14 พ.ย.62 กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. ,พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์, พ.ต.อ.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.5 บก.ป.,พ.ต.ท.สุพจน์ พุ่มแหยม, ,พ.ต.ท.เผด็จ งามละม่อม,พ.ต.ท.สิทธิเกียรติ ศรีจันทร์ พ.ต.ท.อนุชา ศรีสำโรง รอง ผกก.5 บก.ป. 

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม นำโดย พ.ต.ต.เกริก เสนาะสำเนียง สว.กก.5 บก.ป. พร้อมกำลังข้าราชการตำรวจ กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม

ได้ร่วมกันจับกุม นายมนัสวุฒิ วิโรจนะ อายุ 32 ปี สัญชาติไทย ที่อยู่บ้านเลขที่ 77/13 หมู่ 8 ต.เขาน้อย อ.ท่าม่วง จว.กาญจนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 447/2559 ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2559 โดยกล่าวหาว่า “พยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุม, ทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่นหรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย”

ด้วยเมื่อประมาณวันที่ 25 มิถุนายน 2559 ซึ่งเป็นวันงานเลี้ยงภายในหมู่บ้าน นายมนัสวุฒิฯผู้ต้องหาได้ขับรถมอเตอร์ไซค์จากงานเลี้ยงดังกล่าวออกมาบริเวณถนนสาธารณะ ม.1 ต.เขาน้อย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ต่อมาทางผู้เสียหายได้ขับรถหกล้อส่งของผ่านมาเจอกับนายมนัสวุฒิฯซึ่งขับรถมาลักษณะปาดหน้า จนผู้ต้องหาโกรธ จึงได้ใช้อาวุธปืนซึ่งพกติดตัวมาขับรถไล่ยิงรถของผู้เสียหายไปจำนวนหลายสิบนัด ทำให้ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บและรถเกิดความเสียหาย หลังเกิดเรื่องผู้เสียหาย จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ออกหมายจับ ดังกล่าว จากนั้นผู้ต้องหาก็หลบหนีออกจากพื้นที่เรื่อยมา หลบหนีคดี อาศัยไม่เป็นหลักแหล่งทำให้ยากต่อการติดตามจับกุมตัว

ต่อมา วันที่ 14 พ.ย.2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้รับแจ้งจากสายลับว่านายมนัสวุฒิฯ หลบหนีมาพักอาศัยบริเวณพื้นที่ จ.นนทบุรี มาพักอาศัยอยู่กับญาติ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เฝ้าติดตามสืบสวนจับกุมได้ในที่สุด ด้านนายมนัสวุฒิฯ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่าในวันเกิดเหตุขณะนั้นตนเองเมาจากงานเลี้ยงคิดว่าเป็นคู่อริตามราวี จึงเกิดความโกรธแค้นและไล่ยิงปืนหมายเอาชีวิตส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุอ้างว่าได้ยืมมาจากเพื่อนหลังจากเกิดเรื่องได้โยนอาวุธปืนดังกล่าวทิ้งไปแล้ว