ยังมีฝนตกตลอดทั้งคืน แต่ไม่หนัก ทำให้ระดับน้ำเริ่มลดลง มีเพียงบางจุดที่ยังท่วมขังบ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ แม่น้ำลำปาวยังมีระดับสูง เนื่องจากแม่น้ำชีหนุน และยังมีบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ติดกับแม่น้ำลำปาวใน อ.เมือง และพื้นที่ท้ายน้ำ อ.ร่องคำ อ.กมลาไสย อ.ยางตลาด อ.ฆ้องชัย อ.เมืองกาฬสินธุ์เริ่มได้รับผลกระทบจากน้ำเอ่อเข้าท่วมบ้านที่พักอาศัยแล้วหลายครัวเรือน และนาข้าวถูกน้ำท่วมขยายวงกว้างขึ้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งผลักดันมวลน้ำและระบายออกนอกพื้นที่ พร้อมกับนำกระสอบทรายเข้าเสริมคันกั้นน้ำป้องกันน้ำล้นตลิ่ง
ขณะที่นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำที่อ.ร่องคำจุดรับมวลน้ำ พร้อมติดตั้งเครื่องผลักดัน บริเวณสะพานข้ามลำน้ำปาว ผลักดันน้ำในลำน้ำปาวลงสู่แม่น้ำชีให้ไหลได้เร็วขึ้น บรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนลุ่มน้ำปาวเขตอ.ร่องคำ อ.กมลาไสย อ.ยางตลาด อ.ฆ้องชัย อ.เมืองกาฬสินธุ์ และในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ซึ่งคาดว่ามีน้ำตกค้างอยู่ในพื้นที่กว่า 100 ล้าน ลบ.ม.ป้องกันน้ำจากน้ำปาวล้นตลิ่ง เข้าท่วมบ้านเรือนและไร่นา และรองรับปริมาณน้ำฝนที่อาจตกลงมาในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์อีก
ศรีสะเกษน้ำเขื่อนหัวนาเกินพิกัด131%
ที่จ.ศรีสะเกษ นายณัทเศรษฐ์ ถิรวัฒน์ธนกร ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหัวนา เผยว่า เนื่องจากมีน้ำเหนือไหลลงมามาก และเขื่อนราษ๊ไศลเปิดระบายน้ำ ประกอบกับมีน้ำท่าจากลำน้ำสาขาไหลลงสู่ลำน้ำมูล ทำให้เขื่อนหัวนามีน้ำเกินปริมาณกักเก็บถึง 20 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนหัวนาจึงได้เปิดบานระบายทั้ง 14 บาน โดยยกแขวนขึ้นเหนือน้ำทั้งหมดปล่อยน้ำไหลไปตามธรรมชาติ ระบายน้ำออก 452 ลบ.ม.ต่อวินาที เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรสองฝั่งน้ำมูล. ซึ่งวันนี้ปริมาณน้ำหน้าเขื่อนหัวนาอยู่ที่ 85 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 131% กักเก็บ ซึ่งเกินความจุกักเก็บไปถึง 20 ล้าน ลบ.ม.
เทศบาลเมืองระวังน้ำป่าพนมดงรัก
ส่วนสถานการณ์ฝนตกในพื้นที่ แม้จะเบาบางในบางจุดของเทศบาลเมือง แต่ระดับน้ำฝนที่สะสมบนเทือกเขาพนมดงรักยังคงไหลบ่าลงลำห้วยต่อเนื่อง บ้านเรือนมีน้ำท่วมสูง ชาวบ้านบางส่วนอพยพไปพักที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวที่อ.กันทรลักษณ์จัดไว้ให้ นายทรงชัย รุจิรารังสรรค์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองกันทรลักษ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำบางจุดสูงถึง 1 เมตร บางจุด 70-80 ซม. จึงยังต้องติดตามปริมาณฝนที่ตกจากเทือกเขาพนมดงรักใกล้ชิด มวลน้ำขณะนี้ไหลไปยังพื้นที่บ้านขะยูง จากนั้นจะไหลต่อไปยังเขตพื้นที่บ้านนากันตม ต.สังเม็ก และบ้านไร่เจริญ ต.จานใหญ่ ก่อนจะไหลต่อเข้าไปยังอ.เบญจลักษ์ และอ.โนนคูณต่อไป
อุบลฯน้ำโขงยังขึ้นสูงต่อเนื่อง
เช้าวันเดียวกัน ระดับน้ำโขงในอ.เขมราฐ อ.นาตาล อ.โพธิ์ไทร อ.ศรีเมืองใหม่และอ.โขงเจียม ยังเพิ่มระดับสูงขึ้นต่อเนื่อง เฉลี่ยวันละ 50 เซนติเมตร ทำให้น้ำในลำห้วยสาขาเอ่อล้นฝั่งเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ถนน ที่นา และไร่มันสำปะหลังเป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะเขตเทศบาลตำบลเขมราฐ อ.เขมราฐ บ้านเรือนชาวบ้านในชุมชนโนน-นารีและชุมชนเทพนิมิตถูกน้ำท่วมสูง เทศบาลตำบลเขมราฐจัดสถานที่ ให้ชาวบ้านเคลื่อนย้าย สัตว์ สิ่งของมาไว้ในที่ปลอดภัย
ยโสธรน้ำชีทะลักท่วมเทศบาลเมือง
มีรายงานสถานการณ์แม่น้ำชีที่ไหลผ่านอ.เมือง จ.ยโสธรว่า มีระดับสูงกว่าแนวป้องกันบางจุด น้ำเริ่มทะลักเข้าท่วมชุมชนบ้านท่าศรีธรรม เทศบาลเมืองยโสธร ชาวบ้านต้องอพยพขนย้ายสิ่งของเครื่องใช้อย่างโกลาหล หลังน้ำในลำน้ำชีเพิ่มระดับขึ้น จนล้นถุงบิ๊กแบ็กที่สร้างเสริมพนังกั้นน้ำ ไหลทะลักหลากเข้าท่วมชุมชนอย่างรวดเร็วไม่ถึง 2 ชั่วโมงน้ำท่วมสูงถึง 50 เซนติเมตร น้ำมาเร็วจนชาวบ้านขนของไม่ทัน ข้าวของถูกน้ำท่วมเสียหาย บ้านเรือนได้รับผลกระทบมากกว่า 200 ครัวเรือน
นายสมเพชร สร้อยสระคู รองผู้ว่าราลการจังหวัดยโสธรกล่าวว่า ตอนนี้น้ำชีสูงกว่าระดับของแนวป้องกันที่ทำไว้ ไหลเข้าท่วมชุมชนที่อยู่ด้านล่าง แต่พื้นที่เศรษฐกิจ ยังมีถนนเขื่อนธานีเป็นแนวป้องกันอยู่ ซึ่งต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำใกล้ชิด ถนนด้านข้างวัดสิงห์ท่ามีน้ำท่วมสูงขึ้นต่อเนื่อง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี