‘บิ๊กสพฐ.’ฮึ่ม!งาบอาหารกลางวันโผล่อีก‘ผอ.’รับผิดด้วย ปิ๊งไอเดียออนไลน์สแกนผู้บริหาร
9 ตุลาคม 2562 นายอำนาจ วิชยานุวัติ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายผู้บริหารของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ว่า ตนได้ชี้แจงเรื่องการทำงาน การพัฒนาการศึกษาให้มีคุณภาพ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยจะไม่ใช้ผู้เรียนเป็นตัวประกัน และได้เน้นย้ำนโยบายที่นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมว.ศธ.) ที่ได้มอบหลักการทำงานให้กล้าคิด กล้าเสนอ กล้าเปลี่ยนแปลง ร่วมมือร่วมใจ ทำงานให้หนัก รวมถึงนโยบายการรัดเข็มขัดเรียบง่าย ลดงานพิธีการต่างๆ ลดดอกไม้ เช่น การจัดสัมมนาให้ใช้โรงเรียนหรือสถานที่ที่มีอยู่ หรือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจัดสัมมนา หรือจัดอบรมพัฒนา และงดการจัดอีเว้นท์ รวมถึงให้งดการเดินทางไปดูงานต่างประเทศ แม้จะมีหน่วยงานอื่นเชิญมาพร้อมจัดงบประมาณมาให้ด้วย ก็ต้องขอดูเป็นกรณี เพราะการเดินทางไปต้องใช้เวลาราชการ เพื่อให้นำงบส่วนนี้มาพัฒนาผู้เรียน แต่ไม่ใช่งดการเดินทางไปแข่งโอลิมปิกวิชาการ หรืองดการเดินทางไปประชุมยูเนสโก
นายอำนาจ กล่าวต่อว่า ได้มีการแบ่งงานให้กับผู้บริหาร สพฐ. โดยในส่วนรองเลขาธิการกพฐ. ทั้ง 3 คน ให้นายอัมพร พินะสา รองเลขาธิการ กพฐ. ดูการบริหารงานบุคคล ทั้งการแต่งตั้ง โยกย้าย วินัย และการพัฒนาครู , นายพีระ รัตนวิจิตร ดูเรื่องวิชาการทั้งหมด และนายสนิท แย้มเกษร ดูเรื่องอำนวยการ การคลังและเทคโนโลยี ส่วนผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. ซึ่งมีอยู่ 5 คน ให้กำกับงานในพื้นที่ทั้งภาคเหนือ กลาง ตะวันออก ภาคใต้ และ 3 จังหวัดชายแดนใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งในการทำงานทุกคนจะต้องรับผิดรับชอบ ไม่ใช่เดินแกว่งไปมา แล้วรับแต่ความชอบอย่างเดียว การทำงานเป็นทีมต้องเข้มแข็ง เพราะสพฐ.เป็นองค์กรใหญ่ทำงานคนเดียวไม่ได้
“แนวทางการทำงานจากนี้จะเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ให้โรงเรียนมีอำนาจเต็มในการบริหารจัดการ ผู้อำนวยการโรงเรียนจะต้องรับผิดรับชอบด้วย เช่น ถ้ามีปัญหาเรื่องอาหารกลางวัน ผู้อำนวยการโรงเรียนจะต้องรับผิดชอบ และการกระจายอำนาจให้โรงเรียน ใช้โรงเรียนเป็นฐาน ครูต้องอยู่ในห้องเรียน อยู่กับเด็ก เพื่อให้เด็กได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่ โดยจะจัดสรรอัตรากำลัง ทรัพยากร ให้ตามความต้องการ ให้กรรมการสถานศึกษามีบทบาทหน้าที่ที่เข้มแข็ง จะให้ครูและผู้บริหารโรงเรียนเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาการศึกษา โดย สพฐ.จะเป็นหน่วยงานสนับสนุนเท่านั้น” นายอำนาจ กล่าว
รักษาราชการแทนเลขาธิการ กพฐ. กล่าวด้วยว่า สำหรับผู้บริหารโรงเรียนในยุคใหม่ จะต้องเก่งและมีความสามารถ โดยรับนโยบายจาก รมว.ศธ. ว่าต้องมีกระบวนการในการสรรหา อย่างแรกต้องมีการคัดกรอง ว่า สามารถจะเป็นผู้บริหารได้หรือไม่ มีข้อสอบเชิงออนไลน์ โดยดึงของเดิมที่มีอยู่และมาจัดทำให้เติมเต็ม เพื่อสแกนทักษะความสามารถด้านต่างๆ เช่น ด้านดิจิทัล ภาษอังกฤษ ความสามารถในการบริหารการศึกษา การบริหารสถานศึกษา
อย่างไรก็ตามการคัดกรองเพื่อสกรีนคุณสมบัติที่จะเข้ามาเป็นผู้บริหารโรงเรียน ยังเป็นเพียงแนวคิด เพราะ สพฐ.เป็นผู้ใช้ แต่จะต้องหารือกับคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.) ก่อนว่าการทดสอบออนไลน์นี้ เป็นการลิดรอนและสกัดกั้นสิทธิเบื้องต้นของผู้ที่ต้องการเข้าสู่ตำแหน่งผู้บริหารโรงเรียนตามหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกผู้บริหารของก.ค.ศ. หรือไม่ หากสามารถทำได้ สพฐ.จะใช้ในการคัดเลือกผู้บริหาร ทั้งตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน รองผู้อำนวยการโรงเรียน ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และรองผู้อำนวยการ สพท.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี