นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวเปิดประชุมและนิทรรศการข้าวเพื่อความยั่งยืน ครั้งที่ 2 หัวข้อ การก้าวข้ามไปสู่ข้าวเพื่อความยั่งยืน “Business Unusual: A cross-cutting towards sustainable rice” ณ ศูนย์ประชุมแห่งสหประชาชาติ (UN) ประเทศไทยว่า ข้าว เป็นสินค้าเกษตรที่สำคัญกับประเทศไทย เป็นอาหารเลี้ยงประชากรโลกกว่า 3,500 ล้านคน โดยประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกข้าวประมาณ 70 ล้านไร่ หรือเกือบ 50% ของพื้นที่ทำการเกษตร มีเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเกือบ 4 ล้านครัวเรือน มีมูลค่าส่งออกประมาณ 5.8 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี อย่างไรก็ตาม ภาคเกษตรต้องเผชิญกับความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภัยธรรมชาติ อุทกภัย ภัยแล้ง โรคและแมลงศัตรูพืชระบาดซึ่งทำให้ผลผลิตข้าวเกิดความเสียหาย นอกจากนี้เกษตรกรรายย่อยยังต้องเผชิญความผันผวนของราคาข้าวในตลาดโลก ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ส่งผลให้รายได้และชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรลดลง
กระทรวงเกษตรฯจึงมีนโยบายดำเนินการเกี่ยวกับระบบการผลิตข้าวอย่างยั่งยืน โดยการกำหนดยุทธศาสตร์ข้าวไทย พ.ศ. 2560-2564 มุ่งให้ประเทศไทยเป็นผู้นำพัฒนาระบบการค้าข้าว โดยใช้กลไกการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นแหล่งผลิตข้าวที่มีประสิทธิภาพ มีคุณภาพข้าวเป็นเลิศเป็นที่ต้องการของตลาด รวมทั้งชาวนาต้องมีความเป็นอยู่ที่ดี องค์กรชาวนาเข้มแข็งและมั่นคง ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพข้าวของไทยให้สูงขึ้น เป็นที่ยอมรับของตลาดทั้งในและนอกประเทศ ผ่านโครงการที่สำคัญๆ อาทิ โครงการแผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร โครงการเกษตรแปลงใหญ่ ตลอดจนนโยบายเกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์
นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน เกษตรกร และองค์การระหว่างประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับความร่วมมือเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) อาทิ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดภาวะโลกร้อนจากการทำนาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Nationally AppropriateMitigation Action [NAMA] Facility) ร่วมกับประเทศเยอรมนี สหราชอาณาจักร เดนมาร์ก และสหภาพยุโรป และโครงการส่งเสริมการเพาะปลูกข้าวอย่างยั่งยืน ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวรายย่อยของไทย ใน จ.อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด และสุรินทร์ โดยใช้มาตรฐาน Sustainable Rice Platform(SRP) ร่วมกับหน่วยงาน GIZ, Olam และ MARS เป็นต้น
“สำหรับด้านการวิจัยและพัฒนา พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงทุ่มเทและให้ความสำคัญกับงานด้านข้าวมาโดยตลอด และทรงมีพระราชดำริให้ดำเนินการเกี่ยวกับการวิจัยและพัฒนาข้าวในโครงการส่วนพระองค์ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รวมทั้งทรงสนับสนุนการวิจัยข้าวโดยในโอกาสที่ทรงครองราชย์ครบ 70 ปีและทรงงานด้านข้าวมาอย่างต่อเนื่องคณะรัฐมนตรีจึงมีมติเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2559 ให้เฉลิมพระเกียรติล้นเกล้ารัชกาลที่ 9เป็นบิดาแห่งการวิจัยและพัฒนาข้าวไทย ตลอดจนกระทรวงเกษตรฯ ได้พัฒนาการวิจัยข้าวอย่างต่อเนื่อง จากการดำเนินการก่อตั้งศูนย์ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว 30 ศูนย์ และศูนย์วิจัยข้าว 27 ศูนย์ เพื่อให้ได้ข้าวที่มีคุณภาพ พร้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงของรัชกาลที่ 9 มาปรับใช้ดำเนินงาน เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของเกษตรกร” รมช.เกษตรฯกล่าว
ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าว เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ดี และข้อมูลด้านการตลาด นโยบาย กลไกการเงิน เทคโนโลยี นวัตกรรมที่เปลี่ยนผ่านและยกระดับการผลิตข้าวอย่างยั่งยืน รวมทั้งจัดแสดงความสำเร็จของประเทศในการดำเนินการพัฒนาระบบการผลิตข้าวแบบยั่งยืนที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ รมช.เกษตรฯได้มอบข้าวพันธุ์ กข.43 ผลิตโดยกลุ่มเกษตรกรนาแปลงใหญ่ ต.เดิมบาง อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นกลุ่มนำร่องภายใต้โครงการ Thai Rice NAMA ที่ปรับวิธีคิดทำนา โดยมุ่งเน้นเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุนการผลิตและพัฒนาคุณภาพข้าว ให้ผู้เข้าร่วมประชุมด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี