ชี้ชะตาคดีบิลลี่
‘กรวัชร์’นัดถกทีมสอบ
คาด25ต.ค.ได้ข้อสรุป
“พ.ต.ท.กรวัชร์” นัดประชุมทีมสอบคดีฆาตกรรม“บิลลี่”นัดสุดท้าย ก่อนพ้นเก้าอี้สัปดาห์หน้า ขณะที่อธิบดีดีเอสไอเผยเตรียมดึง “กรวัชร์”เป็นที่ปรึกษาคดีดังกล่าวด้านรมว.ยุติธรรม ยืนยันมติ ครม.แต่งตั้งโยกย้ายเป็นการให้รางวัล ไม่ใช่ลงโทษ ยันไม่กระทบคดี
เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติแต่งตั้งโยกย้ายข้าราช การระดับสูงกระทรวงยุติธรรม 4 ราย คือ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอสไอ และรองอธิบดีอีก 4 ราย ว่าเป็นการเลื่อนตำแหน่งที่สูงขึ้น จากระดับซี 9 ขึ้นไปเป็นซี 10 ทั้งนี้ ในส่วนของคดีฆาตกรรม นายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำกระเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย นั้น ดีเอสไอทำงานในรูปแบบคณะกรรมการอยู่แล้ว โดยคณะกรรมประกอบด้วย อัยการ พนักงานสอบสวน และผู้ทรงคุณวุฒิร่วมทำคดีด้วย แม้ พ.ต.ท.กรวัชร์ จะขึ้นไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรมแล้ว แต่ดีเอสไอจะเชิญมาเป็นที่ปรึกษาในคดีบิลลี่ด้วย โดยขณะนี้ดีเอสไอยังรอผลตรวจกระดูกนิติเวชจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์และหลักฐานอีก 2-3 อย่าง ยืนยันยังเดินหน้าทำคดีอย่างต่อเนื่อง
ด้าน พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าตนจะประชุมหารือกับคณะพนักงานสอบสวน คดีฆาตกรรมบิลลี่ เพื่อมอบหมายแนวทางการสอบสวนคดีเป็นรอบสุดท้าย ก่อนจะพ้นตำแหน่งรองอธิบดีดีเอสไออย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ จะหารือกับ อธิบดีดีเอสไอ ในเรื่องการทำความเข้าใจกับ น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ หรือมึนอ ภรรยาของบิลลี่ เพื่อให้ความมั่นใจเรื่องคดีที่ดีเอสไอยังคงทำต่อเนื่อง ถึงแม้ตนจะไม่ได้อยู่ตำแหน่งก็ไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อการสอบสวน ซึ่งตนยอมรับว่าห่วงและกังวลต่อความรู้สึก จึงอยากยืนยันว่าคดีบิลลี่ ดีเอสไอยังคงทำคดีอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ แหล่งข่าวจาก ดีเอสไอ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการสอบสวนคดีฆาตกรรมบิลลี่ ว่า ในการประชุมคณะพนักงานสอบสวนเมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมานั้น อธิบดีดีเอสไอได้เร่งรัดให้ชุดสอบสวนทุกชุดเร่งสรุปผลการสอบสวนและตัดสินใจถึงการดำเนินการกับกลุ่มผู้ต้องสงสัย ว่าจะขออนุมัติหมายจับ หมายค้นจากศาลอาญา หรือจะพิจารณาออกหมายเรียก เพื่อแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องสงสัย โดยขีดเส้นให้ได้ข้อยุติในการประชุมคณะพนักงานสอบสวน นัดต่อไปในวันที่ 25 ตุลาคมนี้ ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่สอดรับกับกำหนดส่งผลการตรวจพิสูจน์ชิ้นส่วนกระดูก 8 ชิ้น ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์
ขณะที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ยืนยันว่า พ.ต.ท.กรวัชร์ เป็นข้าราชการซี 9 ในตำแหน่งรองอธิบดี แต่ ครม.มีมติให้เลื่อนขึ้นเป็นซี 10 ในตำแหน่งผู้ตรวจราชการ ไม่ใช่เป็นการเด้ง แต่เป็นการให้รางวัลตำแหน่งสูงขึ้น เพราะ พ.ต.ท.กรวัชร์ มีผลงานดี จึงได้รับการโปรโมท เจ้าตัวก็ดีใจ และในดีเอสไอก็ไม่มีใครร้องไห้เลย ทั้งนี้ วิธีปฏิบัติของกระทรวงยุติธรรม เมื่อมีการแต่งตั้งตำแหน่งอธิบดีจะขยับข้าราชการจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการ เพื่อไม่ต้องเปิดสรรหาจากข้าราชการระดับซี 9 โดยรัฐมนตรีสามารถพิจารณาผู้เหมาะสมในระนาบเดียวกันเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบได้ทันที ในอนาคตเมื่อ พ.ต.ท.กรวัชร์ ได้เป็นข้าราชการซี 10 แล้ว เมื่อมีโอกาสหรือตำแหน่งว่างก็สามารถขยับเป็นอธิบดีได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการโยกย้าย พ.ต.ท.กรวัชร์ จะไม่มีผลกระทบต่อการสอบสวนคดีบิลลี่ เพราะการทำคดีของดีเอสไอจะทำในรูปแบบคณะกรรมการ การสอบสวนยังคงดำเนินต่อไปได้ อีกทั้งอธิบดีดีเอสไอ และ พ.ต.ท.กรวัชร์ ก็ลงพื้นที่ทำงานด้วยกันมาตลอด จึงไม่มีปัญหา ขอให้ทุกคนสบายใจได้ อย่าไปคิดมาก แต่งตั้งให้เป็นผู้ตรวจไม่ใช่เป็นการเด้ง แต่เป็นการให้รางวัล และไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อการสอบสวนคดีทั้งคดีรถยนต์หรู หรือคดีบิลลี่
ด้าน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ชี้แจงถึงกรณี ครม.มีมติ ให้ พ.ต.ท.กรวัชร์ เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรมว่า เป็นการโปรโมทให้ได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้นจากซี 9 เป็นซี 10 ส่วนที่หวั่นเกรงกันว่าจะมีการบิดเบือนคดีนั้น ขอยืนยันว่าไม่ต้องเป็นห่วง เพราะตนจะตั้ง พ.ต.ท.กรวัชร์ ให้เป็นที่ปรึกษาพิเศษคดีฆาตกรรมบิลลี่ โดยจะให้มีอำนาจดูแลคดีได้ทั้งหมดตามอำนาจหน้าที่รัฐมนตรีสั่งการได้ ดังนั้นขอให้สบายใจได้ ไม่ต้องสงสัยอะไรทั้งสิ้น ส่วนการตั้งข้อสังเกตจากเอ็นจีโอว่าการย้าย พ.ต.ท.กรวัชร์ จะส่งผลให้มีการสั่งการจากผู้ใหญ่ทำให้คดีพลิกนั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริงและไม่ต้องเป็นห่วง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี