10 พฤศจิกายน 2562 จากกรณีที่นายสุนันท์ รามดร หรือกำนันไข่ วัย 65 ปี ที่ใช้อาวุธปืน ขนาด 9 มม.ยิงกระหน่ำแบบไม่ยั้งมือ จนมีผู้เสียชีวิตคาที่ จำนวน 3 ศพ ประกอบด้วย นางจินดา หรือเหมีย ทองพรหม อายุ 61 ปี นางพรทิพย์ หรือเอม ภูวิชิต อายุ 38 ปี ลูกสาวนางจินดา และ ด.ญ.นัยปพร ภูวิชิต อายุ 13 ปี ลูกสาวของนางพรทิพย์ และรอดตายอย่างหวุดหวิด 2 คน คือ นางสาวนนทกานต์ ภูวิชิต อายุ 15 ปี ด.ช.นวนนท์ ภูวิชิต อายุ 12 ปี ลูกสาวและลูกชายของนางพรทิพย์ ภายในบ้านที่เลข 9/2 ม.7 ต.ขุนกระทิง อ.เมือง จ.ชุมพร ก่อนนายสุนันท์ หรือกำนันไข่ ได้ขับรถ จยย.มายัง สภ.เมืองชุมพร มามอบตัวพร้อมนำอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุมามอบให้ กับตำรวจ
เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.วิมล พิทักษ์บูรพา ผบก.ภ.จว.ชุมพร ได้เดินทางมายัง สภ.เมืองชุมพร ซึ่งเป็นสถานที่คุมขังตัวนายสุนันท์ เพื่อร่วมสอบปากคำเพิ่มเติมถึงมูลเหตุของการก่อเหตุในครั้งนี้ โดยมี พ.ต.ท.วิชัย แสงวิเชียรรอง ผกก.สอบสวน (ชำนาญการ)สภ.เมืองชุมพร ร่วมสอบสวน
นายสุนันท์ ได้ให้การว่า ย้อนไปเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา ตนเองดำรงตำแหน่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน และมีนางจินดา เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และนางจินดา กับตนถือว่าร่วมทำงานด้วยกันด้วยสุจริตใจโดยไม่มีเรื่องอื่นมาเกี่ยวพันในทางไม่ดี เพื่อช่วยเหลือกันทั้งงานราชการและงานส่วนตัว ตนเองก็เคยช่วยเหลือนางจินดา ไม่ว่ายืมเงินไปซื้อปุ๋ย หรือ ทำอื่นใด หากหมุนเงินไม่ทัน แต่ทุกครั้งนางจินดาก็คืนเงิน จนกระทั่งตนไปเป็นกำนัน และเกษียณอายุก็ยังคบค้าสมาคมกันตลอด
นายสุนันท์ กล่าวต่อว่า แต่ในขณะเดียวกัน นางพรทิพย์ หรือ เอม ซึ่งเป็นลูกสาวของนางจินดา ได้มายืมเงินตน ซึ่งตนก็ถือว่าเป็นหลาน ก็ให้ยืมใหม่ๆไม่มีอะไร แต่พอนานเข้า นางพรทิพย์ มาพูดทำนองว่ามีญาติสนิท ชื่อกนกวรรณ หรือนก ซึ่งตนเองก็เรียกนางฟ้า เข้ามาเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ โดยนางพรทิพย์ บอกว่า นก อยู่อเมริกา ต้องการใช้เงินเพื่อไปทำธุรกรรมเกี่ยวกับที่ดินของสามีชาวต่างชาติ ที่เสียชีวิตลง และเป็นมรดก นกจึงจะขายที่ดินเพื่อกลับประเทศไทย โดยจะขายที่ดินได้ไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท ครั้งแรกก็ให้โอนเงินให้เป็นยอดเงินแสนบาท
นายสุนันท์ กล่าวต่อว่า เงินที่ให้ไป จะผ่านมือนางพรทิพย์ ทุกครั้ง พอสอบถามเรื่องเงินที่ให้ไป ก็ได้คำตอบว่า นก ติดขัดเรื่องการขายที่ดิน จำเป็นต้องใช้เงินอีก อ้างว่าจะจ่ายให้กับคนโน้นคนนี้ และทุกครั้งที่มาทวงถาม นางพรทิพย์ ก็จะทำทีโทรศัพท์พูดคุยไปที่ นก ซึ่งตนเองไม่เคยเห็นหน้าเลยสักครั้ง ทำให้ตนเองก็กลัวเงินเก่าไม่คืน เลยต้องเอาเงินมาเพิ่มให้อีก เป็นแบบนี้หลายๆครั้ง
นายสุนันท์ กล่าวอีกว่า ตนเองไม่รู้เลยว่า นก มีจริงหรือไม่ แต่ตอนอยู่ที่บ้าน เคยมีคนชื่อ นก โทรมาที่ตน และทุกครั้งที่โทรมาเหมือนรู้ว่าตนเองขายทุเรียนได้หลายล้าน และพูดยกแม่น้ำทั้งห้ามาหว่านล้อมตนเอง เรื่องเงินที่จะได้ และเงินที่ต้องใช้ ระหว่างดำเนินการ เพราะตนเองเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือคน จึงเหมือนเป็นเหยื่อ จนล่าสุดก่อนเกิดเหตุ ตนเองได้ไปพูดคุยกับนางพรทิพย์ เรื่องเงิน ที่นางพรทิพย์ ได้บอกว่า นก จะโอนมาให้วันนี้ แต่พอไปเข้าจริงกลับถูกบ่ายเบี่ยง แถมยังพูดแบบไม่ใยดีอีกด้วย ทำให้ตนเองคุมสติไม่อยู่ คว้าปืนที่พกอยู่ตลอดยิงแบบไม่ยั้งด้วยความโมโห ที่ถูกเด็กรุ่นหลาน ที่เชื่อถือมาหลอก และหลังก่อเหตุก็มามอบตัวดังกล่าว ซึ่งตนเองยอมรับในการกระทำในครั้งนี้ ที่โหดร้ายรุนแรง
ด้าน พล.ต.ต.วิมล พิทักษ์บูรพา ผบก.ตร.ชุมพร เปิดเผยหลังได้พูดคุยกับทางนายสุนันท์ ว่าทางผู้ก่อเหตุ ได้สารภาพทุกอย่าง โดยมูลเหตุก็เพราะถูกนางพรทิพย์ หลอกเอาเงินไป โดยสร้างเรื่องขึ้นมา ว่ามีคนที่อยู่เมืองนอก เดือดร้อน ต้องการใช้เงิน เพื่อนำไปดำเนินการเรื่องที่ดิน ที่ต้องการจะขาย เป็นเงินกว่า 50 ล้านบาท แล้วจะกลับมาอยู่เมืองไทยแล้วจะคืนให้ แต่จนแล้วจะรอดหลายครั้งที่ให้เงินไป ถึง13 ล้านบาท ก็ไร้วี่แววที่จะคืนลักษณะเช่นนี้เป็นสิ่งที่เป็นคล้ายพฤติกรรม ของกลุ่มคนที่ชอบหลอกลวงเอาเงินจากผู้อื่นโดยเอาเงินหรือทรัพย์สินจำนวนมากมาล่อ ในวงการเรียก ว่า”แก็งควาย”
ล่าสุด ทางนางพรทิพย์ บอกว่า เค้าจะโอนมาให้ในเช้าวันที่ 9 พ.ย.62 ซึ่งเป็นวันก่อเหตุ นายสุนันท์ ได้เดินทางไปเพื่อจะไปเอาเงิน แต่ถูกนางพรทิพย์ พูดโยกโย้ไปมา ทำให้นายสุนันท์ โกรธจนก่อเหตุในที่สุด และทั้งนี้ได้สั่งให้ทางพนักงานสอบสวน ได้รวบรวมพยานหลักฐาน แวดล้อม อันเป็นประโยชน์ให้มากที่สุด เพื่อจะได้สรุปสำนวน ซึ่งก็จะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา คือ 1.พยายามฆ่า 2.ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง 3.พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะตามพรบ.อาวุธปืน ไว้ก่อน ส่วนการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ต้องรอพนักงานสอบสวนว่าจะดำเนินการได้เมื่อไหร่ และ ขึ้นกับผู้ต้องหาด้วยจะพร้อมที่จะดำเนินการทำแผนหรือไม่อย่างไร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี