9 กันยายน 2562 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมว.ศธ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีมอบรางวัล “พระพฤหัสบดี” และรางวัล “ปิยชนน์ คนการศึกษา” พร้อมเกียรติบัตร แก่ผู้บริหารสถานศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษา ที่มีการประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีในการครองตน ครองคน ครองงาน รวม 750 คน ในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนาสำนักงานคณะกรรมการ สกสค. ครบรอบ 16 ปี โดยมีนายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. ผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา สกสค.ให้การต้อนรับ
นายณัฏฐพล กล่าวว่า สกสค.เป็นหน่วยงานที่ มีภารกิจสำคัญทางการศึกษา ก่อตั้งมา 16 ปีแล้ว ตาม พ.ร.บ.สภาครูและบุคลากรการศึกษา พ.ศ.2546 ช่วยส่งเสริมสวัสดิการสวัสดิภาพ สิทธิประโยชน์เกื้อกูล ความมั่นคงในวิชาชีพครู ส่งเสริมความสามัคคีและผดุงไว้ซึ่งเกียรติของครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งภารกิจนี้เหมือนที่ตนตั้งใจไว้ คือการเสริมสร้างขวัญและกำลังใจให้กับครูและบุคลากรทางการศึกษา ในฐานะผู้ที่สร้างเด็กและเยาวชนที่จะเติบโตมาเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติในอนาคต
ดังนั้น ตนอยากให้ผู้ที่ได้รับรางวัลเกียรติยศในวันนี้คิดถึงเพื่อนครูที่ร่วมงานอยู่ในสถานศึกษาเดียวกัน โดยแชร์สิ่งที่ครูทำประโยชน์จนได้รับรางวัลให้กับเพื่อนครู เพื่อสร้างความสามัคคีซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในโรงเรียน ในสังคมและประเทศ วันนี้ก็เป็นแค่แนวทางหนึ่งที่คัดเลือกให้ผู้ได้รับรางวัล ซึ่งกระทรวงศึกษาฯ มีรางวัลอีกมากมายก็หวังว่าจะมีโอกาสตอบสนองคุณงามความดีของครูและบุคลากรทางการศึกษา
“วันนี้เป็นโอกาสดีที่ผมได้มาพบครูที่มาจากต่างจังหวัดและส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ อยากบอกว่า การขับเคลื่อนประเทศไทยไปข้างหน้า สร้างประเทศไทยให้แข็งแรงในอนาคต ในโลกแห่งการแข่งขั้นที่เข้มข้น ดุเดือดและรวดเร็วเราต้องต่อยอด เพราะกระทรวงศึกษาฯ เครือข่ายครูและบุคลากรทางการศึกษามีสิ่งดีๆที่ทำอยู่เยอะ และครูต้องแชร์สิ่งดีมีประโยชน์เพื่อปลุกขวัญกำลังใจให้เพื่อนครูทำในสิ่งที่ดีถึงแม้จะไม่ได้รางวัล และนอกเหนือจากการต่อยอดแล้วเราต้องกลับมาดูการศึกษาของเรา ถ้าใครคิดว่าการศึกษาของประเทศไทยถึงจุดสุดยอดแล้ว เรากำลังหลอกตัวเอง เราต้องรู้ซึ้ถึงปัญหาของเราและต้องมีการแชร์แลกเปลี่ยนเรียนรูเพื่อให้การศึกษาของประเทศไทยดีขึ้น กระทรวงศึกษาฯและผู้บริหารต้องพร้อม และเปิดโอกาสในการรับฟังความคิดเห็น ดูแนวทางที่อาจจะไม่เหมือนเดิม แนวทางที่อาจจะทำได้ยาก บางเรื่องอาจจะมองว่าเป็นไปไม่ได้ แต่เราต้องทำ ประเทศไทยไม่มีทางเลือกที่จะมีการศึกษาที่อ่อนแอ ตนพูดอยู่เสมอว่าครูเป็นบุคคที่สำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนการศึกษาไทย ไม่ได้พูดเพื่อเอาใจครู แต่ครูต้องมั่นใจว่าจะสามารถเชื่อมต่อระหว่างความรู้กับเยาวชน แต่ความรู้ในศตวรรษที่ 21 นั้นแตกต่างจากที่เราปฏิบัติหรือคุ้นเคย โลกเทคโนโลยี โลกแห่งภาษาเข้ามาครอบงำ การเจริญเติบโตของเศรษฐกิจของประเทศเราจึงต้องปรับและกล้าที่จะรับว่าหากพูดถึงเทคโนโลยีและภาษาที่ 2-3 ทักษะในการเรียนรู้วิธีการเรียนการสอนเรามีช่องที่จะปรับปรุงได้ หากเราปิดช่องเราจะไม่กล้าทำอะไรเลย และเราจะแข่งขันไม่ได้ เยาวชนที่อายุตั้งแต่ 1-20 ปี คือคนที่จะแบกรับภาระของประเทศไทยในอนาคต ฉะนั้น ถ้าเราไม่เสริมสร้างให้แข็งแกร่งก็จะไม่สามารถแบกรับเศรษฐกิจแบกรับภาระของประเทศได้”
รมว.ศธ. กล่าวต่อว่า ประเทศไทยมีความพร้อมในหลายๆด้าน ทั้งด้านภูมิศาสตร์ ขนบธรรมเนียมประเพณี สิ่งที่เราขาดคือขาดคนมีความรู้ความสามารถในหลายๆด้านที่จะทำให้ประเทศไทยขึ้นไปสู่จุดสูงสุดที่ประเทศไทยสามารถไปได้ ดังนั้น เราต้องมาช่วยกัน และคนที่จะทำให้เยาวชนของเราแข็งแกร่งคือคุณครู จึงต้องหาโอกาสพัฒนาครูให้ทันกับศตวรรษที่ 21คำพูดนี้ไม่ใช่การดูถูกความรู้ความสามารถของครู มั่นใจว่าจิตใจของความเป็นครู ความตั้งใจที่จะมอบสิ่งดีๆให้กับเด็กและเยาวชน 95% ของครูใจเกินล้าน แต่โลกเปลี่ยนไปเร็วมาก ถ้าเรามีเด็กและเยาวชนที่เจริญเติบโตไปเป็นบุคลากรทรัพยากรที่แข็งแรงแข็งแกร่งก็จะทันสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงได้ อย่าสนใจว่าเด็กต้องมีความสามารถสร้างคอมพิวเตอร์หรือเก่งเท่าคอมพิวเตอร์ แต่เราต้องสร้างทักษาเด็กและเยาวชนของเราให้ควบคุมคอมพิวเตอร์ ในอนาคตเมื่อโลกเปลี่ยนแปลง เราจึงต้องสอนให้เด็กและเยาวชนของเราให้มีศักยภาพในการปรับตัวมีความยืดหยุ่นที่จะต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของโลกได้
“จึงฝากคุณครูที่จะต้องมาร่วมกันทำในสิ่งที่เราอาจจะมองว่ายาก อาจจะไม่เคยทำ อาจจะมองว่าไม่มีคนให้ความสนใจ รัฐบาลนี้ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทร์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสนใจอย่างยิ่ง และให้ความสนใจมากที่สุด มากกว่าทุกๆหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น จึงขอให้พวกเรา ครูออกมาโชว์ว่าความสามารถของกระทรวงศึกษาฯที่ผมมั่นใจว่ามีมาก และในช่วง 40 วันที่ผมเข้ามาบริหารศธ.ได้พบปะพูดคุยกับผู้บริหาร ผอ.โรงเรียน ครู นักเรียน ผู้ปกครอง พื้นฐานในการคิดไม่แตกต่างไปจากครู นักเรียน ผู้ปกครองที่อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริการ หรืออังกฤษเลย เหลือแต่การสอน ทักษะในบางเรื่อง เช่น ทักษาในการคิดที่ต้องทันต่อสถานการณ์ และจากที่ดูนิทรรศการที่เด็กๆทำเหมือนกันหมดโรงเรียนสุดท้ายราคาผลผลิตก็ตก และแข่งขันไม่ได้ ดังนั้น เราต้องคิดทำเรื่องใหม่ๆหรือทีกต่างกัน จึงฝากคุณครูช่วย” รมว.ศธ. กล่าว
นายณัฏฐพล กล่าวอีกว่า วันนี้ดีใจและภูมิใจที่ได้มาอยู่ท่ามกลางคุณครูที่ได้รับรางวัล ซึ่งน่าจะเป็นหลักในการขับเคลื่อนนโยบายและสิ่งที่กระทรวงศึกษาฯอยากให้มีการต่อยอดและปรับปรุงพัฒนา ก็ขอให้ช่วยกระจายความตั้งใจ ผู้บริหารของศธ.ทุกคน ไม่ต้องกังวลในสิ่งที่ผ่านมาในอดีต สิ่งที่ทำแล้วไม่ประสบความสำเร็จ ขอให้มุ่งมองไปข้างหน้า เราต้องมีวิศัยทัศน์ในการเดินไปข้างหน้าและหมดเวลาแล้วที่จะมาพูดแล้วส่งกระดาษรายงานกัน ถึงเวลาแล้วที่เราต้องทำให้เห็นผลลับที่จับต้องได้ ตนบริหารศธ.มา 40 วัน ถ้านั่งรอรับรายงานข้อมูลก็คงไม่ได้ตัดสินใจในหลายๆเรื่องที่เกี่ยวกับครู ที่จะเริ่มผลักดันช่วยเรื่องขวัญกำลังใจ เช่น เรื่องหนี้สินครู ว่าพื้นฐานของปัญหาคืออะไร การปล่อยเงินกู้ยืมง่ายไปหรือไม่ทำให้หลายคนมีหนี้สินเกินตัว แก้ไขวัฒนธรรมการใช้ชีวิต และดูเรื่องวิทยฐานะ การปรับวิทยะฐานะอาจจะไม่ทันสมัยต่อโลกปัจจุบัน วิธีการประเมิน การติดตามผลงาน การสร้างผลงาน การวัดผลงานมีอยู่หลายวิธี จึงขึ้นอยู่กับศธ.ว่าจะทำหลักสูตรหรือโครงการต่างๆให้เป็นที่ยอมรับของครูได้หรือไม่ จึงอาจจะต้องรื้อระบบพอสมควร แต่จะต้องสื่อสารให้ครูเข้าใจการปรับเปลี่ยนการทำวิทยฐานะนอกจากนี้ ตนได้ดูหลักสูตรที่จะทำให้ครูมีเวลาอยู่ในห้องเรียน รวมถึงเงินที่จะต้องจ่ายครูธุรการ พารโลง ไม่ใช้ปลายปีงบประมาณไม่มีเงินจ่ายแต่ยังมีการจัดสัมนาและเดินทางไปดูงานต่างประเทศซึ่งควรจะนำเงินส่วนนั้นมาจ่ายในส่วนที่ค้าง ซึ่งโรงเรียนจะบริหารจัดการภายในให้ได้
รมว.ศธ. กล่าวถึง ปัญหาโครงการอาหารกลางวัน เป็นความรับผิดชอบของ ผอ.โรงเรียนเป็นหลัก หากผอ.โรงเรียน สามารถเข้าถึงเอาใจใส่และหมั่นตรวจสอบพูดคุยกับแม่ครัวทุกวันหรือมีคนไปดู ปัญหานี้ก็จะไม่มีถ้ามีก็น้อยมาก ไม่ได้บอกว่าจะไม่เกิดขึ้นเลย เพราะในจิตใจของแต่ละคนที่เห็นประโยชน์ของตัวเองหรือประโยชน์ของกลุ่มคนมากกว่าประโยชนของเด็กนักเรียนก็ยังมีอยู่ แต่ตนมั่นใจว่าถ้าผอ.โรงเรียน หรือผู้บริหารเขตพื้นที่การศึกษา ผู้บริหารศึกษาธิการภาค ให้ความใส่ใจเดินดู คิดว่าปัญหานี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นมากมายอย่างที่เราเห็นกันอยู่ จะปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบั่นทอนจิตใจไม่ได้ แต่ก็ขอชื่นชมโรงเรียนส่วนใหญ่ที่ทำแล้วไม่มีปัญหา และในฐานะผู้บริหารกระทรวงก็ขอส่งสัญญาณ ขอให้เราทุกคนมาร่วมกันผลักดันสร้างประวัติศาสตร์การศึกษาไทยได้แน่นอนใครที่ไม่อยากร่วม ใครที่คิดว่าเป็นเรื่องไร้สาระ เราไม่คอย เพราะตนมั่นใจว่ามีคนมากกว่า 90% พร้อมจะเดินไปกับเรา ส่วนการพัฒนาครูในระยะเวลาอันใกล้นี้ ก็จะมีการทดลองในบางส่วน และนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ ขณะนี้ได้จัดเตรียมงบฯแล้วในการนำร่องในบางพื้นที่ ยืนยันว่ากระทรวงศึกษาฯมีอะไรหลายๆอย่างที่เราสามารถต่อยอดได้ ซึ่งทีมงานได้ลงไปดูแล้ว สิ่งที่เราต้องทำความเข้าใจในโลกของการแข่งขันในปัจจุบันนั้นคือความต้องการของตลาดว่าคืออะไร และต้องสร้างเยาวชนของเราให้มีความพร้อมต่อความต้องการของตลาด มั่นใจว่าศธ.เราทำได้
รมว.ศธ.กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการทำงานของ สกสค.นั้น เป็นหน่วยงานที่รองรับสวัสดิการและสวัสดิภาพของครูและบุคลากรทางการศึกษา และตนก็ให้ความสนใจเพราะการบริหารกองทุน สกสค.ซึ่งมีเงินอยู่เป็นจำนวนมาก ว่าจะทำอย่างไนจึงจะมีประสิทธิภาพและมีผลตอบแทนสูงสุดให้กับครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยที่ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน หรือผลประโยชน์ที่ทำให้เกิดปัญหา และได้พยายามลดความขัดแย้งที๋มีอยู่ใน สกสค.ให้ลดลง ส่วนจะทำได้หรือไม่ต้องรอดู ตนมั่นใจว่าถ้าเราตั้งใจทำงานร่วมกันปัญหาต่างๆต้องก้าวข้ามไปได้ หากประเทศจะเริ่มปฏิรูปอย่างจริงจังจะต้องเริ่มที่กระทรวงศึกษา ไม่เช่นนั้นใน 5-10 ปีข้างหน้า เราจะไม่ได้บุคลากรที่แข็งแรงที่สุดสำหรับการแข่งขัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี