นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการผลิตว่า จากการคาดการณ์ภัยแล้งของกรมชลประทาน กรมอุตุนิยมวิทยา กรมทรัพยากรน้ำบาดาลคาดว่าน้ำจะไม่พียงพดเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง คณะทำงานวางแผนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งจึงมีมติวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา เห็นชอบแผนเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ปี 2562/63 ตามที่มีน้ำในการเพาะปลูก พื้นที่รวม 7.21ล้านไร่ แยกเป็นปลูกข้าวปี 2562/63 รอบที่ 2จำนวน 4.54 ล้านไร่ (ในเขตชลประทาน 2.31 ล้านไร่ และนอกเขตชลประทาน 2.23 ล้านไร่) คาดว่าจะได้ผลผลิต 3.01 ล้านตันข้าวเปลือก แบ่งเป็น ข้าวหอมไทย 0.31 ล้านไร่ ผลผลิต 0.21 ล้านตันข้าวเปลือก ข้าวเจ้า 3.77 ล้านไร่ ผลผลิต 2.53 ล้านตันข้าวเปลือก และข้าวเหนียว 0.46 ล้านไร่ ผลผลิต 0.27 ล้านตันข้าวเปลือก
อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ มีมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร สนับสนุนการเพาะปลูกพืชช่วงฤดูแล้ง ได้แก่ 1)มาตรการ/โครงการที่ช่วยเหลือไปแล้ว 1.4 ล้านไร่ คือ ดำเนินโครงการส่งเสริมการปลูกพืชน้ำน้อยเพื่อสร้างรายได้แก่เกษตรกรเป้าหมาย 150,000 ครัวเรือน พื้นที่ 1.4 ล้านไร่ โดยสนับสนุนเป็นเงินโอนเข้าบัญชีเกษตรกรเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์ ให้ความช่วยเหลือตามพื้นที่ปลูกจริงรายละไม่เกิน 20 ไร่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เกษตรกร 100,000 ครัวเรือน พื้นที่ 1 ล้านไร่ อัตราไร่ละ245 บาท (ครัวเรือนละ 4,900 บาท)ถั่วเขียว เกษตรกร 50,000 ครัวเรือนพื้นที่ 0.4 ล้านไร่ อัตราไร่ละ 200 บาท (ครัวเรือนละ 4,000 บาท) และ2)โครงการปีงบประมาณ 2563 โครงการปลูกพืชหลากหลาย (แปลงสาธิต) พื้นที่ 0.018 ล้านไร่
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการที่กระทรวงเกษตรฯอยู่ระหว่างเสนอมาตรการโครงการกิจกรรม เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ 2 มาตรการคือ 1)โครงการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ ประกอบด้วย 3 กิจกรรมคือ กิจกรรมโคขุนสร้างรายได้ กิจกรรมส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อสร้างอาชีพ ระยะที่ 3ระยะเวลาดำเนินการ 10 ปี และกิจกรรมพัฒนาศักยภาพตลาดนัดโค-กระบือ ระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี และ 2)ประเมินจ้างแรงงานของกรมชลประทานในปีงบประมาณ 2563
สำหรับสถานการณ์การผลิตข้าว ปีการผลิต 2562/63 สศก.คาดการณ์พื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปีทั้งหมด 59.93 ล้านไร่ มีผลผลิต 24.32 ล้านตัน ซึ่งจะมีผลผลิตต่ำกว่าเป้าหมายที่เคยกำหนดไว้ 1.15 ล้านตันข้าวเปลือก ข้อมูล ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 ทั้งนี้ ผลผลิตข้าวลดลงจากที่เคยคาดการณ์ไว้ เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกข้าวที่สำคัญในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งช่วงต้นฤดูเพาะปลูกเดือนมิถุนายน - กรกฎาคม 2562 ส่งผลให้การเจริญเติบโตของต้นข้าวไม่สมบูรณ์ ประกอบกับช่วงเดือนสิงหาคม - กันยายน 2562 ได้รับผลกระทบจากพายุโพดุลและคาจิกิ ทำให้บางพื้นที่เกิดอุทกภัย นาข้าวที่มีน้ำท่วมขังนาน ต้นข้าวเน่าตาย รวมทั้งพื้นที่ปลูกข้าวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 5 จังหวัด มีการระบาดของโรคไหม้คอรวงทำให้เกิดผลเสียหาย
ทั้งนี้ ประเทศไทยส่งออกข้าวประมาณ 6.56 ล้านตันตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม- 6 พฤศจิกายน 2562) มูลค่า 111,551 ล้านบาท โดยปริมาณและมูลค่าส่งออกลดลงจากช่วงเดียวกันปี 2561 คิดเป็นร้อยละ 46.04 และ 35.18 ตามลำดับ เนื่องจากการค้าข้าวในตลาดโลกช่วงเดือนมกราคม - ตุลาคม 2562 ยังชะลอตัว โดยไทยส่งออกลดลงเป็นผลมาจากค่าเงินบาทยังแข็งค่าต่อเนื่อง อีกทั้ง ความต้องการซื้อของประเทศคู่ค้ามีเข้ามาน้อยโดยเฉพาะตลาดเอเชียและตะวันออกกลาง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี