วันที่ 25 ตุลาคม 2562 เวลา 10.30 น. พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว พร้อมด้วย พ.ต.ต.หญิงนภัชญา จำปาชัย สว.ตม.จว.สระแก้ว นำกำลัง จนท.ชุดสืบสวนปราบปราม ตม.จว.สระแก้ว ประสานความร่วมมือกับ ร.อ.เตชทัต เฉลิมจิตต์ ผบ.ร้อย ทพ.1201 (ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 1201) เข้าควบคุมตัวนายพุฑฒิพงษ์ เศรษฐนะวงศ์ อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64/292 ม.8 ต.อ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดบุรีรัมย์ที่ 10/2562 ลงวันที่ 20 ส.ค.2562 ซึ่งได้กระทำผิดฐาน”ฉ้อโกง” ขณะจะเดินทางออกไปฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา บริเวณช่องตรวจหนังสือเดินทางขาออกราชอาณาจักร ด่าน ตม.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลัง จนท.ตม.ประจำช่องตรวจหนังสือเดินทางขาออกราชอาณาจักรได้ตรวจหนังสือเดินทางของนายพุฑฒิพงษ์ เศรษฐนะวงศ์ ที่นำมายื่นแสดงเพื่อให้ จนท. ตม.ฯประทับตราอนุญาตออกนอกราชอาณาจักรแต่ จนท.ตม.ฯได้นำพาสปอร์ตไปตรวจสอบในระบบฐานข้อมูลสารสนเทศน์ สตม. พบว่านายพุฑฒิพงษ์ เศรษฐนะวงศ์ มีหมายจับของศาลจังหวัดบุรีรัมย์ จึงรายงานให้ พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ทราบและนำกำลังมาควบคุมตัวไปสอบสวนที่ ห้องสอบสวน ด่าน ตม.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
จากการสอบสวนเบื้องต้นนายพุฑฒิพงษ์ เศรษฐนะวงศ์ รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริงอ้างตนกำลังจะเดินทางไปลงทุนทำธุรกิจร่วมกับเจ้าของบ่อนกาสิโนแห่งหนึ่งในฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา และรับสารภาพว่าตนได้ไปเช่าซื้อรถเก๋ง ยี่ห้อเชฟโรเลตที่จังหวัดบุรีรัมย์เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตนได้ขาดส่งค่างวดรถเก๋งคันดังกล่าวกับไฟแนนซ์ ประมาณ 300,000 บาท จึงถูกฟ้องร้องและถูกออกหมายจับดังกล่าว จากนั้น จนท.จึงควบคุมตัวนายพุฑฒิพงษ์ เศรษฐนะวงศ์ นำส่ง พนง.สอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ ไปดำเนินคดีตามหมายจับของศาลจังหวัดบุรีรัมย์ต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี