นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึง ภาวะเศรษฐกิจการเกษตรในไตรมาส 3 ปี 2562 (กรกฎาคม -กันยายน 2562) พบว่า ขยายตัวร้อยละ 1.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน ของปี 2561 เนื่องจากสาขาพืช สาขาการผลิตหลักของภาคเกษตรกลับมาขยายตัว หลังหดตัวลงในไตรมาสที่ผ่านมา โดยผลผลิตพืชเศรษฐกิจสำคัญเพิ่มขึ้น ได้แก่ ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ทุเรียน มังคุด เงาะ และมันสำปะหลัง สำหรับสาขาบริการทางการเกษตรและสาขาป่าไม้ยังขยายตัวได้ ขณะที่สาขาปศุสัตว์และสาขาประมงหดตัวลง
ด้านนายพลเชษฐ์ ตราโชผู้อำนวยการกองนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตร สศก.กล่าวถึงรายละเอียดว่า สาขาพืช ไตรมาส 3 ปี 2562 ขยายตัวได้ร้อยละ 1.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561 โดยพืชสำคัญที่ผลผลิตเพิ่มขึ้น ได้แก่ ยางพารา เนื่องจากเนื้อที่กรีดเพิ่มขึ้นจากพื้นที่ปลูกใหม่ในปี 2556 ปาล์มน้ำมัน เนื้อที่ให้ผลเพิ่มขึ้นประกอบกับต้นปาล์มน้ำมันส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุที่ให้ผลผลิตสูง ทุเรียน มีการขยายพื้นที่ปลูกในปี 2557 ทำให้มีเนื้อที่ให้ผลเพิ่มขึ้น มังคุด เนื้อที่ให้ผลเพิ่มขึ้น เงาะ ราคาปีที่ผ่านมาดี จูงใจให้เกษตรกรบำรุงและดูแลต้นให้สมบูรณ์ และมันสำปะหลัง ปีที่ผ่านมาราคาดี ทำให้มีเนื้อที่เก็บเกี่ยวเพิ่มขึ้น และเกษตรกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เร่งขุดมันสำปะหลังขายก่อนกำหนด ทำให้มีผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น
สำหรับพืชที่มีผลผลิตลดลง ได้แก่ ข้าวนาปี เพราะฝนทิ้งช่วงฝนมาช้า ทำให้บางพื้นที่ขาดน้ำ และผลกระทบจากพายุโพดุล ทำให้ต้นข้าวเสียหาย ข้าวนาปรังประสบภาวะภัยแล้ง สับปะรดโรงงาน เพราะราคาปีที่ผ่านมาต่ำ เกษตรกรจึงเปลี่ยนไปปลูกพืชอื่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพราะหนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุด และฝนทิ้งช่วง บางส่วนเสียหายจากอุทกภัย และลำไย ผลผลิตลดเพราะอากาศร้อนจัดและฝนแล้ง ทำให้ติดผลน้อย
ด้านราคาสินค้าพืช ราคาข้าว ข้าวโพดเลี้ยงเพิ่มขึ้น เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง แต่ตลาดต้องการต่อเนื่อง สับปะรดโรงงาน ทุเรียน ราคาเพิ่มจากปริมาณผลผลิตที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด และราคาลำไยเพิ่มขึ้นจากปริมาณผลผลิตที่ออกสู่ตลาดลดลง ราคามันสำปะหลังลดลง เพราะผลผลิตออกสู่ตลาดปริมาณมาก และปัญหาน้ำท่วมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือทำ ราคายางพาราลดลง เนื่องจากผลผลิตมีปริมาณเพิ่มขึ้นจากพื้นที่เปิดกรีดยางใหม่ ราคาปาล์มน้ำมันลดลง เนื่องจากมีผลผลิตออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องและสต๊อกน้ำมันปาล์มยังคงมีปริมาณที่สูงกว่าสต๊อกเพื่อความมั่นคงที่ประเมินไว้ ส่วนราคามังคุดและเงาะลดลง เพราะปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้น
แนวโน้มเศรษฐกิจการเกษตรในปี 2562 คาดว่าจะขยายตัวอยู่ในช่วงร้อยละ 0.5 – 1.5 เมื่อเทียบกับปี 2561 โดยสาขาพืช สาขาประมง สาขาบริการทางการเกษตร และสาขาป่าไม้ มีแนวโน้มขยายตัว เนื่องจากผลผลิตพืชสำคัญหลายชนิดและกุ้งทะเลเพาะเลี้ยงมีทิศทางเพิ่มขึ้น
ส่วนสาขาปศุสัตว์มีแนวโน้มชะลอตัวจากผลผลิตสุกรที่ลดลง โดยปัจจัยสนับสนุนสำคัญมาจากการดำเนินนโยบายด้านการเกษตรอย่างต่อเนื่อง ทั้งการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ การวางแผนการผลิตอย่างเหมาะสม การส่งเสริมการรวมกลุ่ม การใช้เทคโนโลยีในการผลิตและยกระดับคุณภาพสินค้าเกษตร การบริหารการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด รวมถึงการส่งเสริมการใช้สินค้าเกษตรในประเทศอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากความแปรปรวนของสภาพอากาศ ทั้งภาวะแห้งแล้งและการเกิดพายุฝนที่อาจส่งผลต่อผลผลิตทางการเกษตร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี