เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2562 พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.เชิดพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี และ นายสราวุธ ภักดี ผู้อำนวยการฝ่ายบังคับใช้กฎหมาย ปปส.ภาค 8 นำตัว นายสมพงษ์ หรือน้าขลุด เรืองศรีอายุ 63 ปี ผู้ต้องหา เครือข่ายยาเสพติดระดับแกนนำในพื้นที่เกาะสมุย ตามหมายจับศาลจังหวัดเกาะสมุย ที่ 6/2562 ลงวันที่ 16 มกราคม 2562 ข้อหาจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือไอซ์) ขึ้นเฮลิคอปเตอร์จากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี เดินทางมายังเกาะสมุย เพื่อนำเข้าตรวจค้นภายในบ้านเลขที่ 80/2 หมู่ 6 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ที่เปิดเป็นสำนักงานห้างหุ้นส่วนจำกัดเรืองศรีกรุ๊ฟ บริการรถตู้วีไอพี ใช้เช่าทั่วราชอาณาจักร ซึ่งจากการตรวจค้นสามารถยึดปืนพกสั้นได้ 4 กระบอก และรถตู้ 2 คัน ไว้เป็นของกลาง
พล.ต.ต.อภิชาติ กล่าวว่า ได้เพ่งเล็งติดตามจับกุมกลุ่มเครือขายยาเสพติดในพื้นที่ 3 เกาะ คือ เกาะสมุย , เกาะพะงัน และเกาะเต่า ว่ายาเสพติดลงมาในพื้นที่ทางไหนบ้าง ทั้งทางเรือโดยสารเรือเฟอร์รี่ ทางไปรษณีย์ ขนส่งบริษัทเอกชน ได้เก็บข้อมูลเครือข่ายทั้งหมด และศึกษาย้อนหลังไป 5 ปี และติดตามจับกุมผู้ต้องหา แต่บางครั้งที่ไม่สามารถจับผู้ต้องหาที่เกาะสมุยได้ เพราะข่าวรั่วตลอด จึงได้ส่งเจ้าหน้ที่ตำรวจลงมาแฝงตัวหาข่าวบนเกาะสมุยทั้งเดือน จนได้ข้อมูลและสามารถออกหมายจับ 21 หมาย ซึ่งติดตามจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติดมาได้ 16 หมายจับแล้ว
การอยู่เบื้องหลังและมีประวัติเคยถูกจับกุมยาเสพติดมาก่อนเมื่อปี 2547 และได้มาขยายผลตรวจสอบบ้านพักของผู้ต้องหาว่าได้มาอย่างไร มีที่มาที่ไปอย่างไร แต่เบื้องต้นชุดจับกุมได้ยึดรถตู้ไว้ 2 คัน อาวุธปืน 5 - 6 กระบอก ถ้าเป็นปืนถูกกฎหมายก็จะเป็นเรื่องการยึดทรัพย์ ตาม พ.ร.บ.มาตรการป้องกันปราบปรามยาเสพติด แต่ถ้าเป็นปืนเถื่อนหรือปืนผิดกฎหมาย ก็จะใช้การดำเนินคดี
มีรายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าพนักงาน ปปส.ภาค 8 จะดำเนินการยึดทรัพย์สินในเครือข่ายธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งหมดของนายสมพงษ์ โดยพบว่าเครือข่ายของนายสมพงษ์ ได้มีการนำเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติดในพื้นที่เกาะสมุย และแหล่งท่องเที่ยวอื่นไปทำธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการเช่ารถยนต์การทำธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งที่ผ่านมามีการอ้างชื่อนายตำรวจระดับสูงนายหนึ่งในสังกัดตำรวจภูธรภาค 8 ที่มีหุ้นส่วนในธุรกิจรถเช่าและธุรกิจท่องเที่ยวดังกล่าวด้วย ส่วนรถตู้เอนกประสงค์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลพาร์ด สีดำ ทะเบียน 1177 สุราษฎร์ธานี ที่เคยใช้รับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่เดินทางมาปฏิบัติภารกิจที่เกาะสมุย จอดอยู่ในโรงจอดรถ ใกล้กับบ้านของผู้ต้องหานั้น ตรวจสอบแล้วพบว่าเจ้าของรถคันดังกล่าวเป็นเครือญาติกับผู้ต้องหา แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของผู้ต้องหาแต่อย่างใด
สำหรับนายสมพงษ์ ผู้ต้องหา ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้เมื่อวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา ในพื้นที่ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช พร้อมตรวจยึดรถเก๋ง ยี่ห้อเบนช์ 1 คัน รถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า 1 คัน สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท นาฬิกายี่ห้อหรู 2 เรือน และเงินฝากในบัญชีธนาคารกว่า 10 บัญชี รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 5 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ นายสมพงษ์เคยถูกจับคดีจำหน่ายยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ.2545 ถูกยึดทรัพย์ 21 รายการ มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท แต่ได้พ้นโทษเมื่อปี 2554
อย่างไรก็ตาม นายสมพงษ์ยังมีพฤติการณ์จำหน่ายยาเสพติดรายใหญ่บนเกาะสมุย และเป็นเครือข่ายเดียวกับ นายเสรี ช่วยชนะ พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ใน จ.สุราษฎร์ธานี ที่ถูกจับก่อนนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี