วาฬบรูด้าเพชรบุรี ถามหาจิตสำนึกนักท่องเที่ยว “วราวุธ” ระบุโทษทั้งจำคุกและปรับสูงสุด 1.5ล้าน สั่งเร่งจัดระเบียบเพื่อผลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวชมวาฬ แบบเกาะเซบู ฟิลิปปินส์
ตามที่มีข่าวกลุ่มนักท่องเที่ยวไฮโซขับเจ็ทสกีกว่า 20 ลำ ขับวนบริเวณหาดเจ้าสำราญ จังหวัดเพชรบุรี เพื่อชมวาฬบรูด้าในช่วงเทศกาล “ชมวาฬ ทานปู” ซึ่งทางจังหวัดเพชรบุรี ร่วมกับเทศบาลตำบลหาดเจ้าสำราญ โดยมีชมรมเรือประมงชายฝั่ง จัดให้บริการนักท่องเที่ยวนั่งเรือชม “วาฬบรูด้า” ในท้องทะเลอ่าวไทยรูปตัว ก.จนเป็นที่นิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วไปนั้น
โดยนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม กล่าวแสดงความกังวลในกรณีดังกล่าว ว่าที่กลุ่มนักท่องเที่ยวขับเจ็ตสกีกว่า 20 ลำ ชมวาฬบรูด้าจนอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ฝูงวาฬ และถูกรบกวนการหากินจากเสียงเครื่องยนต์ ทั้งนี้ตนทราบเรื่องนี้จากรายงานด่วน ของนายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแล้ว จึงได้สั่งการให้นายยุทธพล กำชับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งให้เพิ่มความเข้มงวดในการดูแลฝูงวาฬบรูด้าที่มาหากินบริเวณชายฝั่งจังหวัดเพชรบุรี พร้อมให้เพิ่มการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้นักท่องเที่ยวถึงวิธีการชมวาฬที่ถูกต้องและไม่รบกวนวิถีชีวิตฝูงวาฬ ตามแนวทางการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติอย่างยั่งยืน
“สำหรับฝูงวาฬบรูด้า ที่มาหากินบริเวณชายฝั่งทะเลเพชรบุรี ถือเป็นของขวัญที่มีค่าจากธรรมชาติ ฉะนั้นนักท่องเที่ยวที่ต้องการชมวาฬบรูด้า ต้องช่วยกันดูแลรักษา และปฏิบัติตามก”ระเบียบในการเยี่ยมชมด้วย ที่นอกจากนี้ ต้องคิดถึงคนอื่น และชาวบ้านในพื้นที่ที่อาศัยรายได้จากการท่องเที่ยวที่เกิดจากฝูงวาฬบรูด้า การเข้าไปรบกวนวิถีชีวิต หรือสร้างความตกใจให้ฝูงวาฬที่มีพฤติกรรมละเอียดอ่อน เพราะเท่ากับเป็นการขับไล่วาฬ ไม่ให้กลับมาที่นี่อีก” นายวราวุธ กล่าว
นายวราวุธ กล่าวต่ออีก โดยได้ยกตัวอย่าง เกาะเซบู ประเทศฟิลิปปินส์ ที่เป็นแหล่งดำน้ำชมฉลามวาฬที่มีชื่อเสียงระดับโลกว่า มีมาตรการที่เข้มงวดในการดูแลรักษาฝูงฉลามวาฬ โดยภาครัฐได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นกฎระเบียบต่าง ๆ ตั้งแต่การห้ามทาครีมกันแดดลงดำน้ำ เพื่อป้องกันสารเคมีเจือปนน้ำทะเล ไปจนถึงการห้ามนำเรือติดเครื่องยนต์ออกไปชมฝูงฉลามวาฬ ต้องจ้างเรือพายเท่านั้น ซึ่งนอกจากจะลดความเสี่ยงในการรบกวนฝูงวาฬแล้ว ยังสร้างรายได้จากการรับจ้างให้ชาวบ้านท้องถิ่นด้วย
นายวราวุธ กล่าวว่า สำหรับจุดชมวาฬบรูด้า ที่เพชรบุรี ก็สามารถพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่มีชื่อเสียงเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เช่นเดียวกัน โดยตนจะประสานงานกับหน่วยงานด้านการท่องเที่ยว เพื่อหารือในเรื่องนี้ต่อไป ทั้งนี้ขอให้นักท่องเที่ยวทุกคนที่มาชมวาฬบรูด้า มีจิตสำนึกในการท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์ด้วย เนื่องจาก การขับเจ็ทสกีวนรอบบริเวณที่อยู่อาศัยของวาฬบรูด้า จะสร้างผลกระทบโดยตรงต่อการหาอาหารและการอยู่อาศัยของวาฬในบริเวณดังกล่าว อีกทั้งอาจเกิดเหตุที่เป็นอันตรายต่อวาฬบรูด้า จึงอยากขอร้องให้หยุดการกระทำดังกล่าวอย่างเด็ดขาด
ด้านนายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า ตนได้สั่งการให้สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 3 (จังหวัดเพชรบุรี) ลงพื้นที่โดยด่วน โดยให้ออกเรือไปตักเตือนนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวไม่ให้นำขบวนเจ็ตสกีไปรบกวนวาฬอีก พร้อมประสานหน่วยงานเจ้าท่าในพื้นที่เพื่อตรวจสอบใบอนุญาตการใช้เรือและใบนายท้ายเรือของกลุ่มผู้ขับเจ็ทสกี อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ขับเจ็ทสกีได้ทราบและเข้าใจถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นและพร้อมหยุดการกระทำดังกล่าวอย่างเด็ดขาด
อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเล กล่าวอีกว่า วาฬบรูด้าเป็นเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อาศัยอยู่ในทะเล หายใจด้วยปอด เป็นวาฬชนิดที่ไม่มีฟัน แต่มีซี่กรองอาหาร มีลักษณะเด่น คือ มีสันนูน ผิวหนังเรียบ สีเทาดำ ท้องสีอ่อนหรือสีชมพู ขนาดโตเต็มวัยมีความยาวประมาณ 14-15 เมตร น้ำหนักประมาณ 20 ตัน ให้ลูกครั้งละ 1 ตัว ทุกๆ 2 ปี ปัจจุบันวาฬบรูด้าได้รับการประกาศให้เป็นสัตว์สงวน ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ในพื้นที่อ่าวไทยมีประชากรวาฬบรูด้า ประมาณ 50 ตัว จากการสำรวจในแต่ละวัน อาจพบได้ตั้งแต่ 1 ตัว หรือมากถึง 10 ตัว ขึ้นกับปริมาณของปลาที่เป็นอาหาร
อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเล กล่าวว่า สำหรับข้อปฏิบัติในการชมวาฬบรูด้าที่สำคัญ คือ ความเร็วเรือต้องต่ำกว่า 7 น็อต ในรัศมี 400 เมตร และต่ำกว่า 4 น็อต ในรัศมี 100-300 เมตร จำนวนเรือไม่เกิน 3 ลำ โดยรอบพื้นที่ นอกจากนี้ การสร้างเสียงรบกวนทั้งจากเหนือน้ำและใต้น้ำ จะส่งผลกระทบต่อวาฬ ดังนั้น จึงไม่ควรกระทำการใด ๆ ให้เกิดเสียงดังมาก เช่น การเร่งเครื่องยนต์เรือ การใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ และการส่งเสียงดังของนักท่องเที่ยว สำหรับโทษตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ระบุว่า “ห้ามมิให้ผู้ใดล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นการล่า โทษสำหรับสัตว์ป่าสงวนคือ จำคุก 3-15 ปี ปรับ 300,000-1,500,000 บาท และ ในกรณีครอบครอง มาตรา 17 ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากสัตว์ป่า โทษครอบครองคือจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หากกลุ่มเจ็ทสกีมารบกวนวาฬอีก ทางกรมฯก็จะดำเนินการตามกฎหมายนี้อย่างเด็ดขาด
อย่างไรก็ตาม ก็ต้องขอความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่และกลุ่มผู้ให้บริการนักท่องเที่ยวช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบเห็นเหตุการณ์หรือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ขอให้แจ้งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อจะได้ตรวจสอบและแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ ตนจะลงพื้นที่ในวันเสาร์นี้เพื่อติดตามและพูดคุยกับชาวบ้านและหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อแก้ไขปัญหา พร้อมจะกำหนดแนวทางและมาตรการที่ชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อวาฬบรูด้าและทรัพยากรทางทะเลอื่น ๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี