“โฆษกศาลยุติธรรม” แจงระเบียบตรวจร่างคำพิพากษา ลักษณะคดีประเภทไหนเข้าเกณฑ์ต้องส่งให้อธิบดีผู้พิพากษาภาคตรวจร่างฯ ส่วนหลักเกณฑ์คู่มือบังคับให้เป็นมาตรฐานไม่ใช่การแทรกแซง หากองค์คณะยืนยันผลคำวินิจเดิมไม่มีสิทธิเปลี่ยนแปลงได้ อธิบดีอธิบดีผู้พิพากษาภาคทำได้แค่ความเห็นแย้งแนบท้ายคำพิพากษา
8 ตุลาคม 2562 นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม อธิบายถึงกระบวนการขั้นตอนการออกคำพิพากษาศาลชั้นต้น และการตรวจร่างคำพิพากษาของอธิบดีผู้พิพากษาภาค ว่า เรื่องการตรวจร่างคำพิพากษาของศาลภาคไม่ใช่การแทรกแซงดุลพินิจ อธิบดีผู้พิพากษาภาคมีอำนาจในการตรวจร่างคำพิพากษาและทำความเห็นแย้งได้ตามกฎหมาย
สำหรับวิธีการตรวจร่างฯนั้น เดิมประธานศาลฎีกาเคยออกคำแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติงานคดีในสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาคตั้งแต่ปี 2555 และต่อมามีระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมว่าด้วยมาตรฐานการรายงานคดีและการตรวจสำนวนคดีในสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค พ.ศ.2560 ระบุเรื่องนี้ไว้ ซึ่งต่อมามีการแก้ไขในปี 2562 ออกเป็นระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมว่าด้วยการรายงานคดีสำคัญในศาลชั้นต้นและศาลชั้นอุทธรณ์ต่อประธานศาลฎีกา และการรายงานคดีและการตรวจสำนวนคดีในสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค พ.ศ.2562 ที่ประธานศาลฎีกาได้ลงนามเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2562 จึงเห็นได้ว่าในเรื่องการตรวจร่างคำพิพากษาเป็นวิธีการควบคุมคุณภาพคำพิพากษาที่มีระเบียบปฏิบัติรองรับชัดเจน
สำหรับข้อสรุปที่น่าสนใจดังนี้ กำหนดให้อธิบดีผู้พิพากษาภาคมีอำนาจตรวจสำนวนคดีสำคัญ ได้แก่ คดีเกี่ยวกับความมั่นคง , ความผิดเกี่ยวกับก่อการร้าย , คดีทุกประเภทที่อัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกิน 10 ปี หรือโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต , คดียาเสพติดที่มีการครอบครองเพื่อจำหน่ายหรือจำหน่ายจำนวนปริมาณมาก หรือผลิตและนำเข้ายาเสพติด
ส่วนคดีแพ่งจะเป็นคดีที่มีจำนวนทุนทรัพย์พิพาทตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไปกรณีที่สถาบันการเงินเป็นโจทก์ต้องมีทุนทรัพย์ พิพาท 10 ล้านบาทขึ้นไป , คดีละเมิดอำนาจศาล ,คดีไต่สวนชันสูตรพลิกศพ และในส่วนสุดท้ายจะเป็นคดีที่มีความสำคัญเกี่ยวด้วยตัวบุคคลหรือบุคคลที่มีชื่อเสียง เช่น คดีที่มีคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือผู้เสียหายเป็นนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ส.ส. ส.ว. นักการเมือง ผู้พิพากษา อัยการ และองค์กรอิสระต่างๆ รวมถึงข้าราชการพลเรือนระดับอธิบดีขึ้นไป หรือหน่วยงานรัฐวิสากิจ ที่เป็นระดับผู้อำนวยการ ผู้ว่าการ นายทหารหรือตำรวจที่มียศนายพลขึ้นไป หรือเป็นคดีที่มีพฤติการณ์แห่งการกระทำเป็นที่น่าสนใจของประชาชน
คดีที่อาจกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือรูปแบบเป็นลักษณะองค์กรอาชญากรรม คดีที่เป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ คดีที่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ คดีที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ความผิดตาม พ.ร.ก.ประมง คดีเกี่ยวกับความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นต้น
ส่วนการตรวจร่างคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้น การส่งร่างคำพิพากษา ควรให้มีระยะเวลาการตรวจ ไม่น้อยกว่า 15 วันทำการโดยพิจารณาเหมาะสมและสอดคล้องกับปริมาณคดีเพื่อไม่ให้กระทบต่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม อธิบดีผู้พิพากษาภาคอาจจ่ายสำนวนและร่างคำพิพากษาหรือคำสั่งให้รองอธิบดีผู้พิพากษาภาคช่วยตรวจได้หรือยังสามารถจ่ายสำนวนมาให้ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลประจำสำนักงานอธิบดีฯหรือผู้พิพากษาอาวุโสช่วยตรวจ ซึ่งเมื่อตรวจแล้วให้เสนออธิบดีผู้พิพากษาภาคหรือรองอธิบดีฯผู้ได้รับมอบหมายพิจารณาให้ความเห็น
โดยการตรวจร่างคำพิพากษาหรือคำสั่งนอกจากจะตรวจสอบให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในคู่มือปฏิบัติราชการของตุลาการ เช่น รูปแบบคำพิพากษา การใช้ถ้อยคำในตัวบทกฎหมายแล้ว ยังต้องรักษาแนวบรรทัดฐานของคำพิพากษาหรือคำสั่ง และให้การใช้ดุลพินิจของศาลเป็นไปโดยถูกต้องในแนวทางเดียวกัน ในกรณีที่ต่างไปจากแนวบรรทัดฐานควรมีเหตุผลพิเศษและให้แสดงเหตุผลพิเศษไว้ในร่างคำพิพากษาเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวต่อด้วยว่า ขั้นตอนการตรวจร่างตามระเบียบนี้ เป็นกรณีที่กำหนดให้ข้าราชการฝ่ายตุลาการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายเพื่อให้การอำนวยความยุติธรรมเป็นไปโดยรวดเร็ว เป็นธรรมและปราศจากอคติทั้งปวงและเพื่อให้กิจการของศาลยุติธรรมดำเนินไปโดยเรียบร้อยและเป็นระเบียบเดียวกันโดยมีมาตรฐานที่ชัดเจน และเหมาะสม การตรวจร่างคำพิพากษาจึงเป็นขั้นตอนตามกฎหมายที่มีเจตนารมณ์ให้ผู้พิพากษาที่มีประสบการณ์มากกว่าได้ช่วยเหลือองค์คณะผู้พิพากษาตรวจทาน กลั่นกรองคำพิพากษาเพื่อให้คำพิพากษาของศาลยุติธรรมเป็นหลักประกันความเป็นธรรมให้แก่ ทุกฝ่ายได้อย่างแท้จริง
ขณะเดียวกันก็ประกันความเป็นอิสระแก่องค์คณะผู้พิพากษาด้วย โดยหาก องค์คณะยืนยันตามความเห็นเดิม อธิบดีผู้พิพากษาภาคก็จะบังคับให้เปลี่ยนแปลงผลคำพิพากษาไม่ได้ อธิบดีผู้พิพากษาภาคมีสิทธิแค่ทำบันทึกความเห็นแย้งติดสำนวนไว้เพื่อให้เกิดสิทธิในการอุทธรณ์ฎีกาต่อไปเท่านั้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี