รมว.คลังเผย รอ สศค.ศึกษาโครงการ“ชิมช้อปใช้” เฟส 2 เสร็จพร้อมชงเข้าครม.ภายในเดือนตุลาคมนี้ เปิดกว้างประชาชนรอบแรกลงทะเบียน หนุนใช้จ่ายท่องเที่ยวเมืองรอง พร้อมปรับระบบลงทะเบียน-การยืนยันตัวตนไม่ให้มีปัญหาซ้ำ โฆษกฯสรุปยอดใช้จ่าย 12 วันแรกเงินสะพัดกว่า 4 พันล้าน
เมื่อวันที่ 9 ตุลาคมนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินโครงการชิม ช้อบ ใช้ เฟส 2ว่า หลังสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ศึกษาโครงการ“ชิมช้อปใช้” เฟส 2 เมื่อสรุปแนวทางทั้งหมดชัดเจน กระทรวงการคลังเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาภายในเดือนตุลาคม เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี โดยเฉพาะการออกเดินทางไปใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวในเมืองรอง
สำหรับขั้นตอนลงทะเบียนเฟส 2 เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากกว่า 10 ล้านคน เบื้องต้นประชาชนเข้ามาลงทะเบียนไม่ต่ำ 5 ล้านคน พร้อมเปิดโอกาสให้ประชาชนกลุ่มใหม่ที่ยังไม่ลงทะเบียนและกลุ่มคนลงทะเบียนไปแล้วรอบแรก เพื่อความเป็นธรรมของทุกกลุ่ม สศค. กำลังกำหนดรูปแบบและแก้ไขการยืนยันตัวตน ส่วนการลงทะเบียนต้องปรับเวลา เช่น ลงทะเบียนช่วงกลางวัน เพื่อไม่ให้ประชาชนต้องมาลงทะเบียนช่วงดึก และต้องศึกษาภาระงบประมาณบริหารโครงการ หวังให้ประชาชนช่วยการใช้จ่ายช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ ส่วนค่าใช้จ่ายหักลดหย่อนภาษี ใช้เงินผ่านแอปพลิเคชั่นรูปแบบใด สศค.กำลังศึกษาหารูปแบบที่เหมาะสม
ด้านนายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง สรุปผลการลงทะเบียนรับสิทธิ์มาตรการ “ชิมช้อปใช้”ว่า มีผู้ลงทะเบียนครบจำนวนทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม เป็นต้นมาเปิดให้ลงทะเบียนเก็บตกตามสิทธิ์ที่ยังคงเหลือ ล่าสุดมีผู้ได้รับสิทธิ์ใกล้ครบ 10 ล้านราย ส่วนการตรวจสอบสิทธิ์ผู้ลงทะเบียน 14 วันแรกเสร็จแล้ว โดยมีผู้ได้รับสิทธิ์ 9,939,590 ราย ซึ่งผู้ลงทะเบียน 13 วันแรกได้รับ SMS ยืนยันสิทธิ์แล้ว 9,693,845 ราย ทั้งนี้ มีผู้เข้ายืนยันตัวตนในแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” แล้ว 8,854,072 ราย ยืนยันตัวตนสำเร็จ 7,934,311 ราย และมีผู้ที่ยังไม่ได้ติดตั้งแอปพลิเคชัน 839,773 ราย
โฆษกกระทรวงการคลังกล่าวต่อว่า ในการใช้จ่าย 12 วันแรก มีผู้ใช้สิทธิ์ 4,535,561 ราย ยอดใช้จ่ายรวม 4,296 ล้านบาท ซึ่งเป็นการใช้จ่าย g-Wallet ช่อง 1 ประมาณ 4,254 ล้านบาท โดยเป็นการใช้จ่ายที่ร้าน “ช้อป” ซึ่งเป็นร้านในกลุ่ม OTOP ร้านวิสาหกิจชุมชน รวมทั้งร้านธงฟ้าประชารัฐ 2,416 ล้านบาท ส่วนร้าน “ชิม” หรือร้านอาหารและเครื่องดื่มมียอดใช้จ่าย 583 ล้านบาท ร้าน “ใช้” เช่น โรงแรม โฮมสเตย์ มียอดใช้จ่าย 55 ล้านบาท และร้านค้าทั่วไป มียอดใช้จ่าย 1,200 ล้านบาท ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า มีการใช้จ่ายในร้านค้าขนาดใหญ่ที่มีหลายสาขาประมาณ 817 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนลดลงต่อเนื่องจากร้อยละ 22 ในช่วงเริ่มต้น เป็นร้อยละ 19 ของยอดใช้จ่ายทั้งหมด
สำหรับการใช้จ่าย g-Wallet ช่อง 2 มีผู้ใช้สิทธิ์แล้ว 15,027 ราย มียอดใช้จ่ายประมาณ 42 ล้านบาทหรือเฉลี่ยรายละ 2,782 บาท ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า ภายใน 5 วัน โดยเป็นการใช้จ่ายที่ร้าน “ช้อป” 27 ล้านบาท ส่วนร้าน “ชิม” และร้าน “ใช้” มียอดใช้จ่าย 9 ล้านบาท และ 6 ล้านบาท ตามลำดับ
นอกจากนี้ มีการใช้จ่ายกระจายครบ 77 จังหวัดทั่วประเทศ โดยจังหวัดที่ใช้จ่ายมากที่สุด 10 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพฯ 536 ล้านบาท ชลบุรี 297 ล้านบาท สมุทรปราการ 184 ล้านบาท ปทุมธานี 135 ล้านบาท พระนครศรีอยุธยา 130 ล้านบาท ระยอง 114 ล้านบาท นครปฐม 108 ล้านบาท ลำพูน 105 ล้านบาท เชียงใหม่ 101 ล้านบาท และ นนทบุรี 101 ล้านบาท
โฆษกกระทรวงการคลัง ยังกล่าวย้ำว่า สำหรับผู้ได้รับสิทธิ์จากการลงทะเบียนวันแรก วันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา และยังไม่ได้เริ่มใช้จ่าย ขอให้เริ่มใช้จ่ายภายในวันที่ 10 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่จะครบ 14 วัน เพื่อรักษาสิทธิ์ และสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนสำเร็จและได้รับ SMS ยืนยันสิทธิ์แล้ว ขอให้รีบติดตั้งแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และเริ่มการใช้จ่ายภายใน 14 วัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี